ReadyPlanet.com


ดูการแถลงนโยบายรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ในรัฐสภาวันนี้


ฝ่ายค้านเตรียมมาอย่างดี  กะถล่ม  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน.ฝ่ายค้านบอกว่า ขอให้นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์แสดงให้เห็นภาวะผู้นำในการแถลงนโยบายวันนี้   ...........  ยังคงเหมือนเด็ก ๆ อยู่เหมือนเดิม   ตาใสแจ๋ว     ......    ทางคุณอดิศร เพียงเกษ  กับ คุณสุธรรม แสงประทุม  สงสัยว่านายอภิสิทธิ์ จะให้แสดงภาวะผู้นำอย่างไร .........  ให้พูดโกหกเป็นไฟแลบอย่างนายอภิสิทธิ์หรือ  นั่นไม่ใช่แสดงภาวะผู้นำ  แต่แสดงภาวะเด็กกะล่อน เด็กเลี้ยงแกะต่างหาก(ประโยคหลังผมพูดเองครับ)  ......ก็คุณยิ่งลักษณ์แสดงภาวะผู้นำมาอย่างชัดเจน แค่ 6 เดือนก็ได้รับการยอมรับจากประชาชนอย่างท่วมท้น จนนายอภิสิทธิ์ตกเก้าอี้ไป  ไม่ดูคะแนนเสียงเขาได้ 265  อภิสิทธิ์ ได้แค่ 159  จนออกมายอมแพ้เองแล้วอย่างนี้จะเอามาตรฐานไหน เป็นภาวะผู้นำ    มาตรฐานอภิสิทธิ์ มันก็ไม่ใช่ภาวะผู้นำ  มันภาวะเด็กเลี้ยงแกะไง  ครับ      ผมเห็นด้วยครับ...



ผู้ตั้งกระทู้ ปภัทร ภูธราธิปติ :: วันที่ลงประกาศ 2011-08-23 09:11:12


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3304820)

กำลังแถลงนโยบายไปตามลำดับ เป็นข้อ ๆ ไป  มาถึงเรื่องสตรีแล้ว    ...........  ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว...........ให้มีกองทุนพัฒนาสตรีไทย ...............

5.  ที่ดิน

5.1   การทำลายป่าไม้และสัตว์ป่า   ป่าชุมชน  เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า   คนกับป่า ...... แก้ กม. 5 ฉบับ   ..........ตามพระราชดำริ....

5.2    ฟื้นฟูทะเลไทย

 

คงจะได้เห็นตัวนโยบายทั้งหมดภายหลัง

เท่าที่ฟังมาเท่านี้ เพลินเลย  มีแรงขับความหวังไปให้เจิดจ้า.......

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปภัทร วันที่ตอบ 2011-08-23 11:08:38


ความคิดเห็นที่ 2 (3304821)

เราอยากให้ฝ่ายค้านใจกว้าง    มาร่วมกันทำงานจะดีกว่า  เราทั้งหมดต้องการเพิ่มพูนทุกอย่าง   เพื่อให้พวกเราทั้งหมดเพิ่มพูนไปตาม

อยากได้เงินเดือนสูง ๆ ไปด้วยกันทั้งหมด  ทำอย่างไรครับ  ??

ก็ต้องทำนโยบายที่แถลงนี้แหละครับ ให้สัมฤทธิ์ผลจนได้  

 

6.4    เน้นการวิจัย  ส่งเสริมการวิจัย ..................(สภาวิจัยแห่งชาติ   ก็โละเสียทีครับ   ผม)

7.2    ร่วมมือกับอาเซียน........................

ผู้แสดงความคิดเห็น ปภัทร วันที่ตอบ 2011-08-23 11:15:54


ความคิดเห็นที่ 3 (3304883)

ดูเหมือนมีคติตรงกันไปหมดว่า    การออกกฎหมายใดใด ก็เพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่  ไม่ใช่เพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง  ......................นึกว่าชอบธรรม

 

ความจริงแนวคิดนี้  เป็นสิ่งที่ไม่ชอบธรรมครับ   เป็นแนวคิดที่ผิด.................ที่ถูกก็คือ  เพื่อทั้งคนส่วนใหญ่  และคนส่วนน้อยก็ได้   แลแม้เพียงคนเดียว หรือเพื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งก็ได้เหมือนกัน ...........  เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายนั้นคือ  พิทักษ์ความเป็นธรรม    จริงไหม ........ ในเมื่อคน ๆ หนึ่งมีปัญหาเรื่องความไม่เป็นธรรม   เราก็จำเป็นต้องช่วยคนเพียงคนหนึ่งนั้น  ให้ได้ความเป็นธรรมด้วย กฎหมายจึงต้องให้ความเป็นธรรมแม้กับคนเพียงคนหนึ่งคนเดียว ด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น mahamad วันที่ตอบ 2011-08-23 22:59:51


ความคิดเห็นที่ 4 (3304921)

คำนูญ  สิทธิสมาน  เวลาพูดออกท่าออกทาง ไสตล์เหมือนเจ๊กลิ้มเจ้านายเขาไม่มีผิด เป็นพวกสนธิ ลิ้มทองกุล ....สายเจ๊ก........ไม่รู้มาได้อย่างไร ......อ๋อ !!!   สว.ประเภท  40      

 

วิฑูรย์  นามบุตร  อดีต รมต. ปลากระป๋องเน่า    ............ก็ลอกแบบ ท่าที ไสตล์ ปชป......เอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น .  ก็ว่าไปว่าเขาทำอะไรผิดจึงตัดรถไฟความเร็วสูงทางใต้ออก  สายกท-ใต้ ไม่มี   ทำไมจึงไม่มี   .............    อย่าแยกภาค  อย่าเลือกปฏิบัติ  อย่ามาตอกย้ำจังหวัดไหนเลือกทำ   ไม่เลือกไม่ทำ.......   คุณวิฑูรย์นี่อย่าว่าแต่โครงการใหญ่ขนาดรถไฟความเร็วสูงเลย คราวเป็นรัฐมนตรีช่วย ปชป.1   แค่ปลากระป๋อง ก็ทำไม่เป็น ....ทำปลากระป๋องเน่า   แล้วก็ยังไม่รู้อีกว่าทำของเน่า  ดันเอาไปทำขายหน้าถึงพัทลุง ....เสียหายไปเท่าไร  ไม่มีปัญญารู้ว่าเอาของเน่าไปแจกคนพัทลุงอีกด้วย .........แล้วพรรคพวกก็ช่วยให้รอดคุกไป ............. (แล้วมาพูดด่าคนอื่นอย่างกับว่าตัวฉลาดเหลือเกิน  ผมคิดว่าคนหน้าไม่อายขนาดนี้ก็ยังมีในประเทศไทย)

 

คนสงขลา เอสเอ็มเอส มาว่า เมื่อก่อนโง่ มาวันนี้อวดฉลาด เซ็ง........   เขาหมายถึง  ปชป.นั่นแหละ   เป็นอย่างเขาว่าจริง ๆ  แต่วันนี้คนใต้ก็ยังตาไม่สว่างพอ.......ยังไม่สว่างประชาธิปไตยครับ 

 

ปชป.ก็ว่าไปแบบ ปชป.(แต่วันนี้เปลี่ยนไปหน่อย.....ซบเซาไปนะ.....)   แต่ก็ยังมีแบบไสตล์เดิม ๆ  ...... คุณไปตำหนิเขาทำไม่ว่า   ทำไม่ได้หรอก ...........................  ถ้าทำไม่ได้เขาจะกล้าเสนอหรือ...........ตรงไหนที่คุณทำไม่ได้ ก็คิดเสียว่าคุณมันปัญญาควาย ก็ทำไม่ได้อยู่ดี   เขาใช้ปัญญาคนทำจึงทำได้ ..................... แล้วมันกงการอะไรของคุณที่ไปบอกให้เขาหยุดทำ..........  แค่คุณคอยดู         ถ้าเป็นอย่างคุณพูด จึงค่อยขย้ำเต็มที่............   ก็เท่านั้น   ประชาธิปไตย .....  เขาทำไม่ได้เขาก็อายลาออกไปเอง   คุณก็ได้โอกาสมาทำอีกครั้ง      เกรงแต่ว่าประชาธิปัตย์จะดีแต่พูดอยู่เหมือนเดิม  เท่านั้นเอง

 

ต้องทำแบบทักษิณซีครับ......คุณรู้ไหมญี่ปุ่นเขาเอาทักษิณไปรีด เอาอะไรที่อยู่ในมันสมองเขาออกมากะจะให้หมดให้เกลี้ยง(เขาเอาไปสต๊อกไว้ในหน่วยความจำของสมองกล  เขาเอาของคนเก่ง ๆในโลกมาหมดแหละครับไม่ใช่เพียงทักษิณ)    มันเป้นการต่อสู้   ทักษิณก็คิดเอาประโยชน์จากญี่ปุ่น  มาให้ประเทศไทย  เขาจะหลอกญี่ปุ่นมาอยู่ประเทศไทย  เอาเงินมาเยอะ ๆ   รู้ไหม    แล้วคนเอาเงินมาก็ซื้อของเยอะ เราก็ขายของได้เยอะ.........พอเข้าใจไหม  ??..............   มีปัญญามองอะไร ๆ  ที่มันลึกซึ้งละเอียดอ่อนขนาดนี้บ้างซี  .....(ถ้าเจ๊กรุ่นก่อน ๆ ที่มาอยู่เมืองไทย ก็จะด่าเอาว่า....อีนี่หัวขี้เลื่อยนี่!!!)

 

แล้วมีการสอนธรรมะ    ยถาสันโดษ   สันโดด มากกว่า ผมว่า...................

เอาไปไกล ๆ เถอะธรรมะเก่า ๆ    รัฐบาลจอมพลป.เคยให้เลิกใช้คำนี้ไปแล้ว   ไปวิเคราะห์ดูหน่อย  ก่อนจะเอามาพูด  ดูเหมาะอย่างไร กับกาลสมัย  เหตุ ผล บุคคล เวลา ........ รู้ไหมธรรมะมี  84000 หัวข้อ  คุณคิดว่าถ้าคุณเรียนรู้หมดทั้ง  84000 หัวข้อจะบรรลุอรหันต์หรือ.......  ไม่หรอก   จะบรรลุ  อวิชชา ต่างหาก  เขาเรียกว่าพวกโง่  .......  อ้าว.......ประธานบอกหมดเวลาแล้ว   ยังเทศน์ต่อไปอีก  ...................แล้วไปอ้างทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีหมด    นี่แสดงว่าไม่เข้าใจประชาธิปไตยเลย .......ประชาธิปไตยมีกำเนิดมาจากศาสนางมงายกำหนดระบบการปกครองโง่ ๆ   เอาคำสอนมากดข่มประชาชนให้เป็นทาส    เขาจึงดิ้นรนออกมาเป็น ของประชาชน  เพื่อประชาชน  โดยประชาชน   ยกเลิกระบอบเผด็จเทพเจ้า...ในยุโรป    จึงเป็นประชาธิปไตย  ไงล่ะ 

 

สส.คนต่อไปบอกว่ามีความสุข  ........................ เพราะนี่คือประชาธิปไตย  ผลงานของประชาธิปไตย    ไม่มีการปกครองใดที่จะให้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าระบอบประชาธิปไตย .....................   นี่สิ   เดี๋ยวฟัง ๆ ไปก่อน   จะเพี้ยนหรือเปล่า ........

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปภัทร วันที่ตอบ 2011-08-24 11:34:34


ความคิดเห็นที่ 5 (3304929)

เอาแล้ว   โดน สส.ปชป.โจมตีอีกว่าไม่เอาแนวพระราชดำริมาใส่ในนโยบาย     นี่มีร่องรอยความคิดไม่ซื่อต่อสถาบัน  อะไรประมาณนั้น   ประชาธิปัตย์ยังได้เขียนเอาไว้ในคราวแถลงนโยบาย  อย่างครบถ้วน........... สส.ผู้นี้เสนอว่า  ไม่ต้องไปคิดนโยบายให้เมื่อยหรอก เอาแนวพระราชดำริไปทำก็ครอบคลุมหมดแล้ว..........................

 

แล้วปชป.ได้ชื่อว่า  รัฐบาลดีแต่พูดได้อย่างไร   อุตส่าห์เอาแนวพระราชดำริมาทำทั้งหมด...?????   แสดงว่ารับบรมราโชบายมาแล้วทำไม่ได้  โทษก็ต้องถึงกุดหัวทิ้งนะ.........   แล้วจะว่าอย่างไร ?

 

แล้วก็มีสส.ออกมาว่าไม่เอาเรื่องกีฬาใส่ไว้ในนโยบายเลย..................แสดงว่ารัฐบาลคิดแคบ ไม่ทันโลกกีฬา

ว่าไม่ควรที่รัฐบาลทอดทิ้ง...............

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปภัทร วันที่ตอบ 2011-08-24 13:30:02


ความคิดเห็นที่ 6 (3304930)

แล้วปชป. สส.คนนั้นก็มาอวดแสดงความเชี่ยวชาญเรื่องทะเลเอาในสภานี่เอง  .....  แล้วไปสรุปแบบเดียวกันว่า     ดีแต่พูด  

 

ตีหน้าเศร้าเล่าเรื่องเศร้าของทะเลไทยเสียด้วย      ...........ดูไบคิด  เพื่อไทยทำ   ใครรับกรรม

คืออย่างนี้ครับ        เรื่องที่คุณพูดนั้นไม่มีใครเชื่อคุณหรอก ........  เพราะคุณคิดเขียนเอา ....   คุณเคยไปสำรวจมาแล้วหรือ    ก็เปล่า    ก็เท่านั้นเอง   

 

ดร.เฉลิม ขึ้นมาชี้แจง......................แนวคิดถมทะเล.....  ว่าแล้วไง      เขาไม่ได้ถมอ่าวไทยอย่างที่ สส.ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ นายนั้นพูดไปด้วยความเข้าใจผิด   .............    เขาคิดจะถมแถบบางขุนเทียน....แถว ๆ นั้น    และก็ไม่มีดูไบคิด  อะไรทำนองนั้น......

 

ดูเหมือน.......   ดีกรีการต่อสู้ไม่ลดระดับ..................... จนกว่าจะจนมุม

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปภัทร วันที่ตอบ 2011-08-24 13:46:16


ความคิดเห็นที่ 7 (3304933)

วุฒิสภา วุฒิสมาชิก จังหวัดไหน    พูดไป ๆ   ก็พบแต่คำว่า   ที่    .............  พูดไปหน่อยก็มีคำว่า   ที่.......  เลยมีผู้ประท้วง...........ว่ากล่าวความเท็จ................  นึกว่าประท้วงว่า ใช้คำว่า  ที่ ฟุ่มเฟือยไป..........เอกสารที่ท่านแจ้งแก่เรา ...... แต่หน่วยงานที่.........เจ้าหน้าที่ที่ใช้อำนาจการปกครอง ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ที่.......ไปฝึกพูดหน่อย 

ผู้แสดงความคิดเห็น ปภัทร วันที่ตอบ 2011-08-24 14:00:31


ความคิดเห็นที่ 8 (3305007)

ปชป. สอนเด็กใหม่ให้เลียนแบบ  พูดเอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น  และวิธีเหน็บแนม ที่ซ่อนแฝงแรงผลักของความอิจฉาริษยา   แต่ซ่อนรูปเป็นความปรารถนาดี  .....  ได้ดี........................แต่การพูดแบบนี้ไม่ดีตรงที่ไม่สร้างสรรค์เท่านั้นเอง

 

แล้วนายนิพิธ  อินทรสมบัติ   พูดว่า  มีการเข้าใจผิดเรื่อง ฝ่ายค้านมาก   ...............เขาเสียเวลาพูดไปหลายนาที  เพื่อการอวดว่าเขาฉลาด คมคาย   ไหมล่ะ...................  แล้วทั้งหมดก็ไร้สาระ......วรชัย เหมะ  ประท้วงให้ถอนคำว่า  ทักษิณ ......... และ  ข้อ 43 กล่าวเสียดสีผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา  ..........  น.พ.เหวง  ก็ประท้วง ว่า......นโยบายไม่มีคำว่า สองขา   ...........โปรดอภิปรายนโยบายรัฐบาล ...................  ดีที่ประธานสภา   สอน....แต่ดื้อ ไม่ยอมเงียบ .............แล้ว จตุพร พูด  ให้ ถอนคำพูด ...........ถอนเรื่องทำถุงขนมหล่น....  ยอมถอน...แบบไว้เหลี่ยม....  แต่ก็ดูเหมือนโดนลบเหลี่ยมไปจนทื่อ....

 

ว่ามองประชาธิปไตยต่างกัน  .........นิยามของท่าน  ไม่ใช่ของผม..........เราขัดแย้งกันเรื่องการมอง  .....ผมพูดในฐานะผู้แพ้....รวน  ไปพูดว่า  หยุดพูดเรื่อง  มือที่มองไม่เห็น  ........ประธานขอให้พูดเรื่องอนาคต อย่ารื้อฟื้นความหลัง  ...............   ลูกศิษย์นายชวนก็ยังรวนต่อ  .......ประท้วงประธาน.อย่าชี้แจงเอง ให้รัฐมนตรีชี้แจง .............ตอนหลัง  เสียงเหมือนร้องไห้  สะอื้นไปเลย...คงน้อยใจอะไร........   ดู ๆ แล้ว เหมือนเด็กซน ๆ ถูกขัดคอก็ร้อง  ...............  ดร.เฉลิมลุกสำทับเอาอีก..............ว่า  จะไม่ให้มองหน้าอย่างไร  ผมนั่งอยู่ข้างหน้า.....นายนิพิธว่าผมแพ้  ผมเจ็บปวด ......มีกิจกรรม  เขียนจดหมายถึงฟ้า......ประธานเตือน  อย่าอ้างสถาบัน.....แล้วแรงหนุนจากพรรคก็มา    สาธิต  วงศ์หนองเตย....ว่าประธานกำลังฝ่าฝืนสิทธิของสมาชิก........อ้างข้อ 114   หาว่าประธานฝ่าฝืน.....ประธานสอนหมากระเป๋าว่า ผิดข้อบังคับข้อ 43 วรรค 2  ห้ามกล่าวถึงพระมหากษัตริย์......  แรงหนุนฝ่าย ปชป.ลุกอีก ว่าประธานทำผิดอีก......คนนี้คือนาย นิพนธ์ ปุญญามณี... ยืนยกมือแต้เลย   ........แล้วนายธนา  ประท้วงประธาน .....ว่าอ่านระเบียบไม่จบ....แล้วนายธนาก็ทำผิดเสียเอง    ประธานว่าไม่ใช่การประท้วง........ปชป.ยังมียกมือแต้อยู่อีกหลายคน.......พิเชษฐ์  พท. ประท้วงประธาน ข้อ 5 ต้องควบคุมการประชุม......นายนิพนธ์ ว่าประธานส่อไปในทางไม่เป็นกลาง......ประธานชี้แจง จบ  รายการสั่งสอนที่มีเหตุผลจริง ๆ    จิรยุ ห่วงทรัพย์ พท. ขอให้ถอนคำว่า  แจกหนังสือในที่ประชุมพรรค.........ดูเหมือนนายธนาจะโกรธ ยืนนิ่ง ไม่ยอมนั่ง  คงคิดว่าโดนลบเหลี่ยม......เช่นเดียวกับ นายนิพิธ  ขณะนี้คิดว่าโดนลบเหลี่ยมเหมือนกัน ต้องเอาเหลี่ยมคืน...............มีปรัชญาเสียด้วย  เรื่องความเชื่อสูงสุด  ห้ามเถียงกัน....  ไม่รู้พูดทำไม......อย่าต่อสู้กันในเรื่องความเชื่อสูงสุด....ว่าเสื้อแดงจัดงาน  ทักษิณมหาราช......  ก็มีฝ่ายพท.ประท้วงอีก.......ว่าประธานตักเตือนนายนิพิธหลายครั้งก็ไม่เชื่อฟัง.....จตุพรพูด....นายนิพิธว่า ทักษิณมหาราช  เป็นความเท็จที่เลวที่สุด  .....มีประท้วงจาก ปชป. .ประธานปิดเสียงไม่ยอมให้ประท้วง.......ว่าไม่มีอะไรเสียหาย ให้นั่ง........ประธานวินิจฉัยว่าให้นายนิพิธพูดต่อ แต่ให้จตุพรแก้พาดพิงได้.....หมอวรงค์ พูด.....ว่าประธานทำผิด.....ประธานก็สอนเอาจนหมอวรงค์นิ่ง ....   นิพิธ พูดต่อ  ว่านี่คือความเชื่อของผม อย่าคิดว่าสุรามหาราช ทักษิณมหาราชไม่เหมือนกัน.....ดูเหมือนเก่งพูดยอคนนั้นคนนี้  ไปยอโกวิทย์ ว่าซื่อ....(เคยยอนายชวน หลีกภัยว่าเป็นเทพเจ้าการเมืองไทย  นายชวนจึงให้เป็น รมว.วัฒนธรรม)  จบ...เฉลิมในฐานะ รองนรม. พูด.....เน้นว่ารัฐบาลจงรักภักดี.......ขอให้เป็นคนสุดท้ายที่พูดพาดพิงสถาบัน ........ จตุพร พูดแนะนำตัวเอง ........ว่านายถวิล  เปลี่ยนสี เลขา ศอฉ.สารภาพ ผังล้มเจ้าเป็นตราบาปของ ศอฉ.  ......... จตุพรยังไม่เลิกพูด.....สุเทพจะพูด ประธานว่าปิดไมค์แล้ว แต่อนุญาตให้พูด.........ว่าเสื้อแดงถูกกล่าวหาล่วงละเมิดสถาบันฯ 19 คน รวมทั้ง เพื่อนนายจตุพร.......ณัฐวุฒิ พูด.....ข้อกล่าวหานี้ทำแต่ความเสียหาย...จบลงดี  .....สุเทพยกมือ   ไม่อนุญาต  แต่อนุญาต.......ว่าประท้วงประธานผิดข้อ 114  และอภิปรายแล้วเกิดความเสียหายอย่างกว้างขวาง......ว่าคนละกรณี.......ประธานสอนนายสุเทพ.....มีอภิสิทธิยกมือด้วย  เชิญอภิสิทธิ์........ท้วงประธาน... ๆ สอนต่อ......อภิสิทธิ...ใครผิดต้องได้รับการลงโทษ....ณัฐวุฒิ...สุเทพไม่ยอมประธานว่าจบแล้ว  สุเทพขอให้วินิจฉัย....ขอให้ถอนคำพูด....ออกใบสั่ง....ประธาน   ท่านให้ถอนคำอะไร....ประธานขอพักการประชุมชั่วคราว ขอไปดูข้อความ......พักการประชุม......

 

สรุปข่าว   นายนิพิธ อินทรสมบัติ เริ่มก่อความวุ่นวายขึ้น ด้วยเอาประเด็นยกตัวจงรักภักดี ส่วนคนอื่นไม่จงรักภักดี ตามสไตล์เอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่นของ ปชป.    เกิดการประท้วง สส.เสื้อแดงลุกกันพึบพับ จนลามปามไปถึงนายสุเทพ นายอภิสิทธิ์     ท้ายสุดจตุพร พรหมพันธ์  ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ตอบโต้คำว่า ทักษิณมหาราช ว่าข้อกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี ทำลายคนสำคัญทางประชาธิปไตยไปหลายคนแล้ว มีปรีดี เป็นต้น  กลับมาแต่เถ้าถ่าน ....  ณัฐวุฒิออกวาทะทำให้นายสุเทพยอมไม่ได้ ต้องถอนคำพูด ......ประธานยังสงสัยว่าพูดว่าอย่างไร ขอพักการประชุมไปฟังเรื่องเดิมก่อนว่าณัฐวุฒิพูดอะไรแน่

 

ประชาธิปไตยต้องรักษาความเห็นต่าง .............นายนิพิธอวดฉลาดออกมา   ซึ่งผิด.......กลายเป็นว่า   โง่อวดฉลาด......

ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2011-08-24 22:34:22


ความคิดเห็นที่ 9 (3305010)

กลับมา   พท.เสนอญัติขอปิดการประชุมทันที    มีผู้รับรอง    ฝ่ายค้านเสนอขอเปิดประชุมต่อ    ประธานให้ลงมติ .......

มีเสียงโห่ ตอนประธานบอก เป็นอำนาจของประธานตรวจสอบองค์ประชุม 

 

ก็สมควร   ปชป.  เป็นเด็กเกินไป  

วันนี้มีเด็กเพิ่มอีกคน   เด็กนิพิธ 

 

ได้บัตรครบหรือยัง ?

คำถามนี้หลายครั้งเลย กว่าจะได้แสดงตน อีกครั้ง (ลบครั้งเก่า) .....

มติ       ผู้เข้าประชุมทั้งหมด  313   ไม่ครบองค์ประชุม   ปิดประชุม

           

  

 

ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2011-08-24 23:30:51


ความคิดเห็นที่ 10 (3305058)

ทราบจากข่าวเช้าว่า  ปชป. ว๊อลคเอาท์  ทำให้ไม่ครบองค์ประชุม   ................ บ่ายวันนี้ประชุมต่อครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น จาน ประครองจิต วันที่ตอบ 2011-08-25 11:58:16


ความคิดเห็นที่ 11 (3305060)

เรื่องราววานนี้สับสนอลเวง เนื่องจากนายนิพฺธ อินทรสมบัติ    เขามองอะไรต่างไป  ในเรื่องประชาธิปไตยเขาว่ามีปัญหา "ว่ามองประชาธิปไตยต่างกัน  .........นิยามของท่าน  ไม่ใช่ของผม..........เราขัดแย้งกันเรื่องการมอง"

 

แสดงว่านายนิพิธ  ยังไม่เข้าใจประชาธิปไตย  ..............  แล้วเขาไปย้ำเน้นเพื่อสิทธิในการที่จะเถียงอย่างไม่เข้าใจต่อไป   ว่า...............  ประชาธิปไตยต้องรักษาความเห็นต่าง

 

นี่แหละครับ   แม้กระทั่งสส.ของประชาชน ยังไม่เข้าใจประชาธิปไตยเลย 

ผู้แสดงความคิดเห็น นายวิจัย ประชาธิปไตย วันที่ตอบ 2011-08-25 12:05:01


ความคิดเห็นที่ 12 (3305069)

นี่แหละครับ   สส.ที่ชาวใต้ชอบ     สส.คนนี้เขาพยายามทำบทบาทให้ถูกใจชาวใต้เท่านั้นเอง   .........   ชาวใต้ชอบนักวาทะ  จะผิดหรือถูกไม่สำคัญ  สำคัญที่ทำให้คู่ต่อสู้ เกิดอาการครั่นคร้าม หรือเพลี่ยงพล้ำให้เห็น  ไปจนถึงล้มคว่ำลงได้ก็พอ   

 

วานนี้  นายนิพิธ  ทำหน้าที่เพื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้อย่างน่าชนะใจชาวใต้ที่สนับสนุนพรรคมาแต่เดิม     นั่นคือ ทำความปั่นป่วนให้เกิดขึ้น ต่อพรรคใหญ่ที่ได้เป้นรัฐบาล     ไม่ว่าจะผิดหรือถูก   เขาทำได้อย่างนี้  ประชาชนเช่นนั้นก็เฮ   .....

 

แต่เมื่อพรรคเพื่อไทย ตามทันเสียแล้ว   วานนี้ก็ถึงทำให้นายนิพิธ อินทร์สมบัติ   ถึงสะอื้นในหัวอก   และน่าจะปิดฉากชีวิตในรัฐสภาของคน ๆ นี้ลงเสียได้ตั้งแต่วันวานนี้    พร้อมการถดถอยไปเรื่อย ๆ  ของพรรคประชาธิปัตย์

 

เพราะมันได้พิศูจน์อีกครั้งว่า   พูดดี  พูดหาเรื่อง  พูดส่อเสียด เหน็บแนม และพูดเท็จ  หยาบคายพร้อม  จนสรุปลงไปที่คำ ๆ เดียว    คือ  ดีแต่พูด จริง ๆ  

 

ผมเองคิดว่า  ปชป.ทำไม่เหมาะสม   วันนี้ ทางรัฐบาลมีความหวังในการที่จะผ่านนโยบายไปอย่างสง่างาม  ....แต่แล้วก็มีการก่อกวนของคนพรรคประชาธิปัตย์ แล้วลามไปเป็นพรรคเป็นพวกระหว่างฝ่ายรัฐบาล  ฝ่ายค้าน   และฝ่ายเชิรตแดง-ทักษิณ กับฝ่ายสุเทพ เทือกสุบรรณไป    โดยไม่สมควร    ปชป.ควรจะคิดว่าการแถลงนโยบายนี้   แท้จริงก็มีเจตนาเพียงให้รัฐสภารับทราบ เท่านั้นเอง    วาระสำคัญคือการปฏิบัติ   ถ้าปชป.เห็นว่ารัฐบาลจะทำไม่ได้  ก็น่าจะให้คำแนะนำเพียงเบา ๆ   ไม่น่าจะถึงขนาดว่าต้องล้มคว่ำให้ได้  นั่นเป็นการเสียมารยาท ขาดจริยธรรมของระบอบประชาธิปไตย   เพราะรัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรเลย   ที่ถูก ก็น่าจะคอยดู  และคอยคิดแก้ไขเอาไว้ เผื่อเวลาที่ตนได้ทำนโยบายเช่นนั้น  จะได้ทำให้ได้ดีกว่า    

 

หรือรอไว้เสนอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางงใจรัฐบาลก็ได้ 

 

ปชป.ควรจะคำนึงว่า   พรรคเพื่อไทยได้เสียงท่วมท้นมาเป็นรัฐบาล   เพราะประชาชนสนับสนุนนโยบายของพรรคเพื่อไทย...แม้ว่าจะมีบางส่วนของนโยบายที่คลาดเคลื่อนไปจากเวลาที่หาเสียงอยู่บ้าง เมื่อไม่ใช่ประเด็นหลักประเด็นสำคัญอะไรของนโยบาย  ประชาชนเขาก็ยอมรับได้  โดยที่ ปชป.ก็ไม่น่าจะเดือดร้อนออกหน้ารับอาสาขนาดเอาเป้ฯเอาตายเช่นนั้น  คลาดเคลื่อนไปหน่อยก็เป็นสิ่งที่ย่อมเป็นไปได้แหละครับ   คุณจะเอาให้ได้ตรงเป๊ะเลย นั่น ไร้เหตุผลเกินไป     ขณะนี้ พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ได้ทำอะไรเลย   เขาเร่งจะทำ  จะเริ่มทันทีภายหลังผ่านรัฐสภาวันนี้   ......   ถ้าประชาธิปัตย์คิดล้มรัฐบาลทันทีเช่นนี้    หรือแสดงให้เห็นว่า  นโยบายที่เสนอสู่รัฐสภาวันนี้ เป็นแนวคิดที่ไม่อาจจะทำได้เลย  หรือเหยียดหยามว่าไร้สาระ  หรือทำนโยบายเอาใจคนภาคเหนือ  ภาคอีสาน  แต่ภาคอื่นไม่เอาใจใส่เลย  อันเป็นเท็จเช่นนี้   ก็จะกลายเป็นว่า  ประชาธิปัตย์ต่อต้านกระแสแรงของมวลมหาประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยมา  เพื่อทำนโยบายให้พวกเขา .........

 

วันนี้   ประชาธิปัตย์ได้พบกระแสแรงเช่นนั้นแรงไปอีกเรื่อย ๆ แล้ว 

 

แม้ประชาชนชาวใต้เอง  ที่เคยมองผิด ๆ  ในเรื่อง   ความสำคัญของวาทะกรรม    ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยคมคำพูดโกหกพกลม  เสียดสี  เพียงเพื่อเอาชนะด้วยวาทะ   แต่ข้อเท็จจริง  เป็นเพียง   ดีแต่พูด.  พวกเขาก็จะเริ่มตาสว่างกว้างขึ้น  และเริ่มรู้สึกว่า  สส.ของเขา เช่นนายนิพิธ อินทรสมบัติ  แม้เป็นตัวแทนของประชาชน ยังไม่เข้าใจสาระสำคัญพื้นฐานของประชาธิปไตย เลย ประชาธิปไตยที่แท้จริงเป็นอย่างไร  ก็จะเริ่มมีการตื่นตัวศึกษาขึ้น  ในวงกว้างขวางของประชาชนภาคใต้    และเริ่มไล่ตามประชาชนเหนือและอีสาน เรื่องความเข้าใจประชาธิปไตยที่แท้จริง   ถูกละครับ   ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์นั้น  จำเป้ฯที่ประชาชนทั่วประเทศ ทุกภาคส่วนของประเทศไทย  ต้องเป็นประชาธิปไตยด้วยกัน   ขณะนี้คนเหนือ คนอีสาน  คนกรุงเทพ คนภาคตะวันออก  ต่างแบกขนภาระประชาธิปไตยกันไปแล้ว   ยังแต่คนภาคใต้  ที่ยังเอารัดเอาเปรียบ......แต่วันนี้  ท่านคงจะรู้สึกตัวแล้ว ....

ส่วนสถานการณ์ในรัฐสภา   สส.เช่นนายนิพิธ  และ ประชาธิปัตย์ทั้งสิ้น   นับแต่นายกรณ์  จาติกวณิชย์  ไป   ก็จะถูกกดข่ม...... ตามหลักการปกครองว่า    นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ  ปคฺคณฺเห  ปคฺคหารหํ  (พึงข่มบุคคลที่ควรข่ม  พึงชมบุคคลผู้ควรชม...มาจากพระไตรปิฏกครับ)   เพราะพรรคเพื่อไทยในรัฐสภา เป็นพวกส่วนมาก พวกแดงพิทักษ์ธรรม    หากอธรรมส่วนน้อย ประพฤตไร้เหตุผล ไม่อยู่ในระเบียบขององค์การ  หรือสถาบันสูงสุดของประชาชน   เช่นพฤติกรรม ปฃป.วันวานนี้    สส.ส่วนมากที่เป็นธรรมก็ต้องช่วยกันถอนเขี้ยวถอนเล็บเสียให้เกลี้ยง .....................น่าเป็นแผนการณ์อันชอบธรรมของรัฐสภาไทยยุครุ่งโรจน์ทางประชาธิปไตย  

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น บัระย้า ชะบาบุญเสฏฐ์ วันที่ตอบ 2011-08-25 13:00:58


ความคิดเห็นที่ 13 (3305077)

ฟังนายจุลินทร์  ลักษณะวิศิษฐ์  พูดก็แล้วกัน     ฟังดี ๆ เถอะ     นี่คือวิธีการพูดที่ใช้ศิลปและเทกนิค   เพียงเพื่อ    เอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น  

 

เขากล่าวว่าถึงประธานรัฐสภา   ว่าเป้นต้นเหตุของเหตการณ์วานนี้     ส่วนเดียวล้วน ๆ    ส่วนฝ่ายคนของเขาคือนายนิพิธ อินทรสมบัติ   หรือใคก็ตามฝ่าย ปชป.  จะไม่มีหรอกที่จะตักเตือนตนเอง    .............

เช่นเดียวกับ  คนที่พูดอยู่ขณะนี้   ว่าประธานพูดผิดอย่างไร ๆ    .........

แล้วครั้นเริ่มเห่าก็เริ่มรวมฝูง    นี่ก็ปชป.  

 

แต่ประธานท่านทันเกมส์จริง ๆ      และยังสุขุม มีอารมณ์ยั่งยืน...เราหวังว่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป   ทั้งฝ่ายพรรครัฐบาลผู้สนับสนุนนโยบายด้วย

 

นี่ก็ปล่อยให้ ปชป.ที่ยกมือเมื่อวานได้พูดบ้าง   ก็ดีครับ  ......

 

ความจริง   การประชุมแถลงนโยบาย ที่ไม่มีนัยยะสำคัญใด มากไปกว่าการรายงานให้รัฐสภาทราบ.........ก็น่าจะเร่งรัดได้นะครับ  อืดอาดล่าช้า  และการพูดก็ค่อนข้างไร้สาระ  อ่อนเหตุผล  ........

 

เอาแล้ว   ไปลดศักดิ์ศรีของตนเอง    ว่าอย่ามองวุฒิสภาว่าเป็นไม้ประดับ........แล้วเป็นอะไร ??   ก็ให้ปรากฎซี......เวลาพูดก็พูดให้สมเป็นวุฒิสมาชิกซี....อย่างตะกี้ว่าประธานไม่บอกว่ามีการประชุมต่อวันนี้........เป็นถึงสส.ไม่รู้ได้อย่างไร ....ประธานบอกเลขาว่าจะประชุม ไม่ได้ยินหรืออย่างไร ???

 

ขจิต  ชัยนิคม   บอกอย่าใช้วิธีนี้อีก

 

ฟังสายเจ๊ก   คำนูญ สิทธิสมาน ........... ว่า   ได้แต่มองตากันไปมองตากันมา........ ว่าตัวเองไม่ค่อยมีความสำคัญ......ไม่สำคัญอย่างไรเป็นถึงวุฒิสภา ......เอ๊ะ ลูกศิษย์เจ๊กลิ้มนี่พูดอย่างไร ?พูดอะไร บวก ลบ อะไร   149 อะไรฟังยากจัง พอเถอะน่า....เสียเวลา...........อ้าวไปพูดเรื่องรัฐธรรมนูญไปโน่น........

 

อภิสิทธิ  พูด     ต่อว่าว่าไม่ได้รับแจ้ง     เวลาพูด ๆ ทำนองยกตนสอนประธานสภาต่อ.......ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่.........ว่าประธานปฏิบัติเหมือนไม่มีพวกผมอยู่ในห้องประชุม........แล้วเป็นอะไร ???

สาธิต  วงศ์หนองเตย.........พูดอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน .... ว่ามีกลุ่มเสื้อแดงเข้าไปขวาง คน นักศึกษา 2 คนจะมาวางหรีด ตามสิทธิของเขา  นศ.หนีไป...ไล่ตาม ....เกิดขึ้นหน้ารัฐสภา   ในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร ?

 

จันทิมา รอดรัศมี  ปชป. ........สภาล่มต้องโทษประธานสภา   ไม่เห้นความสำคัญของวุฒิสภา.....ไม่มองเลย   ตาเหล่หรืออย่างไร .....นี่ปากจัดเหมือนกัน .......เคยโดนอุ้มออกไปจากสภาคราวปชป.เป็นรัฐบาล   .....ให้ขจิตถอนคำพูด.....ประธานเตือนขจิต ๆ ไม่ยอม  ว่า มี 6 คน ก็ว่ามี 6 คนจะถอนทำไม 

 

หมอวรงค์.....สารภาพว่าตั้งใจวอลคเอาท์    เพราะทนรัฐบาลไม่ได้  .....  ออกท่าทางยกตนเหนือประธานเหมือนเคย   ทำไม ????

 

 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2011-08-25 14:07:45


ความคิดเห็นที่ 14 (3305095)

ฟังนายจุลินทร์  ลักษณะวิศิษฐ์  พูดก็แล้วกัน     ฟังดี ๆ เถอะ     นี่คือวิธีการพูดที่ใช้ศิลปและเทกนิค   เพียงเพื่อ    เอาดีเข้าตัวเอาชั่วเข้าคนอื่น  ...............

 

เห็นด้วยกับ  001 ครับ    จุลินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์  พูดแบบที่ว่านั่นแหละ............ปชป.มีแผนการเพียงเพื่อเอาชนะทางวาทะกรรมเท่านั้นจริง ๆ  และพูดเพียงเพื่อเอาใจคนใต้ปชป. ........................เอาจุลินทร์  ผู้ที่มีภาพพจน์ดีที่สุด  หน้าตาดีที่สุด ที่เหลืออยู่ พอใช้งานได้ 

ก็พูดเก่งนะ  ..............  เพียงแต่พูดแบบนักเรียนฝึกหัดโต้วาทีเท่านั้นเอง     

 

แกมีความอิจฉาริษยารุนแรงอยู่ใต้จิตสำนึก   ผมอ่านจากภายในนะครับ  .........ข้อเสนอนะครับ   ปล่อยให้แกพูดไปจนแกเหนื่อย พูดไม่ออกไปเอง  สัก 10 ชั่วโมงก็ได้    .....................

 

นั่นแน่   พูดแนะนำเรื่องต่างประเทศเสียด้วย...................เดี๋ยวก็เสียคนหรอก......

 

คนคิดไม่ได้ทำ  คนทำไม่ได้คิด   ก็ไข่ชั่งกิโล ไงล่ะ ไปโดนฝรั่งหลอกกินไปเปล่า ๆ 69 ล้านบาท  สมัยของปชป.ไง   ตอนนั้นดูเหมือนเป้นรัฐมนตรีอะไรด้วยนี่นะ   ไม่กระดากเลยนะ  คุณจุลินทร์    

 

นรม.ยิ่งลักษณ์ ได้เวลา สรุปแล้ว  

1.  เจตนารมย์ในการจัดทำ   ว่า  เป็นระบอบประชาธิปไตย    รัฐสภา พระมหากษัตริย์เป้ฯประมุข     นโยบายไม่ได้บิดเบือน ไม่ได้หลอกลวง  เพราะรัฐบาลที่มาจากประชาชนต้องซื่อสัตย์ต่อประชาชน   เรามุ่งผลลัพธ์ที่จะตกแก่ประชาชน ไม่ใช่มุ่งตีความในลายลักษณ์อักษร

2.   รายได้ 300 บาท  หมายความถึงทั้งรัฐและเอกชน

3.   เรื่อง 15,000 บาท ทันที่ที่งบ 2555 มีผล    นั่นคือคำว่า  ทันที  

4.   ผลลัพธ์  แทบเลต พีซี      

5.   การเยียวยาเป็นการเริ่มต้นปรองดอง  เราเยียวยาทุกฝ่าย

6.   ความกังวล  ในเรื่องทำงาน  วันนี้ยังไม่ทำงานเลย  ไม่ต้องห่วง

7.   วีซ่าญี่ปุ่น   ขณะนั้นดิฉันยังไม่มีอำนาจตามกม.เป้ฯเอกสิทธิ์ของประเทศญี่ปุ่น

8.  ขอบคุณทุกความเห็น

มั่นใจดิฉันจะสอบผ่านทุกวิชาค่ะ(ปรบมือ) 

 

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2011-08-25 16:46:47


ความคิดเห็นที่ 15 (3305096)

ปิดประชุมครับ    

ผู้แสดงความคิดเห็น 001 วันที่ตอบ 2011-08-25 16:47:44


ความคิดเห็นที่ 16 (3305267)

วันนี้ประชาชนมีความสุขมาก  ที่น้ำมันเบนซินราคาลดลงลิตรละ7บาท ดีเซล  ลดราคาลงลิตรละ 3 บาท  นี่คือนโยบายที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยแถลงว่าจะทำ  และก็ได้ทำแล้ว  นโยบายข้อต่อๆไปก็กำลังขับเคลื่อน ต่อไปกรเกษตรกรจะมีกำไรจากการขายผลผลิต มีแหล่งเงินทุน มีตลาดระบายผลผลิตที่ราคาเป็นธรรม นี่คือความหวังความสุขของประชาชน หลายบริษัทยินดีขึ้นค่าแรง 300 บาท นี่คือนโยบายที่ประกาศแล้วลงมือทำที่พรรคการเมืองอื่นไม่มี  และไม่คิดที่จะทำ เพียงแค่ลอกเลียนแบบแต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะไม่รู้วิธีทำนั่นเอง ตอนนี้พรรครัฐบาลไม่ต้องสนใจวาทกรรมเสียดสีประชดประชัน  เพราะประชาชนเบื่อหน่ายนักการเมืองพูดมากที่ดีแต่พูด เอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น  แต่แปลกที่คนในพรรคนี้กลับมองไม่เห็นความเบื่อหน่ายของประชาชน ยังดันทุรังใช้นโยบายแบบเดิมๆคือดีแต่พูด ยิ่งพูดอนาคตทางการเมืองของพรรคนี้ก็ยิ่งริบหรี่ลงๆ  ว่าแต่คนในพรรคจะรู้ตัวไหมนี่  ประวัติศาสตร์คงต้องจารึกไว้ว่าครั้งหนึ่งในประเทศไทยเคยมีพรรคการเมืองที่ทำอะไรไม่เป็นดีแต่พูดเก่ง ทำงานไม่เป็น ถึงวันนั้นการเมืองไทยคงพัฒนาไปไกลจนไม่มีพรรคการเมืองล้าหลังแบบนี้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น แมงกุดจี่ วันที่ตอบ 2011-08-27 23:29:47


ความคิดเห็นที่ 17 (3305298)

การแถลงนโยบายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์

           

ประธานรัฐสภา                          นายกรัฐมนตรี
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์     น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

การแถลงนโยบายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ต่อรัฐสภา  กำหนดมีการแถลง 2 วัน ๆ ที่ 23-24 ส.ค.2554 แต่ในวันที่ 24 ส.ค.ที่กำหนดปิดการประชุมนั้น ได้เกิดความรุนแรงในรัฐสภา ทำให้องคประชุมไม่ครบ พรรคประชาธิปัตย์วอล์คเอาท์  ประธานสภาจำต้องเลื่อนไปอีกเป็นวันที่ 3 วันที่ 25 ส.ค.2554  จึงจบเสร็จลง

ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล เห็นได้ว่าพรรคฝ่ายค้านคือพรรคประชาธิปัตย์ มิได้มองการแถลงนโยบายว่ามีนัยยะสำคัญเพียงแจ้งให้รัฐสภาทราบเท่านั้น เพื่อที่รัฐบาลจะได้ทำงานต่อไปตามนโยบายที่แถลง  การเปิดให้อภิปรายนโยบายนั้น ตามหลักแล้วฝ่ายค้านต้องจดหัวข้อเอาไว้ เพื่อการติดตามไปดู ว่ารัฐบาลจะได้ทำงานอย่างไร  มีประสิทธิภาพเพียงใดหรือไม่  หากได้พบว่ามีการบริหารไม่ตรงตามนโยบาย ไร้ประสิทธิภาพ หรือมีการผิดพลาดประการใดใด อย่างร้ายแรงโดยมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนที่ชัดเจนชัดแจ้ง ฝ่ายค้านก็สามารถยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อถอดถอนรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาลทั้งคณะได้ ซึ่งกติกาของระบอบประชาธิปไตยข้อนี้ นี้ได้ระบุในรัฐธรรมนูญไทยทุกฉบับอยู่แล้ว  

แต่การประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายคราวนี้ พรรคฝ่ายค้านกลับไม่สังวรณ์ว่านัยยะอะไรเป็นอะไร  ออกท่าทีประหนึ่งว่าเป็นการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่บริหารงานล้มเหลวลงโดยสิ้นเชิง ประมาณนั้น จึงได้เกิดการตอบโต้ระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายค้านขึ้นอย่างรุนแรง และเมื่อจนต่อเหตุผล ก็ไม่ยอมรับเป็นเหตุให้พรรคประชาธิปัตย์เกิดทิฏฐิในทางที่จะเอาชนะ วอล์คเอาท์  ทำให้ไม่ครบองค์ประชุม    จำต้องปิดประชุม  เป็นเหตุให้เสียเวลาของสภาไปอีก 1 วัน และมีนักหนังสือพิมพ์เอาไปคาดคะเนในทางที่ไม่ดีต่อการเดินไปของระบบรัฐสภาไทยยุคนี้ว่าจะไม่ราบรื่น รัฐบาลจะต้องเผชิญกับฝ่ายค้านฝีปากจัดต่อไปจนอาจจะเพลี่ยงพล้ำได้   ยังมีประเด็นสำคัญที่สส.ฝ่ายค้านพรรคประชาธิปัตย์ยกขึ้นมาพูด อย่างไม่คำนึงถึงความสำคัญและความหมาย นั่น คือแนะนำรัฐบาลว่าควรนำเอาแนวพระราชดำริไปทำก็พอ ไม่ต้องไปคิดสร้างนโยบายอื่นอีกหรอก พร้อมโอ้อวดว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ที่แล้ว ได้นำเอานโยบายตามพระราชดำริไปทำทั้งหมด  ซึ่งการพูดนี้เท่ากับกล่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้นำเอาพระบรมราโชบายทุกอย่างไปบริหารประเทศ ตนบริหารไปในนามของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวล้วน ๆ   แต่ผลการบริหารตามแนวพระราชดำริของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมากลับล้มเหลว เศรษฐกิจตกต่ำเข้าของ น้ำมันราคาแพงลิ่ว แม้กระทั่งน้ำมันปาล์มทั้งราคาแพงทั้งขาดตลาด ต้องเข้าคิวซื้อ สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนทุกหย่อมหญ้า เกิดกรณีล้อมเข่นฆ่าประชาชน 91 ศพ  ปิดกั้นข้อฎีกาของประชาชนที่ฎีกาถึงในหลวง  แล้วทำให้ประเทศไทยเกิดข้อพิพาททางชายแดนกับกัมพูชา เกิดการปะทะตามชายแดนศรีสะเกษ สุรินทณ์ บุรีรัมย์  หวิดเป็นสงครามระหว่างประเทศ  ประชาชนไทยต้องอพยพกันจ้าละหวั่น นับหมื่น ๆ คน แล้วเกิดคดีเยอรมันยึดเครื่องบินส่วนพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช มกุฏราชกุมารไทย ขึ้นล่าสุด เป็นเหตุเสื่อมเสียถึงพระองค์  อันนี้ สส.ผู้เสนอแนะนั้นจะถือว่าพรรคประชาธิปัตย์บริหารงานตามพระบรมราชโองการล้มเหลวลงโดยสิ้นเชิงหรือไม่  เท่ากับรับพระบรมราชโองการไปแล้ว กระทำการชั่วโฉด ไร้ผลตามพระราชดำริ  หรือไม่ ?  ถ้าเป็นยุคก่อนก็เท่ากับรับดาบอาญาสิทธิ์แล้ว แพ้ศึกสงครามมา  โทษก็ต้องหนักถึงประหารชีวิต ทั้งแม่ทัพนายกอง   แต่ประชาธิปัตย์ไม่ได้คิดถึงความจริงเช่นนี้เลย   จึงใช้วาทะกรรมออกไปอย่างไร้สติ ปราศจากความยั้งคิดใดใด มุ่งเอาชนะคะคานอย่างเดียว เป็นเหตุให้สภาวุ่นวาย  แม้ว่าที่จริงก่อผลเสียหายแก่พรรคประชาธิปัตย์เอง ที่ได้ออกท่าทีไม่ให้ความร่วมมือในการบริหารประเทศในองค์รวมของประเทศประชาธิปไตยไทย 

แล้วทางฝ่ายรัฐบาล ที่โดนโจมตีอย่างหนักว่านโยบายทำไม่ได้ ไม่ตรงตามที่รับปากประชาชน เป้นต้น อย่างไรก็ตาม มาเช้าวันที่ 27 ส.ค. 2554  ประเทศไทยทั้งประเทศก็ได้พบกับผลของนโยบายพรรคเพื่อไทยนโยบายแรก  โดยทำตามสัญญาข้อแรกที่ด่วน  นั่นคือลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงลง โดยชะลอการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เอาจากกองทุนน้ำมันมาใช้ก่อนชั่วคราว  ส่งผลให้ราคาดีเซลลดลงลิตร 3 บาท  เบนซิน 95 ลดลิตรละ 8.20 บาท และเบนซิน 91 ลิตรละ 7.17 บาท มีผล 27 ส.ค. 2554 นี้  ปรากฎว่าเสียงประชาชนและเสียงหนังสือพิมพ์ตอบรับกันอย่างอื้ออึงอยู่ขณะนี้   นับว่าเป็นการเริ่มประเดิมนโยบาย ตามที่ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับประชาชน  ซึ่งนี่คือนัยยะสำคัญของรัฐบาลประชาชน เพื่อประชาชนและโดยประชาชน  เสียงประชาชนย่อมเป็นเสียงสวรรค์  เมื่อบริหารไปตามครรลองประชาธิปไตยแล้ว  ย่อมได้รับการสนับสนุนของประชาชนตลอดไป 

แต่อย่ามองเฉพาะเรื่องนี้เรื่องเดียว  ดูว่าพร้อม ๆ กันนี้ และแม้ก่อนการแถลงนโยบาย ก็พอเห็นได้แล้วว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้เอาใจใส่ต่อประชาชนกรณีน้ำท่วมมาก่อนแล้ว   มีอีกหลายนโยบายที่กำลังขับเคลื่อนไปเป็นระลอก ๆ รวมทั้งสถานการณ์ตอบรับจากต่างประเทศ เช่นญี่ปุ่นก็ค่อยดีขึ้น ๆ  เราเองก็ยังต้องคอยมองดูเหมือนกัน และเชื่อว่ารัฐบาลจะทำได้

  • สุไหงปาดี ชินะกุล
    28 ส.ค.2554/08.00 น.
ผู้แสดงความคิดเห็น บก.คัดมาจากหน้า1 วันที่ตอบ 2011-08-28 16:02:55



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.