เป็นนักประพันธ์มั้ง........ นักเขียนน่ะครับ..................

คนหนึ่งเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี     (แต่งตั้ง)        อีกคนเขาว่าเคยเป็นถึง   ราษฎรอาโส........

แล้วยังไงล่ะครับ  ?.........  

คือเขียนอะไรออกมาแล้วไม่เอามาบอกประชาชน.................ว่าประชาชนเขาชอบหรือไม่ชอบ.............คิดแต่จะเอาไปยัดให้เขา......(อ้างว่าด้วยจิตเมตตาเสียด้วย)

แล้วที่ว่าจะเอาไปบังคับให้รัฐบาลทุกรัฐบาลปฏิบัติ...........ผูกมือผูกเท้าไว้เลย   แต่ไม่ยักบอกประชาชนว่าเขียนเอาไว้อย่างไร...............เอาใส่ไว้ในตู้มิดชิดเลย................  แต่ผมเห็นหลายครั้งแล้ว   พวกหนึ่งชอบเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ   ว่าบังคับให้รัฐบาลทุกรัฐบาลทำ.......................  ซึ่งประชาชนก็ไม่ค่อยรู้สึก.......และไม่ได้รับว่ามันถูกใจ.....................เอาสิ่งที่ไม่ถูกใจมาบังคับไว้ทำไม...???

ไอ้ที่ทักษิณเขาทำไว้ดี ๆ   ถูกใจ   ประชาธิปไตยกินได้    ทำไมไม่เอาไปเขียน   ฮ่วย !!!!!

เสียดายงบประมาณที่ตั้งไว้ตั้ง 600 ล้านแล้วแกก็ลาออกดิ้อๆ โดยไม่รู้สึกรู้สาว่าประชาชนจะรู้สึกอย่างไรกับการใช้เงินภาษีที่ประชาชนเสียไปอย่างไร้สาระ ได้แต่อ้างว่ารัฐบาลประกาศยุบสภาแล้วก็หมดหน้าที่ แกน่าจะรู้นะว่าถึงเขียนอะไรมา ดีแค่ไหนรัฐบาลก็คงไม่ทำตามเพราะขนาดประชาชนมาเรียกร้องหาประชาธิปไตยเป็นล้านคน รัฐบาลยังไม่ฟัง การใช้งบประมาณไปมากแล้วไม่ได้อะไร อย่าคิดว่าจะหลอกประชาชนต่อไปได้ ประชาชนเขาไม่โง่นะ ลองเปิดโอกาสให้เขาทวงถามสิแล้วจะรู้ว่าเขาคิดกับบทบาทของคุณอย่างไร

นี่คือ..................ไม่เข้าใจเรื่องประชาธิปไตย...   นั่นเอง..........................ถ้าเข้าใจ  ที่ไหนจะไปอาสาแบบนั้น.....คิดแบบนั้น............

คือคิดจะเขียนอะไรเอาไว้   บังคับให้ใครต่อใครปฏิบัติตามความคิดของตน............................อย่างเขียนเอาไว้ในรัฐธรรมนูญ    อย่างนี้....  ชอบคิดกันจัง.....................หานึกไม่ว่า  ........คนแค่นี้จะคิดอะไรครอบคลุมทุกปัญหาของประชาชนได้........มันจะถูกสมัยถูกใจประชาชนหรือเปล่า ..............จะทำได้หรือเปล่า  และจะทำอย่างไร   ใครจะทำ.......

เขามีพรรคการเมืองคอยคิด  คอยรวบรวมปัญหา   คอยคิดวิธีการแก้ปัญหา................เพราะพรรคการเมืองสามารถทำได้ในระยะยาว.............และพรรคการเมืองมีสมาชิกพรรคการเมืองทั่วประเทศ   คือพวกสส. สว.สังกัดพรรคเขา   และสมาชิกคือประชาชนทั่วประเทศ  นับล้าน ๆ .........  มีหูมีตามากกว่ามากหลายเท่า..........   นั่นแหละเขาจึงได้ข้อมูลที่สมบูรณ์กว่าคุณอานันท์  ปันยาระชุน    และเขาสามารถทำงานต่อเนื่องได้เป็นปี ๆ   ........  และคุณไม่รู้หรือ   ในระบอบประชาธิปไตยพรรคการเมืองมีหน้าที่โดยตรงอย่างนั้น    ไม่ใช่หน้าที่ของคุณ    .......   เพราะไม่มีเอกชนใด  คณะใดจะทำได้สมบูรณ์เท่าพรรคการเมือง....................

...........................เข้าใจกันยากจริง ๆ    เรื่องประชาธิปไตย    นี่   

เขาก็เอาข้อมูลที่ได้มาแบบนั้น      มาสร้างนโยบาย..............แล้วเอาออกเสนอประชาชนในฤดูกาลการเลือกตั้ง   ................................

พรรคไหนนโยบายถูกปัญหา  ถูกประเด็นของประชาชน ๆ ก็เลือก...........................ก็บริหารไปตามนั้น.........................................................................ไม่ใช่เผด็จการที่จะไปเขียนเอาไว้แล้วบังคับใครต่อใครให้ปฏิบัติตาม..............  อย่างที่ปรากฎในรัฐธรรมนูญไทย..........ที่ว่า   แนวนโยบายแห่งรัฐ.............

ถึงเขียนเอาไว้ก็ไม่มีใครทำหรอก    เพราะพรรคการเมือง  เมื่อได้เป้ฯรัฐบาล  เขาก็เอานโยบายของเขาเองมาปฏิบัติ 

   ดูเหมือนชื่อ นายบัฟฟาโล(นายควาย)นี่ จะเป็นเพียงชื่อนะครับ   

คือนายอานันท์   นายประเวศร์ นี่  แกไม่เข้าใจน่ะครับ   .............   จะว่าผมสอนเอาหน่อยก็ไม่ปฏิเสธ.......

ก็อย่าเพิ่งให้เครดิตสูงนัก    กับอีกคณะหนึ่งที่ ว่าที่ นรม.ยิ่งลักษณ์  จะให้ไปจัดการเรื่องความเป็นธรรม  กรณี  19 พ.ค. 2553   หรือ 91 ศพนั่นก็รู้ ๆ กันอยู่   91 ศพ เป็นฝีมือของ สุเทพ เทือกสุบรรณ    แกทั้งพูด ทั้งยืนยัน ก่อนปฏิบัติการวันนั้น  ..........  คนก็ได้ยินทั้งโลก  มีหลักฐานอยู่เยอะแยะ  ..........ผมเองก็ได้ฟัง   ประการแรก   ผังล้มเจ้า............แกเอาออกมาโชว์เองต่อหน้าสื่อ   และออกโทรทัศน์ไปทั่วโลก   แกว่าแม้พล.อ.ชวลิต  ยงใจยุทธ ก็มีบทบาทอยู่ในเครือข่ายล้มเจ้านี้ ....ขู่พล.อ.ชวลิต อย่างไร  คนรู้กันหมด   ......  แกยังกล่าวหาประชาชนผู้มาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยว่า  เป็นคอมมิวนิสต์   พวกแดงคอมมิวนิสต์ พวกก่อการร้ายเผาบ้านเผาเมือง คิดล้มล้างรัฐบาลและระบอบกษัตริย์  .........   นายสุเทพ เทือกสุบรรณพูดไว้หมดแหละครับ   ............นั่นหมายยถึงแผนการก่อการชั่วร้ายต่อประชาชน อย่างเปิดเผย ลำพอง  หยิ่งผยอง และทั้งเลินเล่ออย่างยิ่ง (แบบยุคหัวหน้าเผ่าในอาฟริกา....อินเดีย...คุยโวโอ้อวดต่อหน้าบริวาร...นักรบโง่ ๆ  ......จนคนขาว.....เขาหมั่นใส้เอา..เดิมคิดจะเอาเพียงการค้าการขาย พอเห็นว่าโง่อวดฉลาด ๆ ก็คิดเอาเป็นเมืองขึ้นเสียเลย เอาทั้งแผ่นดินเสียเลย.......ก็จึงเป็นที่มาของเมืองขึ้นเขาไปทั้งทวีป....ทั้งโลกนั่นแหละครับ)    ...............  แล้วก็เปิดเผยแผนการ  ว่า  จะระดมมือเยี่ยมที่สุดมาจัดการประชาชน  นับแต่หน่วยรบพิเศษ  มีสวาท  และ อรินทราช  ..........   ซึ่งนี่คือหน่วยรบที่มีขีดความสามารถสูงเท่าที่มีในกองทัพไทย นายสุเทพบอกว่าจะระดมมาหมด  ...........   นอกเหนือจากกองกำลังปกติ จากพล.9  .... กระทั่งหน่วยยานเกราะ ... และก็เห็นจริง ทหารร่วม 20,000 คน  ถึง 50,000 คน ปรากฎออกมาในกรุงเทพมหานคร   ถามว่ามีใครไม่เห็นทหารพวกนี้บ้าง ?   ...........  โลกเขาก็เห็น  จากการรายงานของสื่อสงครามมืออาชีพ เช่น อัลจาชีร่า.(Aljazeera)....ซึ่งบางทีนายสุเทพอาจจะไม่รู้ก็ได้ว่า  อัลจาชีรา เขายกกอง ทั้งมือกล้อง และนักข่าวมาติดตามเป็นวัน ๆ เป็นชั่วโมง ๆ  ผลัดเปลี่ยนเข้าเวรนักข่าว มือกล้อง  ทำอย่างละเอียดและรายงานออกไปสด ๆ   .......   ภาพเด็ด ๆ  ของหน่วยซุ่มยิ่ง  สวาท  อรินทราช  เห็นชัด   เห็นทั้งชุดดำ........     ออกไปหมด  ............  คุณอาจจะไม่เข้าใจว่า  อัลจาชีรา  คือโทรทัศน์อย่างไร  ..........  นี่คือมืออาชีพข่าวสงครามจริง ๆ   ระดับที่ข่าวและภาพ  ที่ออกมา  เป็นหลักฐานได้เลย     ..........   นายสุเทพก็คงไม่ได้ยิน ไม่ทราบว่ามี  โทรทัศน์ระดับโลกนี้   รวมทั้ง  บบีซี (BBC)เองก็รายงานสด ๆ เช่นเดียวกับ อัลจาชีรา  

คือเหมือนหัวหน้าเผ่า............ทำอะไรไปโง่ ๆ   เพราะคิดว่าตนใหญ่......  แล้วเลยกลายเป็นเมืองขึ้นเขาไปง่าย ๆ 

แล้วพอทหารออกมาก็ยังอธิบายไปอย่างลำพองใจไปอีกว่า   แผนกระชับพื้นที่   แผนงูเหลือมรัดเหยื่อ......................

นี่ล้วนเป็นหลักฐานที่ปรากฎในสาธารณะทั้งสิ้น   ทำไมจะเอาไปอ้างอิงในศาลไม่ได้เล่า  ??

ในช่วงก่อนการล้อมสังหาร  ผมก็ได้ยินหมดล่ะครับ  สิ่งที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณพูดมานั้น .....   เป็นความจริงครับ ที่เขากล้าพูดอย่างเปิดเผยว่าเขาจะทำอะไร  ดูแล้วเหมือนคนหลงอำนาจ  หยิ่งผยอง ลำพองจริง ๆ   ผมยังได้ฟังคำ ๆ หนึ่งอีกครับ  คือเขาว่าจะให้ทหารออกไปกวาดล้างผู้ก่อการร้ายนี่  กวาดไปเสียสัก 500 ศพก็คงพอยุติเรื่องราวทั้งหลายได้  500 ศพก็คงไม่มากเกินไป เขาว่าอย่างนี้  ดูความโหดของเนายสุเทพ   บังเอิญฆ่าทิ้งไป 91 ศพ ยุติเสียก่อน   ถ้าไม่งั้นก็คงถึง 500 ศพจริง ๆ  ดั่งนายสุเทพพูด    แต่วันนั้นเขายังลำพองอยู่   มาวันนี้เขาจึงต้องรับผลการกระทำของเขาเต็ม ๆ 

นี่ไงครับ   หัวล้าน ออกฤทธิ์  ผมหมายถึง  (ศาสตราจารย์) คณิต ณ นคร อดีตเป็นอัยการ ผู้พิพากษา ประธานศาลฎีกา เป็นครูอาจารย์สอนกฎหมายนี่แหละ     ที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์จ้างทำงานสืบสวนเอาความจริงแล้วเอาไปปรองดองกัน....เป็นรูปคณะชื่อว่า  คอป.  พวกเสื้อแดงเรียกว่า  คณะอัปลักษณ์ แกหัวล้านแบบขุนช้างแต่ไม่เหมือนขุนช้าง ๆ เป็นเศรษฐี และรักใครรักจริง ส่วนนายคณิต ตลก ไม่เห็นรวยเท่าไร และเป็นคนรับใช้เผด็จการ  พวกเดียวกับตุลาการสองมาตรฐาน ตุลาการภิวัฒน์ ตุลาการศรีธนญชัย ...................

ก็ผมบอกไว้แต่แรกแล้ว   ว่ายังเชื่อถือไม่ได้  ......    ทำเป็นอมภูมิมานานแล้ว  พึ่งขยายภูมิออกมาวันนี้ ..........

นี่แหละที่ผมและคณะที่ทำเวบไซต์นี้พยายามรายงานออกไปว่า  ปัญหาประชาธิปไตยไทย เป็นปัญหาของคนระดับที่มีการศึกษาสูง ๆ ทั้งนั้น   โดยเฉพาะระดับศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย     เห็นชัดเจนมาตั้งแต่ ศาสตราจารย์อมรา พงศาพิชญ์  ซึ่งเป็นคณบดีคณะรัฐศษสตร์ ซึ่งสอนเรื่องการเมืองโดยตรง  แล้วพอโดนไล่ไปจากคณะนี้  ก็แปลก ไปเป็นประธานกรรมการสิทธิมนุษย์ชนแห่งชาติ  .........ซึ่งพอเกิดเหตุการณ์ 19 พ.ค. 2543 ..   นางอมราคนนี้ออกมาบอกมวลชนว่า.....ประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยเป็นต้นเหตุของความยุ่งยากครั้งนี้ ....... ศ.สมคิด เลิศไพฑูรญื  นี่ก็คณบดีรัฐศาสตร์เหมือนกัน ...ไม่ทราบหนีไปแล้วหรือยัง  ..... ศ.สุรพล นิติไกรพจน์ .......ศ. ธีรยุทธ บุญมี  ศ.สมบัติ ธำรงธัญญวงศ์   .............และอื่น ๆ อีก  ล่าสุดก็นี่แหละครับ  ศาสตราจารย์คณิต ณ นคร .........

ความเห็นของแกเกี่ยวกับเรื่องราวในรายงานนั้น  มันแสดงว่าไม่รู้เรื่องรู้ราวของประชาธิปไตยเลย  ..............เหมือนเด็ก ป.4 ในวิชาประชาธิปไตย ................... ตรงไหนหรือครับ  ก็เรื่องชั้นต้น ๆ  พื้นฐานที่สุดของวิชาประชาธิปไตย คือเรื่องสิทธิ

เริ่งสิทธินี้ควรเป้นบทต้น บทที่ 1 ครับ   ต้องเข้าใจสิทธิ.......สิทธิของประชาชน หรือสัตว์ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าคน ในฐานะมนุษย์............สิทธิของประชาชนในฐานะพลเมือง ........ สิทธิของมนุษย์ในฐานะมนุษย์  สิทธิของมนุษย์ในฐานะพลเมืองในระบอบการเมืองระบอบต่าง ๆ  และสิทธิของมนุษย์ในระบอบประชาธิปไตย   หรือแยกย่อยไปเป็นสิทธิต่าง ๆ  เช่นสิทธิในทางการเมืองของมนุษย์

เรื่องหน้าที่....ควรเป็นเรื่องราว ในบทที่ 2         หน้าที่ของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย  .............   นั่นคือหน้าที่ของสาวกประชาธิปไตย .............เลือดประชาธิปไตยฉีดแรงเพราะสำนึกในความเป็นสาวก ...........ตรงนี้แหละครับที่ว่าด้วย สปิริตทั้งปวงของประชาธิปไตย

บทที่ 3 ธรรมะสำหรับประชาธิปไตย หมายถึงรูปธรรมและนามธรรมอันเกี่ยวกับกฎกติกาต่าง ๆ ของประชาธิปไตย ต้องเป็นธรรมะธรรมชาติ   (ไม่ใช่ธรรมะเพียงความเชื่อพิศูจน์ไม่ได้  เช่นคำสอนโบราณ ๆ ของศาสนาโบราณ ๆ ........เช่นคำสอนที่ว่า  มนุษยโลกตกเป็นหนี้อันยิ่งใหญ่ที่ต้องชดใช้ตลอดไปตราบนิรันดร ต่อพระยะโฮวาเจ้า...หรือต่ออัลเลาะห์  โลกของเรานี้  จะต้องรำลึกอย่างเอาเป็นเอาตายว่า เกิดขึ้นเพราะพระเจ้าสร้างขึ้นมาเพราะพระเมตตาของพระเจ้า   ......   หรือบางคัมภีร์ของศาสนาเก่า ๆ บางศาสนาว่า  เดิมมนุษย์เป็นเทวดา  ลงมากินง้วนดินในโลก กินมากไปเกิดเสื่อมฤทธิ์บินกลับสวรรค์ไม่ได้  ก็จำต้องอยู่บนโลกและสืบเชื้อสายมนุษย์มาจนถึงพวกเราทุกวันนี้.....)  

บทที่ 4  ประชาธิปไตยเป็นวิทยาศาสตร์ 

บทที่ 5 ประชาธิปไตย ความเจริญสูงสุด ความเป็นธรรมสูงสุดของมนุษยชาติ  

คณิต ณ นคร  เอาแค่บทที่ 1 ยังไม่ได้เลย   ..........  นี่ระดับศาสตราจารย์นะนี่  อาจารย์ของสุเทพ  อภิสิทธิ์อีกทีหนึ่ง  ......

เอาไว้แค่นี้ก่อนค่อยเรียนรู้ไปนะครับ     .....

แล้วคณิต ณ นคร กับคณะ คอป.  ก็โดนถล่มอย่างหนัก.....

มีหลายแง่มุมที่คอป.กระทำงานอย่างบกพร่องจริง ๆ

ในด้านการรายาน  เราไม่ทราบวว่าจะให้เรียกว่า มันคืออะไร   มันคือสิ่งที่เรียกว่ารายงานทางวิชาการ หรือเปล่า ?

หรือ  รายงานการรวบรวมข้อมูลปัญหาการชุมนุมและสลายการชุมนุม91ศพเดือน พ.ค.2553

หรือเรียกว่าอะไร....................

แต่จะเรียกว่าอะไรก็ตาม   มันไม่ใช่สิ่งที่เราพอใจเลยทีเดียว  ..

ไม่เข้าใจว่าพวกคุณทำอะไร อย่างไร  ผลที่ออกมาที่ห่วยมาก ๆ นี้........ ควรเรียกว่าอะไร ?

แต่ข้อสรุปของเรา ที่เกินกว่าคำว่า  สมมติฐาน   ก็คือ   นักวิชาการไทย ยังทำงานเชิงการพิศูจน์ แสวงหาความจริง  ในลักษณะงานวิจัยทางสังคมศาสตร์  ไม่เป็น   .............   ทำไม่เป็น

สังคมไทย  วงการศึกษาไทยจะต้องทำเป็น   และรีบหาความชำนาญไปอย่างเร็วรีบเร่ง

แม้กระทั่งคนจบปริญญาเอกคนหนึ่ง  ก็ดูเหมือนไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่า  งานวิจัยทำอย่างไร  ขั้นตอนจริง ๆ ทำอะไรบ้าง และทำอย่างไร     ศาสตร์และศิลป ในการทำงานวิจัยเป้ฯอย่างไร โดยเฉพาะที่ล้าหลังวมาก ๆ คืองานวิจัยทางสังคมศาสตร์   ........

นี่แหละคือเครื่องมือสำคัญสำหรับ ตัดสินใจ ของสังคม    แต่เมืองไทยไร้คนมีฝีมือไปทั้งสิ้น

เรามองว่า เมื่อจะสืบหาความจริงในเรื่องหรือเหตุการณ์ใดใด   มันต้องจำเป็นที่จะนำวิธีการวิจัยมาใช้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่คนไทยรู้จักเอามาใช้หรือไม่   แม้เรื่องนี้ ที่ คอป. ควรต้องนำวิธีการวิจัยมาใช้โดยจำเป็นเลยทีเดียว     ก็เปล่า   ....... เพราะทำไม่เป็น....  โดยเฉพาะพวกที่เรียนกฎหมายไทย ถึงเรียนถึงปริญญาเอก ก็ไม่เข้าใจ  

ทางตำรวจ  ได้มีวิธีการสืบสวนสอบสวน   นี่ใกล้เคียง   แต่งานวิจัยจะช่วยได้มากกว่า และอาจจะใช้ควบคู่กันไป

คือวิธีการศึกษาข้อมูลของ คอป. หละหลวม ไร้วิธีการแม้ในแนวการสืบสวนสอบสวนเอง    และ  งานวิจัย

ก็เลยไร้ค่าไปหมด  

ดูเหมือนยูเอ็นวิเคราะห์ว่า คอป.ไม่มีความเป็น

มืออาชีพ  นั่นแหละเขาดูจากแนวการศึกษาข้อมูลของ คอป.นั่นเอง

ซึ่งพูดได้เลยว่า   แย่มาก ๆ     มือไม่ถึง 

และอาจจะพูดได้เลยว่า  คอป.ไม่ได้ตั้งใจทำงานนี้เลย   สักแต่ว่าเขียนอะไรไป ให้แล้วเสร็จก็พอ แล้วส่งงาน   มันเหมือนความคิดเด็ก ๆ ประถมเพิ่งเข้าโรงเรียน ไม่เข้าใจความสำคัญของปัญหา  ไม่รับผิดชอบ  ....... ทำพอแล้ว ๆ ไปเท่านั้นเอง 

ไม่ละอายว่าใช้เงินไปถึง 60-70 ล้านบาท  ผลที่ได้แค่นี้หรือ?   

สมบัติ ธำรงค์ธัญญวงศ์ อธิการบดีนิดา  ออกมาขัดแย้งนโยบายชาวนาของรัฐบาล  จะฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้รัฐบาลยุตินโยบายจำนำข้าวของชาวนาเสีย

มันเรื่องอะไรของนายสมบัติและคณาจารย์นิดา   ที่จะต้องทำรุนแรงถึงขนาดจะให้ศาลระงับนโยบายเสียเลย 

นี่มันเขียนรัฐธรรมนูญผิดไว้อยู่แล้ว   นี่มันนโยบายรัฐบาล  ไม่มีใครตัดสิน นอกจากประชาชน   .  นายสมบัติไม่เข้าใจหรือ ?   นโยบาย มันมีผลต่อประชาชนโดยตรง ประชาชนได้รับผลโดยตรง  อย่างนโยบายข้าว  รัฐบาลให้รอรอขายได้  แล้วจะได้ราคาถึง 15000-20000 บาท ก็ปรากฎว่าชาวนาต้อนรับกันอึงมี่  แล้วคุณจะไปค้านนโยบายรัฐบาล จนถึงจะให้ระงับได้อย่างไร ระวังนะ  ชาวนาเขาจะออกมาเดินขบวนขับไล่นายศาสตราจารย์นายนี้ 

 ดู ๆ แล้ว คนชั้นศาสตราจารย์อย่างนายสมบัตินี่แหละที่ไม่เข้าใจเรื่องประชาธิปไตย .....เราพูดไว้ก่อนนี้แล้ว  

นายสมบัตินี่..ประวัติเป็นผู้ทรยศต่อประชาธิปไตย

มีมติศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ครับ(10 ต.ค.2555) ว่า 

...... มติศาลรธน.ไม่รับคำร้องคัดค้านจำนำข้าวอ.นิดาไว้วินิจฉัย ชี้ศาลไม่มีอำนาจ.....

.....เฉลิมซัดอ.นิดาโง่! ไล่เอาปี๊บคลุมหัว หลังศาลรธน.ไม่รับคำร้องจำนำข้าว...........kwamjing.......