เพิ่งดูรายการทางช่องเนชั่นเสร็จ มีหมอตุลย์ คุณวิจิตรา และ อจ จาก มเกษตรท่านหนึ่ง คำพูดสรุปตอนจบของหมอตุลย์ ทำให้ได้คิด ว่าต้นกำเนิดระบบประชาธิปไตย ก็คงมาจากคนที่มีความคิดอย่างหมอตุลย์นี่เองแหละ หมอตุลย์สรุปบอกว่า องค์กรอิสระ ไม่ต้องมีที่มายึดโยงกับประชาชนก็ได้ ถ้าเขาทำเพื่อประชาชน ต่างกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนเลย ซึ่งนั่นก็เปนความเชื่อ และเปนความคิดของหมอตุลย์ แต่ประเทศ ๆ หนึ่งมีคนอาศัยอยู่ร่วมกันเปนจำนวนมาก คนที่คิดแตกต่างจากหมอตุลย์ มีเปนล้าน ละอะไรหละที่จะทำให้ การอยู่ร่วมกันของคนหมู่มาก เปนไปด้วยความสงบสันติที่สุด นี่แหละคือที่มาของระบอบประชาธิปไตย เรื่องอะไร ที่มีผลต่อคนหมู่มาก ก็ยอ่มใช้สิทธิใช้เสียงของคนหมู่มาก เปนตัวตัดสิน แม้มันจะไม่สมบูรณ์ที่สุด แต่มันก็ดีที่สุดเท่าที่มีในโลก ณ ปัจจุบันนี้ กฎระเบียบกติกา ที่คนหมู่น้อยคิดขึ้น และเปนที่ยอมรับของคนหมู่น้อย ย่อมยากที่จะใช้มาบังคับ จัดระเบียบกับคนทั้งหมดได้ ...กลับกันถ้าเปนสิ่งที่คนหมู่มากมีส่วนร่วม ได้สร้างกฎระเบียบออกมา อย่างน้อยมันก็ทำให้คนส่วนใหญ่ยอมรับ แม้คนหมู่น้อยจะไม่ยอมรับมัน แต่นั่นมันก็เปนเรื่องที่จำต้องเปน เพราะมันเปนไปไม่ได้ ที่จะทำอะไรให้ถูกใจคนทั้งหมดได้ บทสรุปปิดท้ายของหมอตุลย์ในเนชั่นวันนี้ สะท้อนแนวความคิด ว่าอาชีพ หรือการศึกษา วัยวุฒิ คุณวุฒิ ไม่ได้เปนตัวคำตอบของ ความเปนคนที่มีเหตุมีผล และมีตรรกะที่น่าเคารพยกย่องเสมอไป ตราบใดที่ยังมีคนที่คิดว่า ตัวเองและพรรคพวกคือคนดี ทำเพื่อ ชาติ เพือประชาชน และมองคนอื่นว่าเลวกว่า และประเทศไทยคงไม่มีทางเดนไปข้างหน้าในเส้นทางประชาธิปไตยได้ไกลกว่านี้ เพราะขนาดคนเปนหมอ และซ้ำยังเปนผู้นำมวลชนจำนวนหนึี่งยังสอบตกเรื่องประชาธิปไตยขั้นพื้นฐาน ป่วยการที่จะมาพูด ถึงข้อกฎหมายและบทบรรญัติรัฐธรรมนูญ สรุปปิดท้าย ขอยืมคำพูดของ อจ นิธิ มาดัดแปลงนิดหน่อย ว่า หากประเทศชาติปกครองด้วย คนดี ที่คนส่วนหนึ่งว่าดี แต่ตรวจสอบและยืนยันไม่ได้ ่ขอเลือกคนที่ดีมั่งเลวมั่ง แต่ตรวจสอบ แช่งชัก หักกระดูกได้ ถ้าเขาทำอะไรไม่ดี ซะดีกว่า เพราะคนดี ไม่ดี บางทีมันก็ยากจะตัดสินใจได้ เพราะตราบใดยังไม่ ตรัสรู้เปนอรหันต์ ทุก ๆ คนก็ย่อม มี โลภ โกรธ หลง มาก น้อย แตกต่างกันไป ทุก ๆ คน เพราะฉะนั่น ระบบ หรือระบอบ จึงเปนสิ่งสำคัญที่ต้องรักษา และยึดมั่นไว้ นี่แหละจึงเปนสิ่งที่จำเปนและสำคัญทีสุดที่ประชาชนทุก ๆ คนควรยึดถือ นับจากนี้ไปอีก สิบปี ถ้าไม่การรัฐประหารเลย ไม่ว่าด้วยวิธีการแบบไหน ประชาธิปไตยไทย คงจะแบ่งบานและเติบโตเปนผู้ใหญ่ซะที และเมื่อประชาธิปไตยเบ่งบาน ประเทศชาติสงบ ประชาชนก็ย่อมเปนสุข ตามอัตภาพของแต่ละปัจเจกคน