แต่ถ้าจะถามถึงยุทธศาสตร์เสื้อแดง  ผมขอเสนอ  ยุทธศาสตร์ฟักไข่ ครับผม

ยุทธศาสตร์    ฟักไข่  

ฟักไข่ไปเรื่อย ๆ  จนท่วมแผ่นดิน  

เบื่อรัฐสภาไทยกล้าๆกลัวๆๆๆๆ จนสูญเสียประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติทั้งเรื่องนาซ่า เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ หากไม่กล้าก็จะยิ่งเสียความเป็นประชาธิปไตย นายกสมัครท่านกล่าวคำสัจไว้ว่า ความกลัวทำให้เสื่อมๆๆๆ วันนี้แม้แต่สื่อเสื้อแดงยังต่อว่ารัฐบาลอย่างไม่ไว้หน้า ก็สมควรอยู่หรอก คราวนี้ที่เห็นโทษของความกลัวหรือยัง ประชาชนเขาตาสว่างนานแล้วมีแต่พรรคการเมืองนี่แหละที่ทำให้เสียกระบวนประชาธิปไตยมาช้านาน

มาวันนี้  ตลก ตัวต่อไปมีนามว่า  ศรีราชา  

ถามว่าชื่ออะไร    ชื่อศรีราชา  มีคำนำหน้าว่า  ศาสตราจารย์  รวมเป็น ศาสตราจารย์ศรีราชา เจริญพานิช  เป็น  ผู้ตรวจการรัฐธรรมนูญ ตาม รธน. โจร 2550 ........  มีคณะ 3 คน .... ล้วนแต่เบื้อ ๆ สำหรับยุคใหม่ทั้งนั้น

โผล่ออกมาแนะนำตัวเองไม่ช้าไม่นานนี้ หลัง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขึ้นบริหารประเทศ 

ยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ ร่วม 2 ปี  ไม่เคยได้ยินเสียง........แล้วอยู่ ๆ พอยิ่งลักษณ์มา    เริ่มมีเสียงวอแวออกมา ...........คนก็เลยรู้ว่ามีนายคนนี้ นั่งกินเงินเดือนประชาชนมา  ที่แพงลิ่ว  (เดือนละ 1 แสนบาท)    มาโดยไม่มีใครรู้ว่ามีตัวตนอยู่ ตลอดเวลาที่มีรัฐบาลเด็กอภิสิทธิ์ - และมนุษย์วานร 1.8 ล้านปี สุเทพ เทือกสุบรรณ    ................  

แบบว่าไม่รู้จักอะไรเป็นอะไรในยุคใหม่นี่เลย  

และเป็นหลักฐานชิ้นใหญ่ บ่งบอกไปถึง ตุลาการภิวัฒน์ ตุลาการสองมาตรฐาน และตุลาการศรีธนญชัย   .........   ที่ทำตัวเป็นเบี้ยบนกระดานหมากรุกให้แก่ศัตรูของประชาชน คือ อมาตยาธิปไตย

แล้วคิด พูด ทำอะไรตลกไปหมด   น่าสมเพช

ล่าสุดใช้ทฤษฎีหน้าด้าน พวกเดียวกับประชาธิปัตย์    หลังออกมากล่าวหาว่าณัฐวุฒิไม่สมควรเป็นรัฐมนตรี เพราะขาดจริยธรรม  เพราะณัฐวุฒิมีฐานะเป็นผู้ต้องหาว่าเป้นผู้ก่อการร้ายอยู่  คนโต้ว่าสองมาตรฐาน ทีกษิต ภิรมย์ เป้นรัฐมนตรียังไม่มีผู้กล่าวหาว่าขาดคุณสมบัติเลย  เพราะนายกษิตนี่แหละผู้ก่อการร้ายตัวจริงยึดสนามบินนานาชาติ    นายศรีราชาเล่นลิ้นว่า ไม่มีคนยื่นคำร้องว่านายกษิต ภิรมย์  ขาดจริยธรรมไม่เหมาะสมเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ      แต่แล้วพูดไปไม่ข้ามวัน วันนี้ 27 มิ.ย. ออกมาบอกใหม่ ว่าเพิ่งค้นเจอเรื่องร้องเรียนอภิสิทธิ์ ตั้งกษิตเป็นรมต.ผิดจริยธรรม ยันตั้ง กต.สอบใน 15 วัน ...  

เป็นถึงตุลาการ  ผู้ตรวจการแผ่นดิน สูงสุดตามรัฐธรรมนูญ  พูดกลับกลอก   กลับไปกลับมาเช่นนี้  ได้อย่างไร

นี่คือสิ่งบ่งบอกที่ชัดเจนว่าคุณศาสตราจารย์นายนี่เองแหละ  ที่ไร้จริยธรรม  คุณไม่มีจริยธรรมครับ      ที่ถูก คุณต้องแสดงความรับผิดชอบ ให้สมกับตำแหน่งของความยุติธรรมของประเทศ    ต้องปลดตนเองออกไปจากตำแหน่ง.....

แต่ที่ตลก คือ    แกไม่รู้เรื่อง  ......   อะไรจริยธรรม   ไม่ใช่จริยธรรม   ไม่รู้เรื่อง

นี่คือขบวนการยุติธรรมไทย ที่เป็นอยู่ขณะนี้   แล้วจะให้ต่างชาติมองอย่างไร   จะให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตย  คิดอย่างไร    เขาก็คิดไหวหวั่นไปหมด  ว่าคนเช่นนี้  จะให้อยู่ ณ ตำแหน่งที่ชี้ขาดสูงสุดในเรื่องความผิด-ความถูกของประชาชนได้อย่างไร  ?  

เราจะไว้ใจได้อย่างไรกับคนผู้ตลบแตลงให้เป็นตุลาการสูงสุดของประเทศ  ?     ผู้ซึ่งเห็นกันชัดเจนแล้วว่าเป็น ตุลาการภิวัฒน์(หมายความว่า มองสถานะตนเองผิด ไม่เข้าใจหลักการของรัฐธรรมนูญ ที่ว่าด้วย equality แห่งอำนาจสูงสุด 3 อำนาจ  ที่ให้คานกันเอง  ห้ามก้าวก่าย แซกแซงกันและกัน  มิฉะนั้นจะเป็นดุลแห่งอำนาจได้อย่างไร ?...... แต่ได้เห็นมาตลอดโดยการเป็นตุลาการภิวัฒน์คือเอาตนไปก้าวก่าย...ยับยั้ง ลงโทษอำนาจบริหารอยู่ตลอดมา  ทำให้แผ่นดินเสียหายไปอย่างยิ่งใหญ่ประมาณค่าไม่ได้  เท่าที่มีบทบาทตุลาการภิวัฒน์นี้มา    ...........   ล่าสุด ยับยั้งอำนาจนิติบัญญัติ  ..... ด้วยเหตุผลที่โง่มาก ๆ และด้วยเหตุผลที่โง่มาก ๆ เช่นเดียวกันวางแผนยุบพรรคเพื่อไทย  และจะได้เลยไปยุบรัฐบาลยิ่งลักษณ์ .......  อย่างโง่ ๆ มาก ๆ )  เป็นตุลาการ 2 มาตรฐาน   แน่ละ มีหลักฐานพร้อมพิศูจน์  นั่นคือฝ่ายประชาธิปไตยเข้าคุกแล้วเข้าคุกอีก  เพราะเอาใจใส่ตัดสินรวดเร็วทันอกทันใจนายอมาตย์ แม้กระทั่งเรื่องสำคัญเช่นยุบพรรคการเมือง 3 พรรค โดยพรรคหนึ่งเป้นพรรครัฐบาลที่บริหารประเทศอยู่...ภายในเวลาบ่ายวันเดียวกัน ก็ยังทำได้ (ล่าสุดเอาจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำแม่ทัพใหญ่ฝ่ายแดง ออกจากตำแหน่งสส.  และเตรียมยัดเข้าคุกอีกแล้ว)  ส่วนพวกพธม.-สนธิ-จำลอง-ปชป. ยึดสนามบินนานาชาติ  ยึดทำเนียบรัฐบาล โทษถึงกบฎ ถึงระดับการก่อการร้ายสากล  กลับลอยนวล และยังได้รางวัลไปตาม ๆ กัน เช่นกษิต ภิรมย์ ได้เป็นรมว.กต. เป็นต้น  ตุลาการพวกนี้หาทางสกัดกั้น กลั่นแกล้งทุกวิถีทาง เพื่อให้ฝ่ายตนได้ประโยชน์ และฝ่ายตรงข้ามเสียหาย .............  และยังเป็นตุลาการศรีธนญชัย  คือ     คิดจะพูดจะจาอะไรก็ได้ พร้อมจะตีความความเฉโกของฝ่ายตน ให้เป็นความดีงามอย่างไรก็ได้   เช่นกรณี ม.68 รธน.50 นั่นเอง   แกตีความคำว่า   และ   เป็น   หรือ   ได้สบาย ๆ  โดยค้านคนไทย ที่พูดภาษาไทย และนักวิชาการภาษาไทยกว่า 60 ล้านคนทั่วประเทศ  นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ และพวกตลก.นี้   แกลืม   หรือไม่ก็โง่ ในสถานะการณ์ใหม่ที่โลกเป็นประชาธิปไตย   ..........พวกตลกอ่านรัฐธรรมนูญไม่เข้าใจสาระสำคัญของยุคใหม่  เช่นไม่เข้าใจ มาตรา 3 รธน.50 ที่ว่า  "อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย"   ไม่เข้าใจว่าตนกำลังเล่นกับอะไรอยู่.... คุณกำลังเล่นกับเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง ที่ได้รับการปลุกให้ตื่นขึ้นมาทั้งแผ่นดิน  ที่ได้รับการรับรองจากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ แม้กระทั่งรัฐธรรมนูญโจร 2550  ที่รับรองไว้ในมาตรา 3 ดังกล่าวไว้ข้างต้น    นั่นคือความหมาย  พลังประชาชนเขาไม่ยอมให้คุณเล่นลิ้นได้อีกต่อไปแล้ว     เขามีสิทธิ์ที่จะเอาคุณมา  ลากลิ้น แล้วเจี๋ยน ออกทั้งราก     ลงโทษให้สาสมกับความเป็น ตุลาการศรีธนญชัย    ......

มีอะไรจะพูดต่อไปอีกไหม   ตุลาการภิวัฒน์  ตุลาการสองมาตรฐาน   ตุลาการศรีธนญชัย   ..........

คำว่า  อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย  ที่เขียนรับรองเอาไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุด รัฐธรรมนูญโจร 2550  นั้น  ในรัฐธรรมนูญฉบับแรก คือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2475  เขาถึงกับเขียนไว้ในมาตรา 1 เลย  ว่า 

มาตรา ๑  อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของราษฎรทั้งหลาย

จะเห็นว่าเขียนด้วยภาษาไทย ชาวบ้าน ๆ  อ่านแล้วเข้าใจทันที  คุณวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ จะไปตีความเฉโกตามใจตัวเองไปไม่ได้  อย่างไร    ต้องตีความตรงไปตามลายลักษณ์อักษรได้เท่านั้น   นั่นคือ  อำนาจสูงสุดเป็นของราษฎรทั้งหลาย     

เขาไม่ได้เขียนว่า   อำนาจสูงสุดเป็นของตลกรัฐธรรมนูญอย่างคุณ .......   คุณเข้าใจผิดไปเองละมั้ง !!!

และผมขอบอก....    โดยสัจธรรมว่าด้วยอำนาจนี้   มีอยู่ว่า       อำนาจเป็นยาเสพติดขนานแรง    ..........    เมื่อได้อำนาจจึงไม่อาจจะปล่อยวางโดยสันติได้ ในอดีตมีแต่ต้องใช้กำลังเข่นฆ่ากันเพื่อแย่งชิงอำนาจ   ไม่มีใครอาจจะเจรจาขออำนาจจากผู้หนึ่งผู้ใดได้    ประวัติศาสตร์มนุษย์จึงเต็มไปด้วยความรุนแรง และสงคราม  เพื่อแย่งชิงอำนาจกัน  เพื่อแสวงหาอำนาจ  เพื่อดำรงอำนาจ  และเพื่อ แผ่ขยายอำนาจออกไป ให้ตนอยู่ในอำนาจ นานที่สุดเท่าที่จะนานได้    จึงเป็นเหตุของสงคราม  เหตุของกฎหมายที่รุนแรงในอดีต  ขนาดถึงตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร       นั่นคือเหตุผลที่ว่าด้วยการเสพติดอำนาจ .....  และสำหรับชาวโลก    ชาวเอเซีย    จงดูยุคอาณานิคม

คุณอาจจะยังไม่เข้าใจสถานการณ์การเมืองประเทศไทยยุคใหม่นี้ก็ได้........    นั่นคือประชาชนไทย ในนามเสื้อแดงทั้งแผ่นดิน  บัดนี้พวกเขาได้ถูกปลุกขึ้นมา  และได้เสพสิงที่เรียกว่า  อำนาจ   เข้าแล้ว   และซ้ำเป็นสิทธิโดยชอบธรรมทุกประการ  โดยหลักการรัฐศาสตร์ยุคใหม่  ที่บัญญัติว่า  เป็นระบอบประชาธิปไตย   ที่พวกเขาได้รับการรับรองเอาไว้ในกฎหมายสูงสุด คือรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้ง 18 ฉบับ    ว่า  พวกเขาเป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดของแผ่นดิน 

และบัดนี้

พวกเขาได้เสพติดอำนาจเข้าแล้ว    ...................โดยเฉพาะตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2475   มาตรา ๑  อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของราษฎรทั้งหลาย

พวกเขาได้เสพติดอำนาจเข้าแล้ว  ได้ลิ้มรสแห่งอำนาจเข้าแล้วว่าอเร็ดอร่อยเพียงไหน   และโดยทฤษฎีแห่งอำนาจนี้ แน่นอน พวกเขาไม่ปล่อยวางอย่างเด็ดขาด    จึงไม่มีวันที่พวกเขาจะยอมแก่พวกคุณ  อมาตยาธิปไตยเป็นอันขาด    ......   พวกเขาแดงทั้งแผ่นดิน หลายล้าน ๆ ๆ   พวกคุณมีคน 9 คนบนบัลลังก์ ที่คอยชี้นิ้วตัดสินความผิดให้พวกเขาฝ่ายเดียว  .......  โดยไม่ชอบธรรมเลย   นั้น   จะอยู่ต่อไปได้อย่างไร 

และในเร็ว ๆ นี้   หมายถึงการหักด่าน ๆ แรกของอำมาตย์  คือพวกตุลาการภิวัฒน์  ตุลาการสองมาตรฐาน  ตุลาการศรีธนญชัย

คุณไม่เข้าใจ    พวกเขาฮึกเหิมอย่างยิ่งเพราะการได้ลิ้มรสอำนาจอันหอมหวานอเร็ดอร่อย  จึงยิ่งจะก้าวไปสู้ไป เพื่อพวกเขาได้อำนาจเป็นใหญ่ในแผ่นดิน    อย่างสมบูรณ์  

คุณจะสู้เขาได้หรือ ?  ทำไมไม่รีบเผ่นเสียล่ะ ?

เสร็จแล้ว การไต่สวนคดีล้มทล้างระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข...ตั้งแต่ 5-6 ก.ค.2555  ในระหว่างนั้น

ตุลากร4 คนขอถอนตัว รวมทั้งนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ตัวประธานศาลเอง ด้วย  แต่ถอนได้เพียง 1 คน คือนายจรัล ภักดีธนากุล    อีก3 คนไม่ให้ถอน คือนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานตลกเอง  นายสุพจน์ ไข่มุกด์  นายนุรักษ์ มาประณีต .......   เหนื่อยใจ  ในความมัวหมองของวงการยุติธรรมไทย   ขนาดนี้แล้ว ยังช้ำใจไม่พอหรืออย่างไร ?  

คนไทยจะปล่อยให้ตุลาการที่มัวหมองเช่นนี้เป็นเจ้าชีวิตได้อย่างไร  ไม่เข้าใจเหมือนกัน .......   นี่แหละที่เป็นสิ่งทดสอบ ความเป็นประชาธิปไตยของประชาชน  

มีแต่เสื้อแดงเท่านั้นหรือ   ที่เข้าใจประชาธิปไตย..................?    ไม่.......

แน่ละ  แดงขยายตัวออกไปทั้งแผ่นดินแล้ว

นั่นหมายถึงสัดส่วนของผู้เข้าใจประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น  เราต้องยึดมั่นในสถานะนี้

รูปรวมที่ได้เห็น เป็นภาพที่น่าเศร้าใจ  กับวงการกฎหมายของไทย   ..................

1.      ไร้สาระจริง ๆ   

2.       เป็นวงจร  แค่เอาชนะคะคานกันทางลิ้นลม  และเอากฎหมายมาตีความแบบกะล่อน ๆ

3.      ที่เห็นในกระบวนการไต่สวนวันนี้ทั้งหมด  ล้วนแต่บอดใบ้ในประเด็นสำคัญ ๆ  คือ  ประชาธิปไตยทั้งสิ้น 

พวกที่ร้อง ล้วนปัญญาอ่อน  .........   ไม่ทราบจะพูดอะไรจึงจะตรงความเป็นจริง เพราะคนพวกนี้  นี่แหละนักกฎหมายที่คร่ำครึที่สุดในโลก  ในประเด็นกฎหมายเอง    และถ่วงความเจริญของประเทศไทยมานานนักแล้ว   

และคนพวกนี้  นักกฎหมายพวกนี้   ล้วนแต่ตาบอดไม่เข้าใจประเด็นอำนาจอธิปไตยตามระบอบประชาธิปไตยเลย  แต่น้อย    ...........

เป็ฯเรื่องของคนสวองพวก ที่พูดกันคนละภาษา  ............................  เท่านั้นเอง  เหมือนสังคมคนโง่ ๆ  มาเถียงกันเรื่องโง่ ๆ   .......................  ไม่มีผิดเลย  

ประชาธิปไตยจึงอยู่ห่างไกลมาก   มีแต่พี่น้องเสื้อแดง ที่เข้าใจประชาธิปไตยที่จริง   และพวกเขาเป็นประชาธิปไตยแท้ ๆ   ยังถูกพวกโง่ ๆ  ร้อง  ฟ้องว่าจะล้มล้างประชาธิปไตย   นี่คือเรื่องที่น่าทุเรศและสมเพชมากที่สุด    .....

ปัญหาก็คือ   พวกโง่ ๆ   จะทำอะไรไปโง่ ๆ   แล้วเสียหายแก่ชาติบ้านเมืองไปอย่างไม่รู้สาเหตุ ว่ามันมาจากความโง่บอดใบ้ของตนเอง  

เพราะแกไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าประชาธิปไตยคืออะไร       โดยเฉพาะพวกประชาธิปัตย์   รวมทั้ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเอง  ในวันนี้ 

เราหวังแต่ว่า  ประโยชน์ที่จะได้ก็มีในเรื่องที่จะให้คนฉลาดเรียนรู้เร็ว ได้ตาสว่างขึ้น  จากกระบวนการไต่สวน พิพากษาคดีนี้..................โดยเฉพาะ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเอง  ...........

ในพวกที่ซักฝ่ายผู้ร้อง

ที่โง่ที่สุดคือนายบวร ยะสินธร .................

แกพูดถึงเรื่องการโค่นต้นไม้ใหญ่ว่า จะต้องค่อยลิดกิ่งลงไปทีละกิ่งละกิ่ง จนเหลือลำต้น  ก็จะง่ายในการโค่นล้มไม้ใหญ่

โง่    เขาจะไปลิดทีละกิ่งอยู่ทำไม   ไอ้เซ่อ แล้วโง่ จริง ๆ ๆ

เขามีเลื่อยไฟฟ้าอันเดียวเท่านั้นโค่นต้นไม้ใหญ่ได้ใน 5-6 นาที  โค่นป่าทั้งป่าเตียนทั้งเขา ในวันสองวันเท่านั้นเอง   เช่นเขาแพง ไม่เห็นหรือ? 

อันดับต่อไป  สุรพล นิติไกรพจน์   กับ สมคิด  ........      โง่เพราะไม่รู้จักอะไรเลย  ไอคิวเท่าป.4   ทั้ง ๆ ที่เป็นศาสตราจารย์

โง่อันดับต่อไป   พล.อ.

สมเจตน์ บุญถนอม     พลเอกนะเนี่ย ..........   ผลงานที่เห็น  ทำเสียหายสถาบันทหารเขาหมด      มันไปเน้นลงไปที่  อัญชลี ไพรีรักษ์ แห่งเอเอสทีวี ด่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ขณะนั้น ว่าโง่เป้นควาย  มานี่มาใกล้ ๆ  ถอกหมวกกะโล่ออกกูจะเคาะ จะได้ฉลาดขึ้นหน่อย ..........   นี่ก็ยิ่งกว่า  อนุพงษ์ เผ่าจินดาอีก       หมดงานนี้แล้วก็หลบหน้าหลบตาไปเสีย   อายแผ่นดิน  

โง่อันดับ สาม     วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์    ยังมาถามว่า   เป็นส่วนหนึ่งของอำนาจไหน    น่าขายหน้าจริง ๆ    แล้วจะไปตัดสินอะไรได้ล่ะ ในเมื่ออำนาจอธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญยังไม่รู้จัก    ต้องถามเอาจากหน.พท.    แล้วยังบอกด้วยว่า   งงนะ......

วรินทร์   จาก ปชป.    .............  หน้าด้าน  

โง่อันดับ  6-7-8..................ก็ที่เหลือนั่นแหละครับ   ไม่รู้ตั้งคำถามไปทำอะไร    ...........  ตัวเองก็ไม่เข้าใจคำถาม   เขาถามกลับว่าคุณถามว่าอย่างไร  ก็อ้ำอึ้ง     โถ   พวกโง่ ...........

ทนายความโรงศาลไทยนี่  คุณภาพแย่ขนาดนี้เชียวหรือ        ก็เห็นจากกระบวนการไต่สวนวันนี้แหละ..............   แล้วยังจะดื้อดักดานคัดค้านการเรียกร้องแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย....นักกฎหมาย   เมืองไทยเสียอีก ....................แล้วเมื่อไรไทยจะไปพ้นจากหล่มพวกศรีธนญชัยเสียที   ...............

นี่คือผลของการปิดตัวเองไปจากประชาชน  ไม่รับฟังคำวิจารณ์ของประชาชนบ้าง    นั่นเอง    จึงล้าหลังวงการอื่นเขา   แล้วพอกพูนตนเองไปโดยวิถีเผด็จการ  ตามใจตนเองเป็นใหญ่ 

ต้องมาเข้าใจประชาธิปไตยกันให้ได้ก่อน ๆ ที่จะมานั่งในตำแหน่ง   ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  

พอถึงวันที่ 13 คุณจะประกาศอะไรออกมาผมก็ไม่เชื่อคุณ   เพราะจะไปเชื่อคนโง่ขนาดนี้แล้วจะได้ดิบได้ดีอย่างไร ?  

ความโง่นั่นเอง   ทำให้การตัดสินไม่ศักดิ์สิทธิ์เสียแล้ว      จะมีแต่เสียงหัวเราะเยาะ แล้วกลอกตากลับไปให้ พร้อมเสียงหัวเราะ ก๊าก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ   คุณจะทำไม ........

คุณไพบูลย์ รักไทย  คงหมายความว่า ถ้าจะไปเชื่อพวกตลก   ก็หมายความว่าพวกผมโง่กว่าพวกตลกไปเสียอีกนะซี   

ผมไม่ยอมโง่แน่

เรื่องตลกศาลรัฐธรรมนูญเกี่ยวข้องอย่างไรกับคนเสื้อแดง ?

ในเมื่อเรื่องที่ยุ่งยากเกิดจากทางรัฐสภาเอง และทางรัฐบาล    ที่เห็นอยู่ว่าเขากระทำไปโดยไม่มีอำนาจ ...............   นักกฎหมายก็มี  ก็ยืนยันว่าเขาทำผิด.........................  แต่คุณก็ไปยอมเขา   เขาเรียกให้ไปชี้แจง ก็ไป  .......................ชี้แจงเขา

ชาวเสื้อแดงไปเกี่ยวอะไรด้วย ...........?

ถึงวันที่เขาตัดสิน......ก็แล้วแต่รัฐสภา  กับ รัฐบาลเขา     ว่าเขาจะคิดจะทำอะไรต่อไป    ..............   เป็นเรื่องของรัฐสภา   กับรัฐบาล    ไม่เกี่ยวกับคนเสื้อแดงครับ

สำหรับคนเสื้อแดง  เราไม่ยอมรับตลกอยู่แต่ต้นแล้ว  ..   ใช่ไหม  ?

ผมหมายความว่า พลังแดงทั้งแผ่นดินควรอยู่เฉย ๆ ก่อน  จนกว่าจะมีการตัดสินออกมา   ถ้าเขาตัดสินว่าผิด  ต้องยุบพรรคเพื่อไทย    ก็คอยดูพรรคเพื่อไทยจะทำอย่างไร  ..........  มีตอนไหนที่เกี่ยวกับคนเสื้อแดง  ...........   ค่อยพิจารณาอีกที

ทุเรศตลก รธน.จริง ๆ    .............................

แต่ละคนก็อายุอานามแก่จะเข้าโลงแล้ว  .............   สิ่งที่เปิดเผยในวันนี้ก็คือ  คนกลุ่มนี้เป็นพวกเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์   นี่คือตัวการที่คอยตัดสินช่วยพรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด   จนกระทั่งช่วยรอดยุบพรรค  แบบหน้าด้าน ๆ   คือ   หมดอายุความ   15 วัน 

เป็นพวกขี้ข้าอมาตย์.............. ที่ทำลายประเทศชาติไปจนเกิดความเสียหายอย่างมหันต์อย่างเหลือที่จะประมาณค่าได้

แล้วจะมีสถานะอะไรเป็น  ผู้ตัดสินความยุติธรรมเหลืออยู่   ........   คนรู้ความชั่วของพวกคุณทั้งแผ่นดินแล้วในวันนี้    ว่ามัวหมอง  ไม่มีสิทธิที่จะอยู่บนบัลลังก์ต่อไปอีก   ไม่อายหรืออย่างไร   แก่ ๆ   แล้ว     ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีทุกอย่าง    แม้ความเป็นคน ๆ หนึ่ง  ก็ไร้ค่า ไปหมดแล้ว     ..........      เขาออกมาต่อต้านทั้งแผ่นดินว่าคุณทำผิดกฎหมาย .  ละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญเสียเอง   

กฎหมายนั้นเขียนเป็นภาษาไทย คุณไม่คำนึงข้อเท็จจริงตรงนี้เลย   เหมือนเด็กอ่านไม่รู้ภาษาไทย  ...............

และยุคประชาธิปไตย  เขาเขียนเพื่อประชาชนไทยทุกคนอ่านออกรู้ความหมายตรงกัน  กฎหมายเพื่อคนเข้าใจตรงกันในสิทธิและหน้าที่ของเขา   .... คนไทยทุกคนจำเป็นจะรู้อย่างถูกต้องตรงกันในสิทธิและหน้าที่ตามระบอบประชาปไตย    ไม่ใช่เขียนให้คุณอ่านได้คนเดียว    ไม่ใช่ไปพูดอะไรตลก ๆ  ว่าให้ไปดูฉบับภาษาอังกฤษ  นั่นมันความคิดโง่ ๆ  ที่โง่ในเรื่องระบอบประชาธิปไตยจริง ๆ   ............

อายแทนจริง ๆ.............  นี่เป็นครูอาจารย์นักกฎหมายทั่วประเทศเสียด้วยนะ  ไปสอนธรรมศาสตร์ จุฬา  ฯลฯ   .............  แต่วันนี้เขาด่ากันทั้งมหาวิทยาลัย   เว้นนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ กับนายสุรพล  2 คน   ..........   แล้วคุณจะอยู่อย่างไรบนแผ่นดินนี้  ........  สมเพชจริง ๆ  .

แน่ละ   ตุลาการ  ผู้พิพากษา เหล่านี้   ย่อมต้องได้ศึกษาธรรมะในหลักศาสนาพุทธ และหลักของพระสงฆ์ผู้ทรงคุณธรรม ...............แปลว่าธรรมะก็ได้เรียนรู้ได้ศึกษามาอย่างลึกซึ้ง สมกับสติปัญญาระดับนี้..........แต่กลับตระบัตรสัตย์  ทรยศต่อธรรมไปอย่างหน้าด้าน ๆ   ไร้หิริโอตตัปปะโดยสิ้นเชิง  ..............   แล้วพวกคุณจะเอาหน้าไปไว้ไหน   มองไม่ออกจริง ๆ   เป็นเรื่องน่าสมเพช   เป็นเรื่องคนไทย 9 คน ที่น่าสงสารที่สุด  .................  มาทำลายตนเองไปหมดสิ้นเอาตอนแก่นี่เอง 

แน่ละ   ไม่มีใครแคร์เลยว่าคุณจะตัดสินอะไรออกมาในวันพรุ่งนี้ ............   คุณไม่มีสิทธิ์ตัดสิน.........ไม่มีความชอบธรรมที่จะตัดสิน  เพราะทำผิดมาแต่ต้นแล้ว  และตกกะไดพลอยโจน ตามครรลองชั่วต่อไป    แต่คราวนี้  คุณแก้ตัวต่อประชาชนไม่ได้แล้ว เพราะประชาชนตามทัน  คนเขาเก่งพอแล้ว     ไอ้ที่ว่า   และ   แปลว่า   หรือ  นั้นน่ะ มันหลอกเด็กอ่อนที่ยังพูดไม่เป็นได้  แต่หลอกคนโตไม่ได้    ......................  เพราะคนในประเทศนี้เป็นคนไทย  พูดเขียน เป็นภาษาไทยเหมือนคุณนั่นแหละแล้วคุณจะมีอภิสิทธิอะไรจะไปแปลความให้มันผิดเพี้ยนไปจากวัฒนธรรมประเพณีทางภาษาเขา    ...............   และ มันก็ต้องแปลว่า  และ  ............. คุณจะไปอ้างอะไรมาให้แปลว่า  หรือ  นั้นมันไปไม่รอด   ผมหมายถึงนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์  ตลกคนนั้น 

คือผมหมายความว่า   คณะตลกนี้ไร้ค่าจริง ๆ   จนในความรู้สึกของผมวันนี้ขณะนี้   .....มองคนพวกนี้อย่างทุเรศ ๆ   น่าสงสาร   น่าสมเพชไปหมด  ........เหมือนดูเด็ก ๆ เล่นละครกันนั่นแหละ   ก็คือเขาจะตัดสินอะไรก็ตามใจเถอะ   ไม่มีใครถือสาอยู่แล้ว  

หมายความว่าคนเขาไม่ทำตามอยู่แล้ว     เข้าใจไหม   ตลก..... อยากเป็นเหมือนอียิปต์หรือ ? 

ก็แล้วแต่ว่าตลกจะอยากทำอะไร ...    ไม่มีใครแคร์หรอก.......

มามองสถานการณ์จริงกันขณะนี้ดีกว่า 

แดงส่วนหนึ่งคือ  วิทยุชุมชน  นั้นเขาแรง ก็เพราะสถานการณ์มันแรง  ........   แดงที่อยู่ส่วนหลัง ๆ  ก็อาจจะว่าเขาแรงไป.........   แต่ผมไม่ว่า ...............

ในความจริงเชิรตแดงไทยที่เลื่องชื่อไปถึงต่างประเทศนั้น ขอให้คิดในภาษาฝรั่ง มันจะคิดได้ตรงความจริงดี   คือผมว่าแดงคือ.........  spirit and soul    ...........  ไม่ใช่เพียงคำแปลว่า  จิตวิญญาณนะครับ   แต่มันบอกความหมายที่ละเอียดอ่อน

อย่างภาษาธรรมะของพระพุทธเจ้า มักพูดว่า   งามในเบื้องต้น  งามในท่ามกลาง และงามในเบื้องสูงสุด  นั่นแหละครับ   

ในความเป้นรูปธรรม  มันหมายถึงตรงนี้   คือ  สปิริตแอนด์โซล  นี้แหละ  

คือแดงทำถูกแล้วทั้งหมดทั้งมวลนั่นแหละ   ในรูปรวมทำถูกแล้ว    ดีแล้ว นั่นเอง    มีบางส่วนที่ยังอยู่เบื้องต้น  บางส่วนที่อยู่เบื้องกลาง   มีบางส่วนอยู่สูงสุด      รวมเป็น  spirit and soul  of the red shirt of Thailand    มันแล่นถึงกันหมดโดยอัตโนมัติแหละครับสุดแต่จะเผชิญสถานการณ์อะไร

มันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้วทั้งหมด 

แต่วันนี้   ความหมายมันไกลออกไปกว่าคนเสื้อแดง   แต่เป็นประชาชนผู้รักในความยุติธรรม  ใจเป็นธรรมทั้งแผ่นดิน   ด้วย และที่สำคัญมีคนทุกชั้นวรรณ

เราคิดว่าในวันนี้แดงทำภาระหน้าที่ได้สมบูรณ์แล้ว

ในเวลาต่อไป  สถานการณ์ย่อมเป็นไป   ตามวิถีทางที่อยู่ใต้สายตา หรือการตรวจสอบของประชาขชนผู้รักประชาธิปไตยและรักความเป็นธรรมทั่วประเทศแล้ว  

เราหมายถึงประชาชนตาสว่างทุกชนชั้นแล้วในวันนี้   และนั่นคือภาระที่สำเร็จลงของ เชริตแดงเพื่อประชาธิปไตยแห่งสยาม  

ความหมายหรือครับ....................

ก็หากตลกตัดสินไม่ชอบด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญวันนี้  .................  ไม่ใช่เฉพาะแดงทั้งแผ่นดิน ที่จะเดือดร้อน ......

แต่ประชาชนผู้รักในความยุติธรรม  ความเป้ฯธรรมทั้งหลาย   พวกเขาก็จะออกมากันเอง    .........   คล้ายสายน้ำบนสันเขาที่วกวนหาทางลงมาข้างล่าง   และในที่สุดก็มารวมกับสายน้ำใหญ่    คือ แดงทั้งแผ่นดินเองโดยอัตโนมัติ .....

ภาระของเราน่าชื่นชม   แดงทั้งแผ่นดิน ...

ผมหมายความว่า   เพียงเราคอยดูอะไรจะออกมาอย่างไรก็ตาม    เท่านั้นเอง   ทิศทางมันจะถูกกำหนดเองโดยตัวของมันเอง  

เราอย่าเพิ่งไปคิดทำลายชัยชนะที่เราได้มันมาแล้วอย่างน่าพอใจแล้ว ในวันนี้ .....

จดจำเอาไว้   ......   นายจำลอง ศรีเมือง     นายเนวิน ชิดชอบ    ...........     นี่เป็นศัตรูตัวสำคัญของประชาชน ประชาธิปไตย  โดยเฉพาะภาคอีสานล่าง     มันทำหน้าที่อยู่ในวันนี้ ขณะนี้  แถวศรีสะเกษ  สุรินทร์   บุรีรัมย์   

ค่อยจัดการทีหลังให้สิ้นซาก

จาก FACEBOOK 13 ก.ค.2555

บันทึกทฤษฎีที่สมบูรณ์ในวันนี้

1.     วรเจตน์ ภาคีรัฐ,   รศ.ดร.  คณะนิติราษฎร์   คำแถลงจากการประชุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ 15 ก.ค. 2555

2.      ธงชัย  วินิจจะกุล, ศ.ดร.    จากรายการ  intelligence hard talk exclusive  16 ก.ค. 2555  09.00 น. เขียนจดหมายถึง icc เมื่อ 24 พ.ค.2555  พร้อมธิดา ถาวรเศรษฐ์ - เหวง โตจิรการ  เข้าพบ icc

3.     จาตุรนต์ ฉายแสง  อดีตหน.พรรคเพื่อไทย  ให้คำวิจารณ์ต่อ การตัดสินของ ตลก รธน.   ทั้ง 8-9 คน

คนที่พูดไม่เข้าท่าอีกคน  แน่ละเขา   ..........   ศาสตราจารย์สุจิต  บุญบงการ

เขาว่า      

ข้อ 1     ศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้  ก็ไม่ได้ก่อความเสียหายอะไร    .....................

ข้อ 2     รัฐบาลก็มาจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้   ......................

ข้อ 3     ไม่ควรรีบเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ  รัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ไม่ได้ทำให้รัฐบาลบริหารประเทศชาติลำบากอย่างไร  ก็พอบริหารไปได้  

ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมคนระดับศาสตราจารย์  จึงไม่เข้าใจอะไรเสียเลย  ในวิสัยทัศน์แห่งการปกครองของประชาชน  โดยประชาชน และ เพื่อประชาชน 

แต่บันทึกเอาไว้   เพื่อเสริมเน้นข้อสรุปให้แม่นไปอีกว่าคนระดับศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย และในสถาบันชั้นสูงนี่ต่างหาก ที่เป้นอุปสรรคของความก้าวหน้าของประชาธิปไตยไทย    

สำเนียงของศาสตราจารย์นายนี้ เขาแทบไม่เห็นคุณงามความดีอะไรของประชาชน คนเสื้อแดงเลย   ....................ไม่เข้าใจว่าเรื่องเสื้อแดงโดนฆ่าไป 98 ศพ  .................................ไม่เข้าใจว่าเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตยอย่างไร    ลองสังเกตต่อไปอีกดีกว่า   ว่าเขาจะออกมาแสดงทัศนะขัดแย้งกับเสื้อแดงในประเด็นใดอีกบ้าง..................  แน่นอน เขาเป้นคนเนรคุณคนเสื้อแดงคนหนึ่ง   .......................................นี่คือนิสัยเผด็จการ ไม่เคยคิดฟังเสียงใคร  เพราะคุ้นกับบัลลังก์สูง ใครโต้แย้งไม่ได้ .......

เขาก็ไม่มีอันตรายอะไรมากนักหรอก   ...........   ไม่น่าสนใจอะไรมาก  แต่นี่เอามาบันทึกไว้หน่อย พอเป็นตัวอย่าง  ว่าคนระดับศาสตราจารย์ไทย ไทยนี่  ทำไมบ้องสสสส์จังเลย       เท่านั้นเอง    ....................

แน่นอแน   เขาไม่เป็นประโยชน์แก่ประชาธิปไตยหรอก   ไม่ควรไปขอความช่วยเหลืออะไรจากเขาก็ได้    

ก็ไม่ต่างจาก    ศาสตราจารย์อีกหลายคน  เช่น    ศรีราชา  นั่นหรอกครับ   ท่าทางอมภูมิ............แต่ไม่รู้เรื่องประชาธิปไตยเลย  ....

คือพวกเดียวกัน   พอเห็นท่าจะแพ้ไปทุกแนวรบแน่ ๆ แล้ว    เสียงจึงออกมาทำท่าจะรอมชอม   ปรองดอง  ด้วย

 ตอนนี้เห็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความเที่ยวจับคนโน้นคนนี้เปรอะไปหมด ทำท่าจะเหมือนพรรค ปชป. เข้าไปทุกที  ประชาชนต่างหากที่ถูกละเมิดอำนาจอธิปไตย  องค์กรของคุณยุบพรรคการเมืองของประชาชนได้อย่างไร ประเทศไหนเขาก็ไม่มีกฎหมายแบบนี้ ยิ่งไปเป็นคู่ความกับประชาชนมากเท่าใดความเสื่อมเสียก็จะมากเท่านั้น ศาลยุติธรรมจะมั่นคงอยู่ได้มิใช่เพราะการออกกฎหมายมาบังคับ แต่ความยุติธรรมต่างหากที่จะสร้างความศรัทธาแก่ประชาชน