สมมติแบบไม่ถูกต้อง คือไปคิดว่าที่สาวก4รูปไม่บรรลุอรหันต์เป็นเพราะท่านไม่ต้องการอรหันต์มันต่ำเกินไป คิดผิดไปแบบโง่ ๆ จริง ๆ ไม่ใช่ ๆ ๆ ๆ ที่ตนต้องการเหนือกว่าอรหันต์ เป็นพระพุทธเจ้า ยังบรรลุไม่ได้นั้นเป็นเพราะ ยังโง่อยู่ คือ ยังไล่อวิชชาออกไปจากดวงมหาปัญญาไม่ได้ นั่นเอง รวมทั้งความคิดผิดเรื่องพุทธภูมินี่เอง ไม่ใช่ไปเกี่ยวกับอะไรทั้งสิ้น ไม่ใช่ไปเกี่ยวกับ ความคิดว่าตนยังไม่เอาอรหันต์ จะเอาตนเป็นพระพุทธเจ้า อรหันต์ต่ำเกินไป นั่นแหละบาปจากอวิชชาแท้ ๆ แบบนี้สร้างบาปฐานตีตนเสมอท่าน ไม่รู้สัตตบุรุษธรรม7ประการ ก็จะไม่สามารถบรรลุอะไรได้เลย แม้โลกียธรรมก็เรียนยาก ในทางภูมิปัญญา ความเป็นชาวพุทธยังไม่มีเลย ยังต้องไปฝึกหัดเป็นชาวพุทธที่ถูกต้องก่อน นี่ยังไม่รู้เรื่อง พระรัตนตรัย หมายถึงอะไรเลย แค่ต้ื้น ๆ ยังไม่รู้แล้วอยากเป็นพระพุทธเจ้า การบรรลุหรือไม่บรรลุนั้น มาจากอวิชชาที่มันหายไปหมดในระดับอรหันต์ ท่านรู้วิชชาเกี่ยวกับกเลส ตัณหา อุปาทาน พระอรหันต์จะรู้หมด รู้ขนาดนี้แล้วสะสมวิชชามาขนาดนี้แล้วยังไม่ถึงระดับพุทธภูมิ ยังขึ้นภูมิพระพุทธเจ้าไม่ได้ เข้าใจไหม เพราะ วิชชาของพระพุทธเจ้านั้นต้องมีมากกว่าพระอรหันต์หลายวิชชาไปจนรู้แจ้งโลก และสรรพสิ่ง ตัวอย่างเช่น บุพเพนุวาสานุสสติญาณ ญาณการระลึกชาติ พระพุทธเจ้าจะทรงระลึกชาติได้อย่างมากมายหลายพระชาติ และรู้อย่างละเอียด แต่อรหันต์บางองค์ ยังไม่สามารถระลึกชาติได้ก็มี
หรือแม้การแสดงฤทธิ์ ก็เหมือนกัน อรหันต์บางองค์ก็ไม่มีฤทธิ์ สรุปก็คือ ผู้ใฝ่ความเจริญจริง ๆก็ ้ต้องสะสมวิชชา หรือบารมี ขึ้นสู่ภูมิ อริยสงฆ์ หรือ อริยบุคคล โสดาบันให้ได้ก่อนเสมอไป เข้าสู่ความเป็น 1 ใน ไตรรัตน์เสียก่อน การไปคิดหวังพุทธภูมิ แบบโง่ ๆ คือไม่รู้ว่า พุทธภูมินั้นเป็นของสูงส่ง เราผู้ต่ำต้อยคิดเทียบเทียมกับท่านนั้นบาปนักบาปหนา ยังไม่รู้ตัว ขนาดสังฆรัตน์ยังไม่รู้จักทำตนเป็นสังฆรัตน์ไม่ได้ จะไปคิดหวังพุทธรัตนะได้อย่างไร จะคล้ายไปกับเรื่องในอดีตที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เนื่องจากหวังใหญ่หวังสูงแล้วทุ่มเทการปฏิบัติแบบเอาเป็นเอาตายจริง จนแสงสว่างพล่งโพลงขึ้นในคืนวันหนึ่ง ก็คิดว่าตนสำเร็จเป็นอรหันต์พุทธเจ้าสูงส่งแล้ว คิดจะโปรดจะอวดแสดงความเหนือกว่าของตนต่อภิกษุอื่น และบังเอิญไปพบอรหันต์จริงเข้า บังคับ ชี้ไม้ชี้มือให้อรหันต์ก้มลงกราบตีนตัวเอง บอกว่านี่แหละเราคือพุทธเจ้าละกราบเท้าเสีย พร้อมแสดงความความเมตตาลูบหัวท่านไปตามทางแสดงให้คนเห็นว่าตนมีลูกศิษย์คนสำคัญแล้ว ...ผลคือ แผ่นดินถล่ม คือคนทั้งหลายกลุ้มรุมเข้ามาเตะต่อยตีเหยียบย่ำลงกับร่างบนดินจนเกือบตาย ไม่ตาย ไปตายเองในสามวันต่อมาด้วยรำลึกผิดได้ อดสูจนผูกคอตายไปเอง นี่คือไปรู้ตัวทีหลัง เหมือนคนโง่ ๆ ไม่รู้แม้กระทั่งพระรัตนตรัยคืออะไร แต่กลับคิดไปไกลถึงพุทธภูมิ นั่นแหละทำอย่างนั้นไปทำไม ? ที่ถามว่าสาวกทั้ง 5 จะสามารถเข้านิพพานได้ไหม ก็ท่านสำเร็จไปแล้ว อ้าว ! สมมติแบบโง่ ๆ แบบนี้ได้อย่างไร เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องสมมติ ท่านล้วนสูงส่งเอามาสมมติเล่นได้อย่างไร เป็นเรื่องจริง ต้องไปทบทวนอย่างหนักและลองคิดดูว่า ที่คิดนี่แบบตีตัวเสมอท่านเกินไปนะ น่าเกลียดที่สุดเลย มีธรรมของสัตตบุรุษสักข้อหรือไม่ ? พอรู้ตัวอาจจะผูกคอตายได้เหมือนในเรื่องที่เล่าให้ฟัง เอาละ สุปฏิปันโน คืออะไร ก็ทำนี้ไปก่อน ทั้ง กาย วาจา และ ใจ