"An arahat is calm in his mind, calm in his speech, and also in his deed; truly knowing the Dhamma, such an arahat is free from moral defilements and is unpurturbed by the ups and downs of life.".....because as a buddhist's known the fire inside of his heart has been extinguished and wisdom brightupall heart instead, and knowledge of how to win all the wants of human life, how to live among the cracy world with the cracy men, how to do to live in the world of cloudy with dangers all around, in order to tell all of his friends in the world to be happy as he himself that the first is easy that's to extinguish the fire in one's heart not to throw the firewood to the fire in heart try to perish the fire in one's heart to its end that's the end of life, the sun in heart dies to the end of the human world to NIRAVANA. พระอรหันต์นั้นทรงความสงบในดวงจิตของท่าน สงบในถ้อยคำวาจา และสงบเช่นกันในการกระทำของท่าน และแน่ละการเป็นพระอรหันต์ย่อมรู้ธรรมะรู้ควา่มถูกต้องชอบธรรม พระอรหันต์ย่อมไปปราศจากขยะอันสกปรกในดวงใจ และชีวิตที่ขึ้น ๆ ลง ๆ ไปตามกิเลสความหยากความปรารถนาทั้งหลายที่สิ้นสุดลงแล้วก็เพราะว่า ตามที่ชาวพุทธทั้งหลายรู้ดีอยู่แล้วว่า เนื่องมาจากกองเพลิงในภาคภายในชีวิตนั้นมันได้ดับลงแล้ว และความฉลาดสติปัญญาได้สว่างเจิดจ้าขึ้นแทน ทรงปัญญารู้วิถีทางที่จะเอาชนะกิเลสความอยากทั้งหลาย จะสามารถดำรงตนอยู่ไปอย่างฉลาดอย่างไรระหว่างมนุษย์งี่เง่าทั้งหลาย วิถีทางดำรงชีวิตไปในโลกที่มืดสลัวรางพร้อมภัยอันตรายรอบด้าน เพื่อเพียงปรารถนาให้ความรู้แด่เพื่อน ๆ ที่รักทั้งหลายทั้งโลกมนุษย์ได้รู้ทางไปสู่ความสุขเช่นเดียวกับท่านนั่นเอง และความรู้นั้นก็ง่าย ๆ เบื้องต้นก่อนเลยด้วยการดับไฟเพลิงกองใหญ่ในดวงจิตของตนให้ได้มอดไปก่อน นั้นเอง จงอย่าเติมเชื้อฟืนเชื้อเพลิงเข้าไปในกองเพลิงนั้น ให้มันดับลงให้ได้ นั่นแหละ จุดจบของชีวิต ดวงไฟดวงตะวันในดวงใจของคน ๆ หนึ่งได้ดับลง และดับลงซึ่งโลกมนุษย์นี้ แล้วไปสู่โลกใหม่ โลกนิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเอง
1
-
ถูกใจ
- ·
ตอบกลับ
- · 4 วัน
- ·
แก้ไขแล้ว