1. Phayap Panyatharo ได้แสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ของ ศิษย์ อตุโล ศิษย์ อตุโล
กายกับจิต BODY & MIND มองในประเด็น ความสมดุล ธรรมชาติให้ความสมดุลมาแบบนี้
2. Phayap Panyatharo ได้แสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ของ Boon Boochu
เวลาคน ๆ หนึ่ง ทำความดี หากเขาคิดเอาสิ่งตอบแทนจากการทำความดีนั้น ก็ถือว่าเป็นกิเลส หากเราทำความดีเพียงเล็กน้อย แล้วหวังสิ่งตอบแทน ที่เกินไป ไม่สมเหตุสมผล นั้นก็เป็นกิเลส หากเราทำความดีเพียงเล็กน้อย เราหวังสิ่งตอบแทนถึงระดับ พุทธภูมิ นั้นถือว่าบาป คือเป็นกิเลสหนามาก ถ้าเราหวังพุทธภูมิแล้ว อย่าไปประเมินค่าพุทธภูมิ ว่าจะต้องทำความดีไปให้ได้ขนาดนั้น ๆ ๆ คืออย่าไปคิดเหมือนซื้อ ขาย ที่ว่า 100 บาทได้ ไข่ไก่กี่ฟอง อะไรประมาณนั้น เพราะ ค่าของพุทธภูมิ นั้น กำหนดไม่ได้
3. Phayap Panyatharo ได้แสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ของ ศิษย์ อตุโล ศิษย์ อตุโล
ก็ เมื่อบุคคลมีความสามารถนำจิตเข้าสู่ภาวะของ สมาธิแล้ว ไม่ต้องสั่ง มันสงบเอง เพราะสมาธิคือความสงบ ความนิ่ง ความที่มันละมาไกลจากโลกียวิสัยโลกียธรรม จิตมันก็สงบลงไปเอง หมายความว่า เราต้องเชี่ยวชาญในการเข้า ในการออก จากสมาธิ หากไม่มีความเก่งในการทำสมาธิ จะไปสั่งให้จิตมันเป็นสมาธิ สั่งอย่างไร ๆ มันก็เข้าสมาธิไม่ได้ จึงต้องศึกษาสมาธิไปตลอดเวลาอันยาวนาน อย่างพระสงฆ์นี่บวชจนตาย ยังเข้าสมาธิไม่ได้เลยก็มีเยอะแยะ จึงต้องศึกษา และนี่แหละ มีไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่ต้องใช้เวลาศึกษา จะไปสั่งให้มันเป็นขึ้นเองได้อย่างไร
4. Phayap Panyatharo ได้แสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ของ ศิษย์ อตุโล ศิษย์ อตุโล
18 ก.พ. 2020 08:03
จิตนี้เป็นนามธรรมนะครับ หมายความว่า มันไวมาก ไปเร็ว มาเร็วเท่าความคิดเราเลย ไวเท่าความคิด นั่นคือจิต ไม่เหมือนรูปธรรม ที่ช้า เรื่องเกี่ยวกับจิตนี่ ที่เราควรรู้ก็คือ จิตนี้มันอยู่ระหว่างกลาง ระหว่างความดี กับ ความชั่ว หรือระหว่างกุศลธรรมกับ อกุศลธรรม ซึ่งเป็นนามธรรมด้วยกัน ซึ่งสองฝ่ายที่อยู่คนละด้านกันเลยนี้แหละมีลักษณะเป็นศัตรูคู่อาฆาตแค้น และมีการรบการทำสงครามกันอยู่ตลอดเวลา ระหว่าง 2ฝ่ายนั้น โดยมุ่งเข้ายึดครองจิตใจ มุ่งยึดดินแดนคือจิตของเรานี่เองให้ได้ จึงถึงกันเร็วมากและตลอดเวลาที่มีลมหายใจอยู่ สุดแต่ว่าฝ่ายชั่วหรือฝ่ายดี ฝ่ายอกุศลหรือฝ่ายกุศล ฝ่ายบาปหรือฝ่ายบุญ ที่ชนะเข้ายึดครองจิตไว้ได้ และจิตนามธรรมนี้ เป็นนายของรูปธรรม คือจิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว จิตมีหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชา มันบัญชาอย่างไร กายก็ทำอย่างนั้น อย่างเช่น จ่า30ศพ จิตซึ่งขณะนั้นถูกยึดครองโดยความโกรธ อกุศลธรรม ฝ่ายกุศลธรรม หรือฝ่ายดี ฝ่ายบุญแพ้ราบ พ่ายสงครามราบไปหมด จิตจึงถูกครองด้วยความบาป คือความโกรธแค้น ตัณหา อุปาทาน จิตก็ถูกยึดครองเป็นฝ่ายบาปบัญชาการฝ่ายกาย ให้ยิงกราดฆ่าให้หมด มือเขาก็กดไกยิงกราดไป ตายไปถึง30ศพ ... มีผู้รู้วิเคราะห์ว่า เพราะไร้สติ นั่นแหละ สิ่งที่เป็นความโกรธแค้น ตัณหา อุปาทาน นั้นเองชนะสงครามนามธรรม ที่ช่วงชิงการปกครองจิตใจของคนทั้งหลาย ชนะแล้วมาครอบครองสั่งการฝ่ายรูปธรรมมีมือมีเท้า มีตามีหู ทำการตามฝ่ายบาปไปหมด และมาสู่จิต อย่างไว สั่งการอย่างไว เพราะเป็นนามธรรมด้วยกัน ถึงกันตลอด คนจึงต้องเข้าใจว่า มีสงครามนามธรรมอยู่ตลอดเวลาภายในจิตใจของเรา นั่นคือฝ่ายมาร กับฝ่ายพระ ทำสงครามชิงใจเราอยู่ตลอดเวลา ต้องมีสติระวัง ว่ากิเลส ตัณหา อุปาทาน ความโกรธแค้น อกุศลธรรมทั้งหลาย จะมาบุกรุกยึดครองสิงสู่ในจิตใจเรา ในเมื่อฝ่ายความดีกุศลธรรมที่ใจนั้นมีอยู่อ่อนแอ สู้ไม่ไหว แตกเตลิดหนีไป ฝ่ายมารชนะเข้าครอบครองแทนแล้วอะไรจะเกิดขึ้น แน่นอนเราจะไม่ได้พบความสุขสงบเลย ดังที่ชาวพุทธเราได้พบสัจจธรรมพบข้อสรุป ว่าใจเราควรต้องเข้มแข็งแกร่งกล้าด้วยกำแพงแห่งธรรมะมีฝ่ายกุศลธรรม ความดี ความงาม ความว่างไร้กิเลส ตัณหาอุปาทานมาเป็นผู้ปกครองจิตใจอยู่ตลอดเวลา นั่นแหละชีวิตจึงจะพบความสงบ มีความสุข เกษมเปรมปรีดิ์ เยือกเย็นเป็นสุขอย่างแน่นอน และที่สุดเห็นทางมรรคผล เดินสู่นิพพานได้ในชาติในชีวิตนี้