Phayap Panyatharo  ได้แสดงความคิดเห็น

ธรรมปัญญา ปรารถนาพุทธภูมิ พุทธภูมิ กลุ่มผู้ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า

23 มีนาคม  เวลา 04:28 น.  ·

 

 

**********

 

เปิดประเด็น :-

ถาม   :   บางท่านมีความเข้าใจว่า.....ผู้ที่มีบารมีจริง  ๆ  เขาไม่มานั่งอัพเดทเฟส     ว่างมาตอบคอมเม้นท์ในเฟสแบบนี้หรอก   เขาไปอยู่ในป่า   หรือ   ไปหาที่สงบ ๆ ปฏิบัติธรรมนู้น  เขาไม่มาอวดตัวเองว่าเป็นผู้วิเศษในโลกออนไลน์หรอก.....

ตอบ  :    ถ้ายังยึดติดอยู่แต่ในรูปแบบแล้วล่ะก็    ชาตินี้ทั้งชาติการปฏิบัติธรรมของบางท่าน  -  บางคนคงไม่ไปไหนตลอดทั้งชีวิต  แน่ ๆ   แถม  ยังจะได้บาปจากการสะสมกรรมที่เกิดจากการปรามาสผู้ปฏิบัติธรรมอีกด้วย   ซึ่ง    จะทำให้ชีวิตของตนเองดิ่งลงไปเรื่อย ๆ

ในสมัยพุทธกาล  นั้น  "เจ้าชายสิทธัตถะ"   ทรงตัดสินพระทัยออกบวชเข้าป่าเพื่อไปแสวงหาความสงบ  (ความหลุดพ้น)  +  ปฏิบัติมรรค  8  จนได้ตรัสรู้เป็น "พระสัมมาสัมพุทธเจ้า"  ในที่สุด   หลังจากนั้นท่านก็เข้าเมืองมาสั่งสอนแสดงธรรมโปรดเหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลาย  (มนุษย์  - เทวดา - พรหม  - สรรพสัตว์ทั้งหลาย)  หาได้อยู่ป่าตลอดชีวิตก็หาไม่  (ซึ่งตามความเชื่อของบุคคลบางท่านว่าผู้วิเศษ  -  บรรลุมรรคผล   ต้องอยู่ป่า   ห้ามเข้าเมือง)

ส่วน"พุทธภูมิ"  (โพธิสัตว์)  นั้น    เกิดมาเพื่อบำเพ็ญบารมี   ต้องอยู่กับคน  ช่วยผู้คนและสรรพสัตว์   ดูแลปกป้องพระพุทธศาสนา  และ   ช่วยสร้างความเจริญให้แก่พระพุทธศาสนา   ถ้าไปอยู่ป่ากันหมดทุกคน   แล้วจะบำเพ็ญบารมีให้ครบถ้วนได้อย่างไร   ?   ยกเว้นชาติที่ลงมาบำเพ็ญ "เนกขัมมะบารมี" (การออกบวช)   เท่านั้น   จึงจะใช้ชีวิตในฐานะนักบวชอยู่ในป่าแทบจะตลอดชีวิตทีเดียว (ในยุคทึ่ไม่มีศาสนาพุทธ)    แต่  ถ้าในยุคที่มีศาสนาพุทธ  นั้น  "โพธิสัตว์"  ถ้าไม่มีภาระต้องดูแลพ่อ - แม่  มักจะออกบวชเป็นพระภิกษุตลอดชีวิตเพื่อบำเพ็ญเนกขัมมะบารมี   เช่น   หลวงปู่ปาน   วัดบางนมโค   เป็นต้น

การเล่นเฟส  - ไลน์   ถ้าเล่นอย่างมีสติ   ใช้ในการสร้างบารมี  เช่น   สอนธรรมะ  -   ประกาศข่าวร่วมทำบุญ  -  รวมกลุ่มหล่อพระพุทธรูป  -  ร่วมกลุ่มทอดกฐินสามัคคี  -  ผ้าป่า -  ร่วมกันทำบุญสร้าง + ซ่อมแซมถาวรวัตถุต่าง ๆ  ในศาสนา  เช่น  กุฏิ - โบสถ์ - วิหาร - ศาลาการเปรียญ   9ล9   -  ร่วมกลุ่มชวนกันไปปฏิบัติธรรม    เป็นต้น   ทำไมจะทำไม่ได้  ?  มีแต่คนที่ไร้ปัญญา   เท่านั้น     จึงจะมีความคิดตื้น ๆ   ว่า    คนที่ได้ฌาน - ญาณ - อภิญญา  - พระอริยะบุคคล - โพธิสัตว์   ห้ามเล่นเฟส - ไลน์   ต้องเข้าอยู่ป่าตลอดชีวิต   ห้ามออกมาอยู่ในเมือง   9ล9

#ขอท่านทั้งหลายจงพิจารณาดูเอาเองเถอด — รู้สึกซาบซึ้ง

 

 

ความคิดเห็น

*****

*****

Wiwatchai Pupanasorn

🙏🙏🙏

 

  ·  ตอบกลับ  · 1 วัน

 

Prakasit Chaosuan

เห็นด้วยครับ.สาธุ

  ·  ตอบกลับ  · 1 วัน

 

วิหค โบยบิน

บารมีอยู่กับคน ถ้าอยู่ป่าไม่รู้จะสร้างบารมีกับใครมีแต่ลิง ผี และงู

 

  ·  ตอบกลับ  · 1 วัน

 

โกสินทร์ ศิริชัยโชค

นาๆจิตตังครับ

เป็นสีสันของธรรมชาติ

คนตาดี กับคนตาบอด มองเห็นของสิ่งเดียวกันต่างกัน

 

  ·  ตอบกลับ  · 1 วัน

 

Sumet Plesat

  ·  ตอบกลับ  · 1 วัน

 

Nonglak Ongsakorn

ไม่สิกขาธัมมะของพระพุทธเจ้า แล้วจะรู้ธัมมถูกได้อย่างไร เพราะธัมมะเป็นญาณจากความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า อยู่ในชวนจิต เมื่อทรงแสดงออกสู่ภายนอก เราต้องสิกขาจากภายนอก นำกลับเข้าในชวนจิต การบรรลุธัมมอยู่ในชวนจิต ไม่จำเป็นต้องเป็นภิกขุ ภิกขุนี แม้ฆราวาสก็บรรลุธัมมได้ ขอให้รู้ถูก เกิดปัญญาปหานกิเลสสำเร็จ

กิเลส คือ อกุสลจิต ๑๒ และ อกุสลเจตสิก ๑๔ และอัญญสมานเจตสิกฝ่ายอกุสลทั้งหมดทุกฝ่าย ที่ทำงานกัน มาเป็น อกุสลสังคหะ ๙ อกุสลกัมมปถ ๑๐ ตัณหา ๑๐ ทิฏฐิ ๖๒ สักกายทิฏฐิ ๒๐ นิยตมิจฉาทิฏฐิ ๓ ฯลฯ ที่ต้องถูกปหาน เพื่อเกิดความเป็น อริยปุคคลขึ้นมา โดยมีพลังพุทธานุภาพ จาก พุทธวจนะนำพาไป จากการสร้างปารมี ๒๐ อสงไขย กำไรแสนกัปป การไม่รู้ธัมมะของพระพุทธเจ้า ทำให้เกิด มิจฉาทิฏฐิ ตลอดสาย จนถึง มิจฉาสมาธิ ไป อปายภูมิ.

สาธุ

 

  ·  ตอบกลับ  · 1 วัน

 

Naris Wespinyo

สาธุครับ

 

  ·  ตอบกลับ  · 1 วัน

 

Phayap Panyatharo

ยุคนี้ไม่มีป่าใหญ่ ๆ เช่นหิมพานเหมือนก่อนแล้ว ป่าทุกป่า เขาทุกเขา ท้องฟ้า ต่างดาว แม้กระทั่งใต้ทะเลมหาสมุทร์ นักวิทยาศาสตร์และนักการศึกษาวิจัยโลกธรรมชาติ เขาเข้าถึงหมด โลกจึงไม่เหมือนเดิม กรณีนักปฏิบัติธรรมนั้น มุ่งเข้าป่านั้น มีป่าเป็นเพื่อนนั้น ทำให้การเจริญธรรมไปได้เร็ว ไปได้ไกลลึกซึ้ง ก็เหมือนเจ้าชายสิทธัตถะ ที่สละบัลลังก์ บ้านเมือง ออกสู่ป่านั้นเอง ป่าจึงทำให้ทรงสำเร็จพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณได้ใน 6 ปี

แต่ข้อเท็จจริงของโลกทุกวันนี้ การเข้าป่าเพื่อศึกษาทางสมาธิ วิปัสสนาแบบเดิมนั้น มีปัญหามาก เพราะป่าน้อยลง อย่างเมืองไทย ป่าอุทธยานแห่งชาติเช่นแก่งกระจานก็ยังมีพวกบุกรุกเข้าไปถางป่าเพื่ออยู่อาศัย ทำเขาหัวโล้นไป5-6ภูเขาไปแล้วเป็นต้น

ตามความเห็นที่ว่าพระผู้ปฏิบัติธรรม แม้พระผู้สำเร็จธรรมแล้ว ท่านจะไม่ออกจากป่ามาอยู่เมืองนั้น จึงเป็นข้อเสนอที่ยุคนี้จะทำยาก ...และความจริงก็เป็นเช่นที่ว่า คือป่าเป็นแดนสันโดษที่ห่างไกลมารตัณหาทั้งหลาย ทำให้เข้าสู่ธรรมะได้ง่าย ....แต่แล้วในสัจธรรม แม้ไม่ได้ออกไปสู่ป่า ก็สามารถบรรลุธรรมได้ในโลกนั้นเอง และยุคนี้ก็สามารถปฏิบัติธรรมในเขตเมือง เขตโลกได้ เพียงแต่ว่าการจัดระบบการศึกษาธรรมในเมืองท่ามกลางโลกตัณหาอุปาทานนั้น จะต้องจัดให้ถูกต้องเท่านั้นเอง

 

  ·  ตอบกลับ  · 8 ชม.

 

Phayap Panyatharo

นี่แหละที่ท่านทั้งหลายผู้มีบารมีธรรม แต่หลบโลกไปอยู่ป่า มีป่าเป็นแดนสุขสงบส่วนตน น่าจะให้ความคิดเห็น ความรู้ทางปฏิบัติ เป็นระบบการปฏิบัติสำหรับการปฏิบัติธรรมเพื่อบรรลุมรรคผล ตามองค์สมเด็จระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในยุคนี้ ยุคกึ่งพุทธกาลนี้ จะต้องวางแบบแผนออกมาอย่างไร สำหรับคนยุคใหม่ ที่ต้องปฏิบัติธรรมแบบคนยุคใหม่ คนยุคออนไลน์ ..เราคงไม่ต้องสงสัยกันแล้วว่า แม้การปฏิบัติธรรมนั้น ก็สามารถปฏิบัติในบ้าน ในสังคมได้ ใช่ว่าต้องออกป่า ต้องเข้าวัดสถานเดียว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับแบบแผนหรือวิธีการ หรือสัจธรรมแห่งการบรรลุมรรคผลที่นำมาใช้ในโลกยุคใหม่นี้ ว่าเป็นอย่างไร

และแท้จริงการที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงออกป่าอยู่ป่าศึกษาธรรมถึง 6 ปีจึงสำเร็จพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณและทรงออกจากป่า คืนสู่โลกอีกครั้งหนึ่งนั้นเพราะเหตุใด? ก็คงจะเข้าใจตรงกัน ก็เมื่อทรงพบของมีค่าของวิเศษแล้วก็ทรงเมตตาอยากให้คนทั้งหลายได้ด้วยจึงจะพ้นทุกข์นั้นเอง จึงทรงสั่งแม้สาวกอรหันต์ยุคต้น ๆ ให้แยกย้ายไปคนละทิศ อย่าไปซ้อนกัน ก็เพื่อเผยแผ่ธรรมะไปให้ไกลที่สุดทั่วถึงที่สุดนั้นเอง...แต่ยุคพุทธองค์นั้น ทรงเดินไป คนทั้งหลายคมนาคมกันไปด้วยเท้า

 

  ·  ตอบกลับ  · 8 ชม.

 

Phayap Panyatharo

.แต่ยุคนี้ เพียงกดปุ่มเท่านั้น วาทะที่ท่านต้องการเผยแผ่ ก็จะไปได้ทั่วโลก ทันที ก็ด้วยระบบออนไลน์ นี่เอง นักการศาสนาสามารถเอาเทกนิคของโลกที่วิเศษของโลกยุคนี้มาใช้เป็นเครื่องมือเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ต้องเดินไปด้วยเท้าเหมือนยุคพุทธองค์แล้ว นี่ก็นับว่าจะเผยแผ่ธรรมไปสู่โลกได้ทั่วโลกจริงๆ โดยใช้เวลาเพียงนาทีเท่านั้นเอง เพียงแต่เราจะหาธรรมะชั้นวิเศษ ๆ มาเผยแผ่ต่อไปให้ได้เท่านั้นเอง ฉะนั้น ท่านผู้สำเร็จแล้วก็จึงน่ามองเห็น ไม่น่าจะอยู่สบายในป่า ควรเอาสิ่งที่ท่านรู้แล้วมาเผยแผ่ออกไปสู่โลกด้วยเครื่องมือของโลก ที่ทำได้เพียงการกดปุ่ม ธรรมะที่วิเศษก็จะไปสู่คนทั้งโลกแบบไม่รอดเลยแม้ตารางนิ้วเดียว,

นี่แหละยุคใหม่นะครับ,ซึ่งผู้รู้จริง มีอภิญญา พุทธปัญญาแล้ว ย่อมมองเห็นประโยชน์ทางการเผยแผ่ธรรมะอย่างแน่นอน เราเพียงขาดแต่ธรรมะที่แท้จริง ธรรมะที่นำคนทั้งโลกไปสู่ความพ้นทุกข์ สู่โลกนิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น นำเอาธรรมะที่วิเศษแท้จริงเป็นอริยสัจจออกมาสู่โลก มาช่วยกันแบบคนยุคใหม่เถิด.... แผ่พุทธธรรมไปทั่วโลกด้วยระบบการสื่อสารของโลกยุคเทกโนโลยี่ยุคใหม่นั้นเอง โลกทั้งโลกก็จะสามารถรับรู้ธรรมวิเศษที่นำโลกทั้งโลกไปสู้ความพ้นทกข์สู่โลกนิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้.

 

  ·  ตอบกลับ  · 8 ชม.

 

 

*****