พระครูพุทธิพงศานุวัตร (Phayap Panyatharo)
คราวปลีกไปทำกรรมฐานสันโดษเดี่ยวคนเดียว ไม่ต้องการพบมนุษย์เลย เป็นเวลา 21 วัน 20 คืน ในป่าช้าจีนสุสานสุขาวดีศรีสะเกษ 500 ไร่ ต้นปีปี2533 บวชใหม่ ๆ และพวกป่าช้ามาเล่นดนตรีแห่ศพถวายเสียงลั่นสนั่นแทบหูแตกอยู่ 2 คืน ก่อนนี้สักไม่กี่วัน ก็ไปอยู่ป่าช้าไทยมาก่อน 16 วัน 15 คืน ป่าช้าโพนเขวา มีดนตรีป่าช้ามาให้ฟัง มาก่อน เช่นเดียวกันนี้แต่สนั่นกว่าป่าช้าจีน เพราะดนตรีบรรเลงกลางป่าไม้แน่นไม่กว้างเหมือนป่าช้าจีน ... จุดประสงค์เพื่อปลงอศุภกรรมฐาน ฆ่ากามตัณหา และยังไม่สำเร็จ .....มาสำเร็จภายหลัง เพียงแต่ได้ข้อสังเกตุเพื่อการปฏิบัติต่อไปอีก....เป็นการศึกษาเชิงวิจัยแบบสมัยวิทยาศาสตร์
ฝึกเตโชกสิณในป่าช้าจีนสุสานสุขาวดีศรีสะเกษ
Phayap Panyatharo
นี่เป็นการฝึกฝนเตโชกสินนะครับตอนไปอยู่ป่าช้าโพนเขวา ผลก็คือเปลวเทียนลอยขึ้นได้ และให้เลื่อนลอยไปไหนก็ได้ตามแต่จะสั่งการมัน .... ผมสนใจมาตั้งแต่เป็นเด็กทารกที่ยังเดินไม่ได้ ก็อายุ 1 ขวบมั้ง แล้ว พี่เลี้ยงเอาไปวางไว้ที่แป้นกี่หันหน้าไปทางตะวันตกพอดี ผมเป็นเด็กที่ไม่ร้องไห้ ไม่ร้อง ไม่บ่น ไม่พูด ใครเขาให้ทำอะไรก็ทำ ไม่บ่นเลยโดยเฉพาะพ่อให้ทำอะไรทำหมด เขาวางลงไว้ก็นิ่งไป ไม่ร้อง ไม่รู้สึกยินดียินร้าย ก็นั่งไปจนกว่าเขาจะมาเอาไป พอเห็นตะวันก็สงสัยว่ามันคืออะไร แล้วพอมองดู ก็ติดเลย ไม่ละสายตาไปจากมันเลย มองดูแบบไม่กระพริบตาเลย ที่นั่งมองตะวันตกดินอยู่ราว ๆ 2-3 ชั่วโมงมองตะวันตกดินแบบไม่หลับตาเลย (มาคิดเรื่องตาแดง ที่แม่ผม พ่อผมเล่าว่าตอนเด็กเป็นตาแดง ตาแทบบอด หายามารักษาตาผมและรักษาอยู่นานจึงหาย ความจริง น่าจะมาจากการเพ่งดวงอาทิตย์คราวนี้นั่นเอง เพราะเพ่งแบบติดตาไปเลย ตาไม่ยอมกระพริบและทั้งไม่เบี่ยงเบนหน้าหนีไปเลย จนคนเอาวัวควายมาเข้าครอก ตะวันลับลงดินแล้ว พี่เลี้ยงก็มาเอาผมไป) โตมาแล้วจึงรู้ว่าทำกสิณไฟนั่นเอง
มาฝึกต่อตอนโตแล้ว ตอนบวชวันแรก ๆ 3 วันปี 2526 ที่วัดบ้านถ้ำ กาญจนบุรี หลังเข้าถ้ำไปพบนางยักษ์ ฝึกวิชาเปิดถ้ำมืดให้สว่าง นางยักษ์ใหญ่มาข้างหลัง เกือบมันจะผลักตกเหวตายพอดีรู้สึกตัวหันไปพบมือมันขนาดใหญ่โตมโหฬาร ยื่นมาข้างหลังเรา จะผลักหลังลงเหว แต่พอมันเห็นสายตาเรามันกลัวเหาะหนีไป ก็รู้ว่ายักษ์มันกลัวเตโชกสิณ ก็เลยได้ความรู้ว่าจะเดินป่าเข้าป่าต้องมีอาวุธปราบยักษ์ ผี ภูต อมนุษย์ ก็ไปฝึกเตโชกสิน ที่ฝั่งแม่น้ำแม่กลอง อยู่3วันเวลาหลังจังหันเช้า เพ่งดูตะวันในน้ำ เงาตะวันนั้นเอง เพ่งเงามัน ไปเพ่งดวงตะวันโดยตรงคราวเรียนธรรมศาสตร์ตาจะบอด เลยเลิก มาคราวนี้เพ่งตะวันในน้ำ เห็นมันสว่าง แดงเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆๆ จนวันที่ 3 ตะวันในน้ำนั้นมันระเบิดแสงขึ้นเป็นไฟลุกขึ้นแล้วลามไปตามลำน้ำ ดั่งเพลิงไหม้น้ำมันแม่น้ำ ....แม่น้ำแม่กลอง ลุกไหม้ทั้งลำ โอโฮ !!! ถือว่าสำเร็จ เล่าให้เพื่อน ๆ ฟังครับ...ผ่านจุดสุดท้ายมาแล้วเลยเล่าเรื่องลับ ๆออกมาแบบไม่กลัวบาปอีก
· ตอบกลัNantasarn Seesalab
ขออนุโมทนาในประวัติมหรรศจรรย์ที่ท่านพพระครูพุทธิวงศานุวัตร (Phayap Panyatharo) นำเสนอ ชาวพุทธไม่ควรพลาด อ่านและวิเคราะห์อย่างมีสติ แม้ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ยังตรัสถึงเรื่องหูทิพย์ตาทิพย์ มายุคนี้ ก็เป็นจริงดังที่เห็นบ · 1 สัปดาห์ · แก้ไขแล้ว
hayap Panyatharo มีเรื่องประหลาดหรือเร้นลับเช่นนี้มาตลอดชีวิต เล่าได้เยอะมากไม่รู้จบ แต่ เหตุเกิดเพราะเราไปปฏิบัติธรรมมุ่งฆ่ากิเลสให้หมดเป็นเป้าหมาย สุดท้ายเป็นเป้าหมายฆ่าตัวตนของตนและฆ่าอวิชชา จะค่อย ๆ เล่าไปตามกาละเทศนะท่านนะ ถูกใจ · ตอบกลับ · 6 วัน