
พุทธศาสนา-อิสลาม รายวัน 21 ธ.ค.2565 สมาธิ3ระดับสุดยอดมหานิพพาน
เฟสต้นเรื่อง: ญาณทีโป นามะ
มนต์ไม่สวดไม่เอาศีลไม่ต้องรักษาไม่เข็มงวดตนเอาแต่ปล่อยวางอย่างเดียวคงใช้ไม่ได้สวดมนต์คือสมาธิศีลสำรวมกายวาจาขาดสมาธิขาดศีลจบ
ความคิดเห็น 18 รายการ
@@@ Phayap Panyatharo
ขอบคุณ... เรื่องการสวดมนต์ ตามที่กำหนดไว้ในกิจวัตร 10 นั้น สวดเช้า สวดเย็น ซึ่งพระสงฆ์พุทธทั่วประเทศทุกวัดวาอารามจะสวดตรงกันหมดนั้น มีความสำคัญแบบเป็นพื้นฐานของชีวิตพระสงฆ์หรือผู้ปฏิบัติธรรมเลยทีเดียว ผลของการสวดนั้นไม่ว่าจะสวดบาลีไม่แปล หรือสวดแปล ผลก็คือทำใจให้สงบ ซึ่งเรามักจะรู้ ๆกัน แต่ความจริงการสวดมนต์นั้นเป็นอะไรมากกว่านั้น ชนิดที่ว่าผู้สำเร็จธรรมแล้ว ก็ยังสวดมนต์ต่อไปเป็นปกติเลยไม่ว่าสำเร็จแบบไหน
พูดสั้นๆ การสวดมนต์เป็นวิธีการปกติของผู้สำเร็จวิชาแล้ว ไม่ว่าสำเร็จวิชาอะไร วิชามรรคผล โสดาบัน ถึง อรหันต์ ท่านก็สวด วิชาไสยศาสตร์ ศาสนาอื่นใดก็สวด เพราะเป็นวิธีรักษา วิชาภายในของตนไม่ให้เสื่อมลงไปนั่นเอง
ฉะนั้นการสวดมนต์ของพระสงฆ์พุทธเราจึงถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่สำคัญเมื่อเราบวชเข้ามาสิ่งแรกที่ต้องคำนึงนั้นก็คือการสวดมนต์เช้า สวดมนต์เย็นนั้นเองต้องอ่านจดจำบทสวดให้ได้ติดปาก แล้วสวดทุกวัน ๆ อย่าขาดเลย นั้นแหละทำใจสงบลงไปวันแล้ววันเล่าสะสมความสงบไปเรื่อย แม้เพียงสวดมนต์เท่านั้นเอง นานไปๆสะสมความสงบใจไปเรื่อย ๆ ปี 2 3 4 ปี 5 ปีไป ก็บรรลุระดับโสดาบันเอง....นี่สำหรับคนที่ไม่มีสติปัญญาอะไรเลยก็ยังสำเร็จได้ด้วยการสะสมความสงบด้วยการสวดมนต์นี่เอง อย่าหยุดสวด (แม้ฆราวาส จะจัดห้องสวดที่บ้าน สวดทุกวันเหมือนพระ สามเณร ก็สำเร็จเหมือนกัน) ......
ในเรื่องที่ต่อเนื่องไปก็คือ ที่ท่านพาทำสมาธิต่อนั้นพื้นฐานก็จะมาจากการสวดมนต์นี้เอง เมื่อสวดมนต์ได้ครบบทแล้วก็มาสู่การฝึกสมาธิใจสงบเพราะสวดมนต์มาแล้วก็จะสงบยิ่งขึ้น และหากนำเทกนิคการฝึกสมาธิมาใช้ในการฝึกสมาธิต่อก็จะไปดียิ่งขึ้น และเทกนิคนั้นก็คือที่ท่านอาจารย์ทางวัดป่า ๆ ท่านว่าภาวนานั่นละ แต่ให้เข้าใจว่าภาวนานั้นคือเครื่องมือฝึกสร้างสมาธิ
มองรูปธรรมเลยจะเข้าใจเพราะภาษานั้นค่อนข้างสับสน แม้การแปลก็แปลไม่ตรงกันไป ภาวนาคือการบริกรรมคาถาสั้น ๆก็ที่รู้จักดีก็ พุท โธ พุท โธ นั่นแหละ ภาวนาคำนี้ไปช้า ๆ สม่ำเสมอ แล้วให้เกิดความชำนาญขึ้น จนภาวนาในใจได้ มันก็จะนำไปสู่สมาธิได้ ก็จะเจริญไปเรื่อยไปสู่ คณิกะสมาธิ ก่อน แล้วไปสู่ อุปปะจาระสมาธิ แล้วไปสู่ อัปปนาสมาธิ ตอนนี้จะยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าสมาธิ คืออะไร จนกว่าจะเข้าคณิกะสมาธิได้ ก็จะรู้เอง หากยังไม่รู้แปลว่ายังไม่รู้จักคณิกะสมาธิเบื้องต้นด้วยซ้ำ.
เรื่องสมาธินี้ ทางพุทธเราก็ใช้คาถาบริกรรมพุทโธ เป็นพื้น หากเข้าใจจะใช้คาถาอื่นก็ได้ แต่ระดับเดียวกัน เช่น สัมมาอรหัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ หรือแม้ยอดคำในพระอภิธรรม เช่น อิสวาสุ ๆ ๆ หรือ จิ เจ รุ นิ ๆ ๆ ก็ได้ มันเป็นไปตามเหตุผลแบบวิทยาศาสตร์ คือเป็นผลขึ้นเพราะเราบริกรรมซ้ำ ๆ นั่นเองซ้ำไป ๆ ๆ ๆด้วยคำเดียวนี้ก็เป็นสมาธิได้ ที่ให้เข้าใจก็คือ มีบทบริกรรมยาวๆคือ บทบริกรรมว่ายุบหนอ พองหนอ อันนี้ อย่าเพิ่งใช้ และแม้นับลมหายใจ เป็นอีกระดับหนึ่งที่สูงกว่า เก่งพุทโธแล้ว จึงเลื่อนไปใช้ให้สมภูมิรู้ ..
จะให้เข้าใจเรื่องสมาธิก่อน สมาธิไม่ใช่เป็นวิชาของพุทธอย่างเดียวนะแต่เป็นสากล ฮินดูเขาว่ามาก่อนพระพุทธเจ้าเสียอีก เขาบริกรรมทั้งวันทั้งคืนหลายวันหลายคืนคำเดียวว่า โอม นมัสศิวะ โอม นมัสศิวะ หรือ โอม คำเดียวก็ได้ ไม่ทำอะไรเลย ว่าคำนี้ในถ้ำ 7วันจนสำเร็จ เทพเจ้าลงมาหาเขานั้นแหละสำเร็จแบบฮินดู เขาว่าคำอื่นก็มี แต่ตามเหตุผลที่ว่าคือเกิดจากการบริกรรมซ้ำ ๆ ๆ ๆ ๆ ... และอิสลามก็เหมือนกัน....
2.
@@@ Phayap Panyatharo
สำหรับพี่น้องอิสลามนั้นในเรื่องสมาธินี้ เขาวางฐานไว้แบบเดียวกับเราคือมีการสวดทำวัตร ที่เขาเรียกละหมาด 5 ครั้งต่อวันนั้น มีบทสวดที่เรียกว่า อัมนาส ที่เอาภาษาในคัมภีร์มาสวดสรภัญญะได้ทุกคำทุกประโยค มีการจัดประกวดระดับโลกนั้นแหละ เป็นพื้นฐานสมาธิอยู่ระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพียงแต่มันยาวไปเท่านั้นเอง และทางพุทธเรามองว่าเป็นบทเพลง บทขับร้องเป็นสานุศิษย์ของกามไป(คือกามตัณหา ที่คุกคามมุสลิมมามากแม้องค์ศาสนทูตเอง)
อิสลามน่าจะมาลองใช้เทกนิกแบบศาสนาอื่น คือเอาคำมาบริกรรมสั้น ๆ เห็นมีมุสลิมในมัสยิด และโรงเรียน และแม้ที่หินกะบะศักดิ์สิทธิ์ซาอุ ก็ได้ พากันนั่งทำสมาธิกันเป็นประจำก็มีแล้ว นั่นแหละเราอยากจะแนะนำให้เอาคำบริกรรมสั้น ๆ จากพระมหาคัมภีรนั้นเอง มาบริกรรมแบบฮินดู พุทธเรา ซึ่งมีคำที่มีประสิทธิภาพจริง ๆ ก็มี เลือกเอาเป็นคำ ๆ ดังที่ขอเลือกให้มี...
อัลลอฮ์ ซุบฮานะ ฮูวะตะอาลา (อัลเลาะห์ ซุบฮานะ ฮูวะตะอาลา)...
ซุบฮานะ ฮุวะตะอาลา.....
อับดุรรอฮมาน (อับดุลเราะห์มาน)....
อิบาดุลรอฮ์มาน (อิบาดุลเราะห์มาน)....
ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮ์ (ลาอิลาฮะ อิลลัลเลาะห์)....
เลือกเอาไปนั่งบริกรรม คือการนั่ง ก็ขอแนะนำให้ร่างกายสมดุลเผื่อว่านั่งไปเป็นวัน ๆ มันจะไม่หนักในร่างกายส่วนใดส่วนหนึ่ง ก็นั่งสมาธิแบบเรานั่งฝึกนั่นแหละ ความหมายคือความสมดุลของร่างกายนั่นเอง ไม่ให้ส่วนใดส่วนหนึ่งรับน้ำหนักเกินไปกว่าส่วนอื่น ทำเป็นประจำ เริ่มด้วยการบริกรรม หลับตาบริกรรมว่าคำไปเรื่อย ๆ เช่นว่า อัลเลาะฮ์ ซุบฮานะ ฮูวะตะอาลา ให้เกิดความคล่องขึ้นในการออกคำ แล้วจนชำนาญไปเรื่อย.....ก็จะเกิดสมาธิขึ้น...เราอยากบอกว่ามี3ขั้นตอนของสมาธิ ...
ที่ท่านเองก็จะไม่รู้ว่าท่านศาสนทูต มุฮำมัดของเรานั้นท่านก็ได้ขึ้นไปฝึกสมาธิประจำในถ้ำหิรอฮ์ บนภูเขา นูร ใกล้ ๆ เมกกะนั่นแหละ จนถึงระดับ อุปะจาระสมาธิ ก็จึงพบพระองค์อัลเลาะห์
ทีนี้หลักการสมาธินั้นให้เลยไปถึงระดับอัปนาสมาธิให้ได้ กล่าวสรุปคือฝึกให้ได้ผ่านไปเรื่อย ๆ จาก คณิกะสมาธิไป อุปปะจาระสมาธิไป อัปปนาสมาธิ ....ทางพุทธศาสนาเขาให้เลยไปถึงอัปนาสมาธิให้ได้(เรียกว่าสัมมาสมาธิ) ไม่ว่าไปเจออะไรก็ต้องผ่านไป ถึงตรงนั้น สำหรับพี่น้องมุสลิม หรือแม้นักปราชญ์มุสลิมระดับอิหม่ามสูงสุดก็ตาม ก็มีสิทธิที่จะเข้าสู่โลกอีกโลกหนึ่ง คือบรรลุอรหันต์ได้ อันเป็นจุดสูงสุดของพระพุทธศาสนา
เราอยากให้พี่น้องมุสลิมเข้าสู่ตรงนั้นให้ได้จริง ๆ เพราะพวกท่านจะง่ายมากเลย ..เมื่อถึงระดับอัปนาสมาธิแล้ว หรือระดับอุปปะจาระแก่ ๆ หน่อย ก็ได้ พี่น้องมุสลิมที่เข้าสมาธิอยู่ เพียงทำใจให้ว่างเท่านั้นเอง คือคำว่าว่างนี้ เป็นอย่างนี้ครับ คือ ปกติท่านจะไม่ว่างไง มุสลิมชั้นนิยะตะศรัทธาจะมีพระองค์อัลเลาะห์อยู่ในใจตลอดทุกสถานะกาล แต่เราแนะนำให้เพียงทำจิตให้ว่าง ว่างจากพระเจ้าของท่าน เพียงชั่วคราว ชั่วอึดใจ ชั่วนาที เท่านั้นเอง ฝึกทำบ่อย ๆ ท่านก็จะผ่านทะลุเข้าโลกนิพพานได้ คือบรรลุจุดสูงสุดของพระพุทธศาสนาได้นั่นเอง
ก็ทำไมไม่ลองดู เพราะเท่ากับท่านได้ไปสู่อีกโลกหนึ่ง ลองดู นี่แหละที่เราอยากจะแนะนำ คนทั้งหลาย โดยเฉพาะมุสลิม อิสลามที่น่าจะเร็วมาก เพราะเพียงเอา อุปาทาน คือความยึดมั่นถือมั่นว่าพระเจ้าอยู่กับท่านออกไปก่อนเท่านั้นเอง อันเป็นหลักสูงสุดของอริยธรรมในพระพุทธศาสนาท่านก็บรรลุอรหันต์ ...เราอยากจะบอกว่าเมื่อบรรลุอรหันต์แล้ว พระอรหันต์จะมองเห็นศาสนา-ศาสดาอื่นทั้งหมด และด้วยเหตุนี้ จึงเห็นได้ว่า ท่านนบีมุฮำมัด ท่านอยู่ระดับอุปปะจาระสมาธิ แก่ ๆ เท่านั้นเอง พอ ๆ กับ พระเยซูคริสต์ จึงไปสู่โลกพระเจ้าทั้งสององค์ ไปไม่ถึงโลกนิพพาน เหมือนเจ้าชายสิทธัตถะ ...ขอมอบความรู้นี้แด่พี่น้องมุสลิมไทย และสากลเลยนะครับ จากคนผู้ผ่านสมาธิมาทั้งสามระดับยุคปัจจุบัน
-----
-----
