Thai-English

การเมืองไทย วันนี้ 22 ส.ค.2566

 

 

 

Thai-English

การเมืองไทย วันนี้ 22 ส.ค.2566
การเมืองไทยวันนี้  22 ส.ค. 2566  ทักษิณกลับไทย แบบมหาเศรษฐีต้องโทษอาญาแผ่นดินเข้าคุกทันที 8 ปี

*ทัศนะของ สุไหงปาดี ชินะกุล  ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์ 

22 ส.ค. 2566 วันนี้ นายทักษิณ ชินวัตร  เดินทางสู่ประเทศไทย หลังหลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ 15 ปี เศษๆ เดินทางสู่ประเทศไทยด้วยเครื่องบินเจทส่วนตัว ทราบว่าเดินทางจากบรูไน  มาพักที่ สิงคโปร์ ก่อน 1 คืน  มีภาพคลิปเฉพาะตัว ที่ข่าวบอกของลูกสาว นางแพทองธาร ชินวัตรปล่อยออกมา ก่อนขึ้นเครื่องบิน  กอดน้องสาว 

ส่วนตนเองทั้ง 2 คน หลบหนีจากประเทศไทยไปอยู่ต่างประเทศ เป็นนักโทษหนีคดีโกงบ้านเมือง...เป็นเรื่องการเมืองทั้งสิ้น ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งพี่น้องสกุลนี้ ทั้ง 2 คน พี่น้อง เหมือนกัน

นายทักษิณ ขณะเดินทางมา ไม่ใช่คนไทยนะ เป็นคนดูหมิ่นชาติไทย  เปลี่ยนสัญชาติเป็นมอนเตเนโกร  น้องสาวเปลี่ยนเป็นเซอร์เบีย  มาอยู่ดูไบ เสียเงินจ้างแผ่นดินเขาอยู่แบบ มหาศาลแบบต่อรองไม่ได้เลย  แต่โกงแผ่นดินไทย 

วันนี้ ที่เดินทางกลับ มันบอก มันอวด  มันโชว์ความร่ำรวยของเขา  แค่ที่ข้อมือ ก็บอกนาฬิกาเขา ราคา 1 ล้าน 4 แสนบาท ตามที่ลูกสาวบอกเขาอวดสถานะของเขาให้คนไทยดูและคนไทยก็ถูกปลุกให้ตื่นเต้น ชื่นชมคนร่ำรวยโดยไม่มีความนึกคิดตรึกตรองเลยว่า แม้ว่าเป็นมหาโจร คนไทย ที่วันนี้กำลังเรียกร้องประชาธิปไตยก็ยังนับถือ ซึ่งเห็นได้จากสถานการณ์วันนี้นั่นเอง

แต่ประเด็นสำคัญในวันนี้  ภาพที่ปรากฏออกมาวันนี้  ก็คือ ประเด็นประชาธิปไตยไทย  ที่เราตั้งใจเตือนให้เห็นเรื่องการเมืองประชาธิปไตยไทยโดยตรง    ที่เห็นเช่นนี้แล้ว อีกประเด็นหนึ่ง 

ที่บอกไปว่า การปกครองประเทศแบบประชาธิปไตย ยากที่จะสร้างความหมายนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติได้    ยากที่คนไทยจะนำประชาธิปไตยมาใช้ให้เกิดผลดีต่อประเทศชาติได้  เพราะเห็นว่า  ล้วนมีแต่ความใต้สำนึกแห่งความเป็นทาส   เต็มอยู่ใต้สำนึกคนไทยทั้งหลาย ที่แสดงออกมาวันนี้

มหาโจร จึงเอาเงินมาซื้อระบอบการเมืองประชาธิปไตยไทยได้

ดังพบจากรายงานของสื่อมวลชน  นี่เป็นการเดินทางกลับมามอบตัวของผู้ชายคนหนึ่งผู้ต้องโทษ หนีคดีอาญาแผ่นดินกลับมา มิเพราะความพอใจมาสารภาพความผิด เพราะ 17 ปีผ่านไป เขาไม่มีอะไรดีขึ้นในต่างประเทศ ความเป็นมหาเศรษฐีถูกเอารัดเอาเปรียบสูญเสียแบบไม่อาจจะปฏิเสธได้  มาไทยอีกครั้งและที่นี่มีประชาชนที่ซื้อได้ ทำมหาโจรเป็นมหาบุรุษได้  นี่แหละความคิดที่กลับมา อยู่ท่ามกลางคนโง่ผู้กตัญญู

นี่เป็นการเดินทางกลับมามอบตัวของผู้ร้าย  ผู้หนีคดีอาญาแผ่นดิน คนหนึ่ง  และเขาได้ถูกนำไปศาล ตัดสินทันทีให้จำคุก 8 ปี และตำรวจนำไปเข้าคุกเวลา 13.00 น.  ให้อยู่ห้องเดี่ยว ตามเหตุผลผู้เปราะบาง  จำคุก 8 ปี ทันที  น่าขายหน้าไปทั้งตระกูลชินวัตร

แต่ความจริงอย่างนี้  สื่อมวลชนไทยแทบทั้งหมด แทบไม่มองเห็นเลย  ดังปรากฏจากการรายงาน ข่าว  ยกย่องของสื่อโดยเฉพาะสื่อออนไลน์ว่า  คนที่เดินทางกลับมาวันนี้ คืออดีตนายกรัฐมนตรีที่จากประเทศไทยไปอยู่ต่างประเทศ  ไปทำธุรกิจร่ำรวยเงินทองมหาศาล  (ดังที่หลวงพ่อคูณเคยบอกว่า รวยขนาดใช้ไปทั้งชาติก็ไม่หมด  หยุดเถอะ  ยังไม่พออีกหรือ ระวังจะได้รับผลกรรมนะ...ส่วนหลวงตาบัว  ก็เคยพาพระกรรมฐานป่าร่วม50รูป มาทำพิธีสาปแช่งเอาชื่อ...ทักษิณ ชินวัตร...กับชื่อ...วิษณุ เครืองาม ...เผาลงในบาตร เสกมนต์กดข่มสำทับลงไปแล้ว กรณีทองช่วยชาติเพราะมองเห็นผลกรรมบาปของคนๆ นี้...ผลกรรมจึงตามสนองมาอยู่ตลอด)

เช่นวันนี้  เขาก็เดินทางกลับมาแบบมหาเศรษฐี มีเงินทองร่ำรวย แบบที่สื่อ ฟอร์บ รายงานประจำปีไว้แล้ว   มาด้วยเครื่องบินไอพ่นส่วนตัว ราคา  มหาศาล (แบบที่สามเณรคำ ศรีสะเกษ เคยหลอกลวงคนมาร่ำรวยถึงขั้นจะซื้อเครื่องบินส่วนตัวใช้ คราวเป็นพระอยู่นั้นแหละ) เห็นภาพแล้ว แม้คนทั้งโลก ที่ไม่รู้เบื้องหลังเลยก็จะนิยมยกย่องเขา และแน่ละกล่าวโทษรัฐบาลรัฐประหาร

แต่ ความจริงคือ เศรษฐีมหาโจร เป็นโจรจริง ๆ ที่ปล้นชาติ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรีของประชาชน

ภาพที่เห็น ประชาชนและวงการทั้งหลายในไทย ให้การต้อนรับ มันบอกถึงประเด็นการเมืองไทย  ที่น่าเป็นห่วง  เช่นเดียวมาตลอด 90 ปีมา นั่นเอง

คือ มันบอกสถานะภาพของประชาชน  ที่ไม่พร้อมจะเป็นประชาธิปไตยเลย  โง่เขลาเกินไป  ที่จะรับอำนาจการปกครองตนเอง ความเป็นเสรีชนนั้นแทบมองไม่เห็น  เขาไม่เข้าใจคำว่า มหาเศรษฐีโจร

และไม่เข้าใจว่าเขาเดินทางมาเพื่อชดใช้กรรม   แต่เข้าใจว่า  เงินของคนๆนี้ จะซื้ออะไร  ในประเทศไทย  แม้ซื้อคนเป็นทาสก็ได้  ซื้อคุกทั้งคุกก็ได้ และเชื่อสุดเชื่อว่า จะไม่อยู่ในคุกนานเลย เดี๋ยวเขาก็เอาเงินซื้อออกมา  นั่นเป็นความคิดของคนเป็นทาสที่น่าเป็นห่วงเรื่องประชาธิปไตยนั่นเอง

แต่  แท้จริงเขาคือนักโทษคนหนึ่ง

ที่มีคดีตัดสินไปแล้ว 3คดี  ที่คดีที่ 1คุก2 ปี,  คดีที่ 2คุก3 ปี,  และคดีที่ 3คุก  5 ปี  รวมเป็น 10 ปี เป็นคดีโกงเงินทั้งนั้น   แต่ศาลฎีกาวันนี้ตัดสินเหลือ 8 ปี  ที่คนเราก็ไม่ค่อยทราบว่าทำไม  10 ปี จึงลดลงมา 8 ปี แบบที่โทษประหาร กลายเป็นโทษปล่อยออกมาได้  ไม่เข้าใจไปอีกว่า   ที่ตัดสิน 8 ปีนี้ หมายความว่าอะไร ?   อย่างเราเป็นเสรีชนคนหนี่ง ที่เรามุ่งหมายว่า จะต้องให้เป็นครบความผิดจริง ๆ คือ 10 ปี ก็10 ปี

2.

มันมีแบบอย่างมาแล้ว ก็คดีโกงบ้านเมือง ของนายบุญทรง รมว.พาณิชย์ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้นเอง  ติดคุก 42 ปี  แล้ว อยู่ ๆ ไม่ถึง 5ปีด้วยซ้ำพบว่าโทษเหลือเพียง 8 ปีเท่านั้น   เป็นไปได้อย่างไร ? มันผิดหลักการอำนาจเป็นของประชาชน(อำนาจตุลาการน่ะ เข้าใจไหม?  ตุลาการ เขาสั่งแล้ว ต้องจบ...) นี่แหละที่คนทั่วไปก็ยังเห็นว่าไม่ยุติธรรม  ไม่สมตามกรรมของผู้ก่อกรรม   ถ้าไม่ใช่พวกเขา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน  รมว.ยุติธรรม   และประชาชนไทยก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไร   เฉยเมยไปหมดอย่างนี้ จะเรียกว่าการปกครองของประชาชน  โดยประชาชน  เพื่อประชาชน ได้อย่างไร ? เพราะการที่ประชาชนไทยไม่มีความรู้สึกใดใดเรื่องการเมือง การปกครอง ของชาติ แล้วจะปกครองตนเอง  จะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร ?

นี่คือประเด็นจุดอ่อนที่สุดของการปกครองแบบประชาธิปไตย  ที่ประชาชนไม่มีความรู้สึกอะไรเลยกับเหตุการณ์บ้านเมือง ที่มันไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม  ไม่ถูกหลักการปกครองที่เราต้องการ  เฉยเมยไปหมด     แบบโง่  นี่แหละน่าเป็นห่วง ไม่เข้าใจว่าเมื่ออยากเป็นประชาธิปไตย  หมายถึง  แต่ละคนต้องดูแลการปกครองของประเทศ  จะเฉยเมยไม่ได้  ต้องติดตาม สส.  สว.ของเราว่ามันเป็นงูเห่า หาเงินหรือไม่?   หากเป็นต้องเตือน..ไล่ออก... ในฐานะ นายจ้างเลยทีเดียว  อย่างเช่น  พวกข้าราชการบำนาญ ทำไมจึงเฉยเมยไปหมด  ไม่สั่งสอนเขา (นอนกินเงินเดือนเฉย ๆ ไปจนตายได้อย่างไร) 

ดูที่การเลือกตั้ง  การขายเสียง แบบธรรมดา ๆ  ว่าการเลือกตั้ง เป็นเวทีหาเงินหาทอง  ดู สส.   สว. งูเห่า   มันเป็นเสรีชนไม่ได้  ไม่เป็น  แล้วจะฝันถึงประชาธิปไตยได้อย่างไร ? ในเมื่อตกอยู่ใต้อำนาจเงินเขา

แต่พอพูดขึ้นว่า  การปกครองต้องเพื่อประชาชน  ก็โหมกระพือขึ้น  

มิใช่เพราะการคิดที่จะทำอะไรด้วยตนเอง  แต่เพราะความโลภ  หวังผลประโยชน์จากนักการเมืองซื้อเสียง นั้นเอง แบบไม่เข้าใจหลักการเสรีชน  เสรีภาพนั้นไม่ใช่หวังพึ่งใครทำให้  ต้องพึ่งตนเอง   พึ่งตนเองได้จึงจะเป็นประชาธิปไตยได้ ประชาธิปไตยต้องพึ่งตนเองเท่านั้น    .... นั้นเอง   การช่วยเหลือประชาชนนั้น  คือสอนให้เขาตกเบ็ดเป็น   ไม่ใช่เอาปลามาให้เขา   สอนแบบพระพุทธเจ้า  สอน...แม้พระพุทธเจ้า หรือ  พระเจ้าของศาสนาต่าง ๆ ก็ช่วยให้ตนบรรลุอรหันต์ไม่ได้  ต้องทำเอาเองให้ได้เท่านั้น

ดังมีคนไม่เข้าใจประชาธิปไตย ไปวิจารณ์คนที่เขาเข้าใจประชาธิปไตยว่าเขาไม่เป็นประชาธิปไตย(แบบว่าโง่ขนาดนี้ ยังมีเยอะเลย  แม้ในรัฐสภาวานนี้  ก็ยังมีพรรคก้าวไกลพูดโง่ ๆ แบบนี้เลย โดยเฉพาะเลขาธิการพรรคก้าวไกลนั้นเองเลย...ที่โฆษณาไปโง่ๆ ว่าตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตย ต้องการสร้างไทยเป็นประชาธิปไตยเต็มใบ  จึงต้องพาประชาชนไล่ล้างเผด็จการให้หมดแผ่นดิน ...โดยความโง่เขลาจริง ๆ แบบไม่รู้ว่าตนเองนั่นแหละเผด็จการ) 

ที่มีแบบเปรียบเทียบหลายครั้ง คนไทยนี่แหละก็วิจารณ์ว่า  ยุคนี้ อเมริกาหายนะ  คนอเมริกันยากจน ออกมานอนข้างถนน เกลื่อนไปหมด แล้วด่ารัฐบาลอเมริกาว่าไม่ช่วยเหลือประชาชนคนยากคนไร้  ไม่สร้างบ้านให้เขาอยู่  ไม่หาอาชีพให้ทำ ไม่เอาข้าวของไปแจก(เหมือนไทย) ...โดยไม่เข้าใจว่าก็เพราะอเมริกันเขา เขาเป็นประชาธิปไตย เขามีนิสัยประชาธิปไตยแล้ว  ไม่เหมือนคนไทย   เขามีนิสัยของเสรีชน    ไม่คิดขอคนอื่น  ต้องพยายามเอาด้วยความสามารถของตน    ประชาชนเขา   รัฐบาลเขาเข้าใจตรงกันหมดในหลักการตรงนี้  ว่าคนอเมริกันเขาพึ่งตนเอง ยากจนลำบาก   ผิดหวัง   เลวร้ายลง  เขาก็ไม่กล่าวโทษคนอื่น  กล่าวโทษตนเอง วิเคราะห์ตนเอง ไม่กล่าวหารัฐบาล  ไม่เรียกร้องรัฐบาลให้ทำนั่นทำนี่ให้ (ซึ่งนี่แหละคนอเมริกันเขาถือหลักพุทธธรรม ตนแลเป็นที่พึ่งของตนจริงๆ นี่คือหลักเบื้องต้นของประชาธิปไตยโดยตรงเลย...แต่คนไทยไม่รู้เรื่องเลยทั้ง ๆ ที่อ้างตนเป็นชาวพุทธ)  แบบที่คนไทยเข้าใจผิดสอนกันผิดๆมาตลอดตั้งแต่เป็นประชาธิปไตยมา จนตนเองแทบไม่ต้องทำอะไร  เดือดร้อนอะไรก็ว่ารัฐบาลต้องช่วย  ร้องเรียนรัฐบาล  ราชการให้ช่วยเหลือหมด ไม่มีที่ดินก็เรียกร้องรัฐบาลให้จัดหาให้ จึงเรียกว่าประชาธิปไตย  ไปขนาดนั้น…อีกหน่อยจะเรียกร้องเงินเดือนไปอีก .....

อำนาจเป็นของประชาชนแล้ว   คนหนึ่งๆ  ยากจนแค่ไหน  แต่มีเสียง 1 เสียง พอๆ กับเศรษฐี มหาเศรษฐีตคนหนึ่ง   หรือ ยิ่งกว่านายทักษิณเสียอีก นั้นแหละประชาธิปไตย ที่เสรีชนต้องสำนึกพึ่งตนเองให้ได้  อเมริกา  อเมริกัน  เขาเป็นคนที่พึ่งตนเองมาเช่นนี้  นับแต่สร้างประเทศเขา   ประชาชนเขา กว่า 300 ล้านคน  ล้วนพึ่งตนเองได้  ทำมาหากินเองได้  หาทรัพย์ หาเงิน  หาอาหารเอาเอง   ยากจนลำบากก็ช่วยตนเอง   ไม่ตกอยู่ใต้อำนาจเศรษฐีมหาโจร    คน 300 ล้านคน 50 มลรัฐ  ที่ปกครองแบบประชาธิปไตยทั้ง 50 มลรัฐ รวมเป็นเป็น  สหรัฐ นี่แหละ  มันเป็นประเด็นสำคัญของประชาธิปไตย ที่ต้องเรียนรู้จากเขา   สำคัญสำหรับคนไทย  ประชาชนไทยผู้คิดอยากเป็นประชาธิปไตย    ประชาธิปไตย ต้องเข้าใจการพึ่งพาตนเอง  รู้ดี รู้ชั่ว  การปกครองตนเอง  อำนาจเป็นของประชาชน  มาจากประชาชน และเพื่อ ประชาชน ต้องพึ่งตนเองก่อน ตามหลักพุทธศาสนานั่นเอง

3.

ต้องไม่คิดพึ่งมหาเศรษฐีมหาโจร    แล้วเรียกตัวเองว่า  ประชาธิปไตย  นั้นแหละทำลายประเทศชาติละ

นี่แหละ ขนาดประชาธิปไตยที่อ้าง  ยังไม่เข้าใจเลย     แล้วจะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร?    และอย่างไทยเรา   ที่เป็นประชาธิปไตยบ้าง

เป็นรัฐประหารปกครองบ้างมาตลอดนั้นหากแต่ไปด่าเขาว่า  เผด็จการเลวทราม  ทำลายประเทศชาติ  ทำลายประชาชน   ก็ไม่เข้าใจอีกว่า   เผด็จการคืออะไร?   อยู่ได้อย่างไร?  ...ไม่รู้เรื่องเลย เช่นเผด็จการตลอดเวลาประวัติศาสตร์ชาติไทย นับพันปีมาแล้ว  อยู่ได้ด้วยอะไร?  ด้วยอะไรเผด็จการจึงสร้างชาติมาได้...เป็นไทยมาได้ทุกวันนี้    อย่างจีน  รัสเซีย (มีคนโง่....ระดับรศ.-ศ.ในมหาวิทยาลัยขนาดว่าจีน  รัสเซียเป็นประชาธิปไตยแบบจีน รัสเซีย....เห็นไหมขนาดโง่อย่างนี้ยังมี   แล้วก็สอน บอกเรื่องประชาธิปไตยไปผิด ๆ หมดแล้วจะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร?  แล้วอย่างที่มีคณะนักวิชาการ 150 คน รวมกันเป็นคณะนักนิติศาสตร์  ตามที่นายรังสิมันต์ โรม พรรคก้าวไกล อ้างในรัฐสภาวานนี้.... ว่าสนับสนุนแนวคิดพรรคก้าวไกล ในการทบทวน ให้นายพิธา มีสิทธิอีกครั้งหนึ่งในการเป็นแคนดิเดท นรม. คนที่ 30   ก็น่าที่จะออกมาเปิดเผยบทบาทของตนเองให้ชัดเจน เพื่อประโยชน์ของการเรียนรู้ประชาธิปไตย  ว่านี่แหละนักวิชาการรัฐศาสตร์ ...ที่โง่เง่าเต่าตุ่นจริง ๆ

แต่สิ่งที่เป็นเรื่องความเข้าใจผิด ในเรื่องการเมือง ไปทั่วโลก  โดยเฉพาะโลกประชาธิปไตย แม้อเมริกาเอง  ก็คือ  มองไม่เห็นความดีของระบอบเผด็จการเลย   และถ่ายทอดมาถึง นักปฏิวัติประชาธิปไตยไทยอยู่ทุกวันนี้   ที่พลอยเข้าใจผิดไปกับอเมริกาด้วย 

เผด็จการไม่ใช่ระบอบการเมืองเลว  หรือระบอบการเมืองดี  เราต้องมองรอบคอบไปกว่านั้นอีก   จะดีหรือเลวขึ้นอยู่กับธรรมะของระบอบ เช่นเดียวกับประชาธิปไตย ก็ต้องมีธรรมะ   ดี อย่างไทยเราไง   แต่เราต้องเข้าใจเขาสร้างชาติเขาเป็นมหาอำนาจได้อย่างไร    และเราเป็นประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข... (พูดสั้นๆ ก็ได้ว่า  ประชาธิปไตยไทย....ดูที่อำนาจทั้ง 3 อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน รธน.กำหนดไว้อยู่แล้ว...  พอแล้ว...  จะเอา  สสร.มาแก้ใหม่ผิด ๆ ไปอีกหรืออย่างไร เอาสสร.มาจากไหน  ล้วนพวกโง่ ๆไม่รู้ประชาธิปไตย ทั้งนั้น แก้รธน.ฉบับไหน ก็ไปไม่รอดไปหมด  เพราะคนโง่มาทำโง่ ๆ  แบบคนที่จ้างเขาทำ...ก็โง่เหมือนกันหมด

คือหากไม่โง่แล้ว ก็ทำเอาเอง  สภานิติบัญญัติ มีหน้าที่รับผิดชอบสูงสุดอยู่แล้ว ต้องทำเอาเอง  จะไปหาคนนอกสภามาทำไม?  รธน.เป็นประชาธิปไตยแล้ว รุ้ไหม?   จึงมีการเลือกตั้งยังไงล่ะ...ต่อยอดเอา....รู้เรื่องไหม?) 

นี้แหละสร้างชาติมาตลอด   แต่ด้วยความดีของธรรมะ    หากไม่มีธรรมะแล้ว    ระบอบไหนก็ตาม พังพินาสน์หมด อยากได้ประชาธิปไตยนักการเมือง  ประชาชน จึงต้องมี  เสรีธรรม ...ซึ่งมาจากหลักพุทธศาสนาทั้งสิ้นเลย ฝรั่งอเมริกันเขาลึกซึ้งในพุทธธรรมพอเลยทีเดียว

Liberty  เริ่มแต่ต้องเข้าใจว่า เสรีภาพนี้ ให้ทุกๆคน ไม่ใช่เราคนเดียว  หรือ มหาเศรษฐีได้คนเดียว เวลาปฏิบัติจึงต้องระวังว่า  เราจะไปทำอะไรที่กล้าเกิน  หรือละเมิดเสรีภาพของคนอื่นไม่ได้, การละเมิดเสรีภาพคนอื่นเป็นความผิดฉกรรจ์ฐานดูแคลนความเป็นมนุษย์ของคนอื่น  

Equality คนเสมอกัน เขาให้อำนาจเท่ากันหมด 1 คน 1 เสียง  ไม่ใช่มหาเศรษฐีโจรมา กราบเท้าเขาไปหมดเขาสั่งให้เลือกใครเลือกหมด  ก็ไม่ใช่คนแล้วเป็นสัตว์  เป็นทาส,...ก็ต้องเข้าใจให้ถูกว่านี่เป็นเฉพาะการเมือง...ส่วนการหาเงินหาทอง แกเก่งก็หาเอาไปเยอะ ๆ กว่าคนอื่นเขาไม่ว่า  เฉพาะการเมืองเท่านั้น  นี่ก็ไม่เข้าใจอยู่เยอะเลย ไม่มีครูอาจารย์สอน...    

Fraternity   ภราดรภาพ   ไม่คิดเป็นศํตรู ประชาธิปไตยไม่มีศัตรู ไม่มีพรรคการเมืองฝ่ายค้าน  ฝ่ายรัฐบาล ไม่ได้แปลว่าศํตรูกัน   เป็นญาติกันหมด  ตกลงกันแบบญาติ ....แบบญาติโยมในวัดนั่นแหละ  แบบวัดไทยเลย  ไม่ให้มีศัตรูกัน  มีแต่เมตตากัน   อย่าถึงฆ่ากันแก่งแย่งอำนาจกัน อย่าถึงยกพวกตีกันกลางรัฐสภาเด็ดขาด...ยกมือแล้วก็รับ   พอ......ค่อย ๆ ประพฤติดีไปเรื่อยจนวันหนึ่งจะเห็นเองว่า  ประชาธิปไตยไม่มีผู้แพ้  ไม่มีผู้ชะนะ ซึ่งนั่นแหละโลกจึงควรเป็นประชาธิปไตย……

ต้องเข้าใจให้ถูกต้องก่อนเลยว่า  การเมืองนั้นคือเครื่องมือสร้างสรรค์ประเทศชาติประชาชนทุกคนให้มีความสุขสงบ ให้ประเทศชาติสมานฉันท์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พรรคการเมือง นักการเมืองจึงต้องคำนึงจริยธรรมทางการเมือง อย่างขาดตก บกพร่องไม่ได้เลย

ไทยวันนี้เพียงรู้จักคำว่าประชาธิปไตยแบบว่าตามเขาไป ทางปฏิบัติยังไม่เป็นประชาธิปไตยเลย แต่กลับรู้ผิด ๆ ถูก ๆ   จึงต้องพยายามทำความเข้าใจประชาธิปไตยให้ถูกต้อง ตรงต่อจิยธรรม 3 ประการ คือ  เสรีภาพ  เสมอภาค  และภราดรภาพ   สร้างอุปนิสัยเสรีชน สร้างตนให้เป็นที่พึ่งของตนจึงจะเป็นประชาธิปไตยที่สร้างประโยชน์ทางการเมืองและสังคมได้....จบเรื่องมหาเศรษฐีโจร จะมาสร้างประชาธิปไตยขึ้นได้อย่างไร ...... สุไหงปาดี ชินะกุล  ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์ บัวระย้า ชบาบุณเสฏฐ์  23 ส.ค. 2566

-----       

@ การเมืองไทยวันนี้  22 ส.ค. 2566  ทักษิณกลับไทย แบบมหาเศรษฐีต้องโทษอาญาแผ่นดินเข้าคุกทันที 8 ปี ทบทวน 11 ก.พ.2567 ต้นฉบับ138ภาษาโลก

-----