บทบรรณาธิการ
นี่คือหนังสือพิมพ์ดี(อินเทอเนต) เล่มที่ 46 ประจำเดือนก.ย.-ต.ค.-พ.ย.-ธ.ค. 2553-ม.ค.-ก.พ.-มี.ค.-เม.ย.-พ.ค.-มิ.ย.2554 เราได้จัดทำหนังสือพิมพ์ดี ในนาม วิเคราะห์ข่าวในวงการเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดภาคอีสาน (แจกจ่ายทุกจังหวัดทั่วประเทศ) จนเปลี่ยนชื่อเป็น หนังสือพิมพ์ดี และ หนังสือพิมพ์ดี(อินเทอเนต) ติดต่อกันมาเป็นเวลาย่างเข้า 14 ปีแล้ว สิ่งที่เราต้องการนั้นก็คือ การประกาศสัจธรรมเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบของสังคมและการเมืองไปสู่สิ่งที่ดีกว่า โลกที่ดีกว่า และทางการเมืองเราเห็นว่านี่คือวิถีทางของระบอบประชาชน อำนาจเป็นของประชาชน และประชาชนบริหารไปภายใต้อุดมการณ์ของเสรีชน ที่มีความเสมอภาค และมีภราดรภาพในการปกครอง
พูดสั้น ๆ ก็คือ ระบอบประชาธิปไตยและวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น
เราได้ประสบความสำเร็จหรือไม่ ? เราได้ประสบความสำเร็จ ในเมื่อในที่สุด เวลานี้ ได้ปรากฏว่า ไม่ใช่เฉพาะเราที่ได้ต่อสู้มาในอุดมการณ์เดียวกันนี้ แต่กลับได้พบว่ามีประชาชนและผู้นำความคิดอุดมการณ์เช่นเดียวกับเรา ได้นำพาประชาชนต่อสู้มาเนิ่นช้าคู่ขนานไปกับเรา จนบัดนี้จึงได้พบว่า มาบรรจบกันแล้ว กลายเป็นกระแสเดียวกันอย่างอัตโนมัติ อย่างน่าพิศวงอย่างยิ่ง
นั่นคือ เสื้อแดง อุดมการณ์เสื้อแดง และตั้งแต่นั้นมาเราก็เสมือนหนึ่งได้ร่วมผนึกในการต่อสู้ไปกับพวกเขา และได้ประกาศตนอย่างเปิดเผยแล้วว่าเราคือเสื้อแดงเพื่อประชาธิปไตย คำประกาศของเราที่ว่า
เราจะบินบินบินและบินไป
สู่ขอบฟ้าสดใสในเบื้องหน้า……ก็มีความหมายขึ้นเยอะ
เราขอเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบว่า ในช่วงหลัง ๆ มานี้ หนังสือพิมพ์ดี ออกแต่ละเล่มกินเวลาช่วงละหลาย ๆ เดือน และมักข้ามปีไป ทั้งนี้ก็เพราะเรามีนโยบายจะออกหนังสือพิมพ์ดี เป็นแบบ อินเทอเนต ตามชื่อใหม่ล่าสุดที่ว่า ดี(อินเทอเนต) อยู่แล้ว และตามที่เราได้สร้างเวบไซต์ของเราขึ้นรองรับนโยบายใหม่ไว้ถึง 2 เวบไซต์คือ www.newworldbelieve.net และ www.newworldbelieve.com ซึ่งโดยเหตุผลก็คือ ความเร็ว อินเทอเนตสามารถออกหนังสือพิมพ์ดี(อินเทอเนต)ไปได้เรื่อย ๆ ทุกวัน ทุกชั่วโมง หรือทุกนาที ตามแต่สถานการณ์ ในขณะที่การจะออกเอกสาร ดี มาได้แต่ละเล่ม ต้องมีขั้นตอนงานมากมาย และ กว่างจะจัดส่งอีก จึงใช้เวลามาก และทั้งดี(เอกสาร) ก็สามารถบรรจุเรื่องราวต่าง ๆ ได้ไม่มาก ไม่ครบถ้วนเท่าดี(อินเทอเนต) และซึ่งเราได้รายงานท่านผู้อ่านไว้แล้วตั้งแต่แรกเริ่มที่ว่าด้วยวิธีการใหม่ด้านการสื่อสารของเรา ก่อนที่เราจะออกเวบไซต์ และได้แถลงต่อมาเรื่อย ๆ ว่าเราจะละเลิกดี(เอกสาร)ลงไปตามลำดับ ๆ จะมุ่งทำดี(อินเทอเนต) อย่างไรก็ตาม ดีเอกสาร ก็ยังคงจำเป็นที่เรายังต้องออกต่อไป และซึ่งจะอยู่ในลักษณะประการที่เป็นอยู่ขณะนี้ นั่นคือช่วงจะยาว ซึ่งบัดนี้เราก็ลงตัวในแบบแผนและวิธีการของหนังสือพิมพ์ดีเอกสาร นั่นคือ เราจะออกหนังสือพิมพ์ดี(เอกสาร) ก็เพื่อเป็นเอกสารสำคัญสำหรับประเด็นบางประเด็นเท่านั้นเอง นั่นคือ การประกาศบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี และเป็นเพียงสัญลักษณ์การต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ของเราเท่านั้น โดยให้เป็นชนวนไปสู่เรื่องราวที่มากมายหลายหลากทางวิชาการและความคิดเห็น อย่างครบถ้วนในเวบไซต์ จนอาจกล่าวได้ว่า หนังสือพิมพ์ดีที่สมบูรณ์ คือ เวบไซต์ www.newworldbelieve.net และ www.newworldbelieve.com นั่นเอง
เพราะฉะนั้น เกี่ยวกับการที่หนังสือพิมพ์ดีปรับแผนใหม่ แท้จริงจึงได้เริ่มมาหลายเล่มแล้ว เรามาประกาศเพื่อทราบในเล่มที่ 46 นี้เพื่อเป็นกิจจะลักษณะ ให้ทราบโดยทั่วกัน และเพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับท่านผู้อ่านจะได้เข้าไปสู่เวบไซต์ของเราโดยตรง เพราะในนั้นมีอะไรมากกว่าที่ปรากฏในหนังสือพิมพ์ดีเอกสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รายการที่ท่านผู้อ่านจะร่วมกิจกรรมได้ด้วย อย่างไม่จำกัดก็คือ มีเวบบอร์ด สำหรับแสดงความคิดเห็นได้ทุกเรื่องราว ทุกสถานการณ์ ทุกวันเวลาตลอด 24 ชั่วโมง และยังมี รายการที่เป็นที่นิยมยิ่งกว่ารายการใดใดในเวบไซต์นี้ ก็คือ รายการโหราศาสตร์ ซึ่งเราเห็นว่าไม่เหมาะที่จะนำมาลงพิมพ์ในดีเอกสารได้ เป็นต้น
บทสรุปประเทศไทย
สำหรับดีเล่มนี้ เรามีบทสรุปประเทศไทยสั้น ๆ สำหรับท่านทั้งหลายก็คือ ตั้งแต่ปฏิรูป 19 ก.ย.2549 เป็นต้นมา เป็นยุคของความตกต่ำและเหลวแหลก มันได้พาประเทศชาติไปสู่ความเหลวแหลกอย่างไร ก็เห็นกันชัดเจนแล้ว เราอยากจะกล่าวว่า เราได้เตือนทุกครั้ง ๆ ทางฝ่ายทหารว่า อย่าทำ....... เพราะเหตุที่ว่าทำไปแล้ว มันไม่จบ........... เขาก็ไม่เชื่อ ครั้นจะทำการล้อมฆ่าประชาชน 19 พ.ค.2553 เราก็เตือนแล้วเตือนอีกว่า.......อย่าทำ เพราะทำไปแล้วมันก็ไม่จบ........ ก็หาฟังไม่ ........แล้วมันก็ไม่จบจริง ๆ...... น่าเสียดายเหลือเกิน ที่ได้พบสาเหตุที่ทหารทำไปทำไม...ซึ่งคำตอบคือ อยากได้เงิน.... ดูราวกับว่าทหารหิวโซมานาน อดทนต่อไปไม่ได้..... ครั้นทำรัฐประหารแล้ว ทหารก็มีโอกาสสั่งได้ตามใจ ว่าตนจะเอาอะไร และทหารก็ได้มา ๆ ..... ล่าสุดก็ได้งบไปซื้อเครื่องบิน และ อื่น ๆ .............อันนี้ก็สะท้อนไปถึงความคิดทหาร ว่าคิดสั้น คิดคับแคบ ไร้สิสัยทัศน์ และคิดผิด นอกจากนั้นยังคิดล้าหลัง ฉุดประเทศให้ล้าหลังลงไป เห็น ๆ และเมื่อร่วมกับพรรคการเมืองที่ถนัดในการร่วมมือกับทางทหารมาแต่เดิมคือประชาธิปัตย์ ..... อะไร ๆ ก็เลวลงไปหมดในประเทศไทยของเราขณะนี้ ......... ในด้านรัฐบาลนั้น บ่งบอกอะไร ก็เห็นชัดว่า....นี่แหละ รัฐบาลเด็ก วันนี้พูดอย่างหนึ่ง วันพรุ่งนี้พูดอีกอย่างหนึ่ง ไม่ผิดอะไรกับเด็กเลี้ยงแกะ ขณะนี้นายอภิสิทธิ์ ได้ออกปากว่าจะยุบสภา.......ออกปากว่าอะไรก็ไม่ชัดเจน วันสองวันนี้เห็นออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้พูดว่าจะยุบสภาวันนั้น........นี่คือรัฐบาลเด็กกะล่อน .........และในวันนี้ หลังจากออกปากจะยุบสภาในต้นเดือน พ.ค. 2554 ก็หาความแน่นอนไม่ได้ว่าจะยุบวันที่เท่าไรกันแน่ ....... เราจะได้ยินนายอภิสิทธิ์พูดหรือเปล่าว่าเขาจะยุบสภาวันไหน ..? ทำไมเขาจึงทำลับ ๆ ล่อ ๆ เต็มไปด้วยอุบาย เล่ห็เหลี่ยม ไม่ซื่อต่อประชาชน......อันเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ประเทศไทยตกต่ำ ทรามที่สุดเท่าที่มีประเทศไทยมา ในด้านการต่างประเทศ จะเห็นว่าดำเนินนโยบายผิดแล้วผิดอีก....ตั้งแต่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมอาเซ๊ยน โดยมีประเทศมาประชุมเพียง 4 ประเทศในวันเปิดประชุม ไม่มาถึง 6 ประเทศ ....... และนรม.ไทยทำขายหน้า ด้วยการปราศรัยเชิงหมิ่นแคลนนรม.เขมรกลางที่ประชุมอาเซียน.....นั่นเป็นการเริ่มต้นอย่างโง่เขลาและสร้างปัญหาขึ้นมา....จนกระทั่งบัดนี้ วันนี้ ชายแดนที่สงบ ๆ กลายเป็นการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านขึ้นมา โดยไทยกลายเป้นเป้าสายตาของนานาชาติ ประเทศไทยกลายเป็นประเทศปัญหาของกลุ่มประเทศอาเซียนไปเสียแล้ว นั่นหมายถึงฐานะที่เคยเป้นผู้นำได้ตกต่ำลงไปเป็นประเทศที่อยู่ใต้การประคองของประเทศอาเซียน ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคหลังการรัฐประหาร 19 ก.ย.2549 นั้น ได้พิศูจน์ถึงความเห็นแก่ตัวของวงการทหาร และความล้าหลังของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์
ซึ่งในขณะนี้ ประชาชนต่างรอ เพื่อได้ยินว่า นรม.พรรคประชาธิปัตย์จะเอ่ยออกมาว่าวันยุบสภาและให้มีการเลือกตั้งนั้น จะเป็นวันที่อะไรแน่ ? และเป็นที่คาดกันว่า ในการเลือกตั้งต่อไปนี้ จะเต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบ ด้วยระบบสองมาตรฐาน การทุจริตนานาประการก็จะเกิดขึ้น เพื่อรัฐบาลประชาธิปัตย์ที่มีเครื่องมือพร้อมที่จะควบคุมการเลือกตั้ง ไปสู่ผลประโยชน์ของตน โดยทุจริต .............ซึ่งแน่ละ ฝ่ายประชาชนผู้รักประชาธิปไตยหรือแดงทั่วแผ่นดินได้มีความระแวงและระวังรู้ทันและจะต่อสู้ ฉะนั้นเราจึงหวังว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปนี้ จะต้องเป็นไปอย่างมีความยุติธรรม...คงจะได้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร
และในลำดับต่อไปนี้ สำหรับดี(อินเทอเนต) เล่มที่ 46 ก็ถึงวาระที่เราจะประกาศบุคคลแห่งปีของนังสือพิมพ์ดี ประจำปีพุทธศักราช 2553 ดังต่อไปนี้
บุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี
พุทธศักราช 2553
และในลำดับต่อไปนี้ ก็เป็นเรื่องการประกาศบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี พุทธศักราช 2553 เนื่องจากสถานการณ์ภายในประเทศที่ไม่เอื้อแด่การมองในความเป็นกลางอย่างเหมาะสม เราจึงชะลอการประกาศบุคคลแห่งปีมาล่าช้าไปหลายเดือน รวมทั้งเหตุผลของการออกหนังสือพิมพ์ดี เล่มที่ 46 พลอยล่าช้าไปด้วย บัดนี้ เรามีความยินดีที่จะประกาศเกียรติคุณ บุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี ประจำปีพุทธศักราช 2553 ดังนี้
บุคคลที่ 104 นาง พวงแก้ว สาตรปรุง ทายาท พล.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา
พวงแก้ว สาตรปรุง เป็นธิดาคนที่ 5 ในจำนวน 6 คน ของ พล.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน)
พล.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา (พจน์ พหลโยธิน) เป็นหัวหน้าคณะราษฎรทำการเปลี่ยนแปลงการปก ครองจากระบอบสมบูรณายาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2475
พระยาพหลฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 2 (ต่อจากพระยามโนปกรณ์นิติธาดา) รวม 5 สมัย ตั้งแต่ 21 มิถุนายน 2476 ถึงกันยายน 2481 รวม 5 ปี 5 เดือน 21 วัน ถึงแก่อนิจกรรมปี 2490 ขณะอายุ 60 ปี
พวงแก้ว สาตรปรุง เป็นธิดาคนที่ 5 ในจำนวน 6 คน เกิดปี 2485 หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 10 ปี ปัจจุบันอายุ 68 ปี สุขภาพยังแข็งแรง
มีคำถามสำคัญ ดังนี้
1. คำถาม ภูมิใจไหมที่พ่อเป็นหัวหน้าคณะราษฎรก่อการเปลี่ยนแปลง 2475 ?
คำตอบ ภูมิใจสิคะ คุณพ่อทำเพื่อประชาชน เพื่อประเทศ คุณพ่อเสียสละอย่างสูงเลย เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดเลย ไม่มีสุขใดจะเหมือนด้วย ที่เกิดมาเป็นลูกของคุณพ่อ คุณพ่อเป็นผู้ที่เสียสละอย่างสูงสุด มีจิตใจที่บริสุทธิ์ ไม่มีกิเลส ไม่มีความต้องการส่วนตัว มีอย่างเดียวคือ ทำอย่างไรประเทศจะพัฒนาไปได้ นั่นละ จุดมุ่งหมายของคุณพ่อ สูงสุดอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ต้องการอะไรเลย ไม่เคยเอาทรัพย์สินของประเทศมาเป็นของตัวเลย สักนิดเดียวก็ไม่มี
2. คำถาม คิดอย่างไรกับสภาพบ้านเมืองที่เกิดวิกฤตความขัดแย้ง แตกแยกมา 5 ปี ตั้งแต่ยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549
คำตอบ มันเป็นความเห็นแก่ตัวของพวกชนชั้นขุนนาง เป็นพวกเห็นแก่ตัว จะยึดแต่อำนาจไว้กับตัว ไม่แผ่อำนาจลงมาให้ราษฎร มันเริ่มมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2490 ตั้งแต่โน่นแล้วที่ จอมพลผิน ชุณหะวัณ ปฏิวัติ ไม่ใช่เพิ่งเกิด คนพวกนี้เป็นพวกเห็นแก่ตัว รัฐบาลเขาจะผิด เขาจะถูกอะไร เขามีศาลยุติธรรมอยู่ตั้ง 3 ศาล ก็ฟ้องไป ให้ว่าไปตามระบบของมัน ฟ้องเขาไปสิ เขาผิดอะไร ไม่ใช่มาตัดสินเองด้วยอำนาจของตัว เสร็จแล้วพอตัวมีอำนาจ ตัวโกงกินประเทศชาติ ประเทศชาติมันก็เป็นอย่างนี้อยู่ตลอดเวลาทุกคนก็คิดว่า แหม พอพวกนี้คนโกงประเทศ อุ๊ย... ต้องยึดอำนาจแล้ว ต้องทำรัฐประหารแล้ว มันเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง ไปใส่ร้ายเขา ไปเอามาตรา 112 (ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ความผิดฐานดูหมิ่น หมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ฯลฯ) ไปใส่ร้ายเขา มันไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น ถ้าคนขาดศีลธรรม ก็เป็นอย่างนี้แหละ
3. คำถาม ลูกสาวผู้ก่อการกับ"เสื้อแดง"
คำตอบ นางพวงแก้วบอกเมื่อถูกถามว่า ชอบสีไหน "ป้าเหรอ ชอบสีแดง... "(คนเสื้อแดง) เขาเป็นคนชั้นล่างน่ะ แล้วมีมากด้วย แล้วยังไม่ได้พัฒนา ป้าสงสารเขา เขาพัฒนาได้น้อยเพราะพวกมีอำนาจมัวแต่กินโกงประเทศกัน ไม่เอาเงินไปพัฒนาเขาให้มากกว่านี้ เขาถึงได้ต้องตื่นตัวขึ้นมาเมื่อท่านทักษิณเข้ามา เพราะเขารู้ว่า อ๋อ ประชาธิปไตยกินได้อย่างนี้นี่เอง เขาก็ตื่นตัวขึ้นมา เขาก็อยากจะอยู่แบบคนอื่นเหมือนกัน เขาก็เป็นคนเหมือนกับเรา มันของธรรมดา อกเขาอกเรา"
"ป้าก็ไม่เคยไปเข้าร่วมชุมนุมกับเขา แต่จะติดตามดูทางทีวีที่บ้านอยู่ตลอด ดูไปจนถึงตี 4 ตอนเห็นทหารฆ่าประชาชน ก็รู้ สงสัย เอ๊ะ เขาฆ่าได้ยังไง ฆ่าได้แม้กระทั่งพระสงฆ์"
"ตอนที่ทหารยิงประชาชน ป้าส่งจิตระลึกไปถึงคุณพ่อ อยากให้คุณพ่อมาช่วยจัง ทำไมคุณพ่อไม่มาช่วยประชาชน ไม่รู้ดวงวิญญาณท่านไปถึงไหนแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าตายแล้ว ดวงวิญญาณไปที่ไหน ดังนั้น ประชาชนต้องช่วยตัวเอง"
ป้าพวงแก้วเสนอให้ไพร่กับอำมาตย์มารวมกัน เพราะต่างก็เป็นคนเหมือนกัน จะมามัวแบ่งแยกทำไม
"ไพร่กับอำมาตย์ไม่ใช่คนเหรอ ก็คนเหมือนกัน เราเลือกที่เกิดได้หรือเปล่า เราเลือกไม่ได้ ถือว่าเขาเป็นชนชั้นเดียวกันสิ เมตตากับเขาสิ อย่าไปให้เขาคิดว่า เขาต่ำต้อยเป็นไพร่ ท่านทำไม่ถูกหรอก ที่ให้เขาคิดอย่างนั้น แสดงว่าตัวท่านน่ะผิด ผิดอะไรต้องดู ต้องสำรวจตัวเองว่าผิดอะไร เขาถึงคิดว่า เขาต่ำต้อยอย่างนั้น คนเรามันเกิดมามันก็เหมือนกันทุกคน น่ะ มาทางเดียวกัน แล้วก็ไปทางเดียวกันด้วย เวลาไปแม้แต่ตัวเองยังเอาไปไม่ได้เลย ซี่โครงยังอยู่ เอาไปไม่ได้ ไปแต่วิญญาณเท่านั้น"
"ทำไมไม่คิดถึงตอนนั้นล่ะ แล้วต้องเป็นอย่างนี้ทุกคน พระพุทธองค์ท่านสั่งสอนมาดีแล้ว ทำไมไม่ทำตามล่ะ..."
ประเด็นสำคัญที่เรายกย่อง พวงแก้ว สาตรปรุง ก็คือ ในเมื่อเวลานี้เป็นเวลาของ ประชาธิปไตย มาถึงแล้ว เราก็ได้พบว่ามีผู้ที่ต่อสู้มาก่อน ตั้งแต่เริ่มแรกยุคการเปลี่ยนแปลง อย่างโดดเดี่ยวเงียบเชียบ เพราะ นี่คือทายาทของนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่ยิ่งใหญ่กว่าบุคคลใดใดทั้งสิ้นแห่งยุคประชาธิปไตยไทย เพราะ พวงแก้ว สาตรปรุง ได้ต่อสู้มาตั้งแต่คลอดออกจากครรภ์มารดา (กำเนิดปี พ.ศ.2485 ขณะที่บิดา เป็นนายกรัฐมนตรีในระบอบประชาธิปไตยอยู่ ก่อนจะเสียชีวิตในปี พ.ศ.2490) มาจนถึงขณะนี้ เมื่อมีอายุถึง 68 ปีแล้ว และยังคงจะต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอีกต่อไป ตราบสิ้นชีพ จึงน่าจะได้เป็นบุคคลแรกที่สุดที่ได้อุทิศชีวิตทั้งชีวิตเพื่อประชาธิปไตยไทยจริง ๆ เนื่องจากไม่มีใครเลยที่ได้ต่อสู้มาอย่างเนิ่นนานเท่านี้ และต่อสู้อย่างมีชีวิตอยู่ ต่อสู้เพื่อมีชีวิต ไม่ใช่ต่อสู้เพื่อตนตายเสีย เพราะได้ต่อสู้มาตั้งแต่เกิดมาเป็นธิดาของนักปฏิวัติประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย พล.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา ฉะนั้น เธอจึงเป็นผู้ที่ยืนหยัดเพื่อประชาธิปไตยมาท่ามกลางฝูงอมาตย์ ที่แข็งแกร่ง ในยุคที่อมาตย์มีความน่าสะพึงกลัวที่สุด แล้วผ่านมา ๆ การต่อสู้ของเธอ พร้อมกับความเอาตัวเองให้มีชีวิตอยู่ ผ่านมา ๆ ก็หาละวางมือในการต่อสู้ไม่ ตราบมาบรรจบพบกระแสอันหลายหลากแห่งเสื้อแดงเข้า และเป็นยุคที่อมาตย์ ทายาทอสูรเริ่มอ่อนแรง เราจึงได้เห็นความปิติยินดีของเธอ เผยออกมาว่าเธอคือสปิริตของประชาธิปไตยโดยแท้จริง และเธอคือประชาธิปไตยไทยที่แท้จริง และเธอคือ สติปัญญา ที่ต่อสู้แบบสู้เพื่อมีชีวิตเสรีชน มีชีวิตเพื่อต่อสู้ด้วยสติปัญญาเพื่อประชาธิปไตยโดยแท้จริง เราจึงขอยกย่อง พวงแก้ว สาตรปรุง ว่าเป็นบุคคลแห่งปี พุทธศักราช 2553 ของหนังสือพิมพ์ดี ต่อไป และหวังว่า จักเป็นตัวอย่างของการต่อสู้เพื่อโลก เพื่อประชาธิปไตยอันแท้จริงต่อไป
ต่อจากนี้ โปรดติดตามอ่านสาระต่าง ๆ ของดี(อินเทอร์เนต) เล่มที่ 46 ต่อไป
บรรณาธิการ
27 เม.ย. 2554
13.00 น.