แล้วก็มีรายงานสื่อฝ่ายตรงข้าม คอยออกข่าวบิดเบือนให้ร้ายรัฐบาล ผมไม่ได้ติดตามข่าวมาเองหรอกครับ เพราะเดิมผมคิดว่า การที่ประเทศไทยต้องประสบภัยพิบัติคราวนี้ เป็นสิ่งที่เกินจะเรียกว่าน้ำท่วมธรรมดา แต่เห็นจะเรียกได้เลยสั้น ๆ ว่าเป็นมหาวิบัติภัยน้ำท่วม เปรียบปาน สินามิ เลยทีเดียว แท้จริงก็มีผู้ตั้งชื่อว่า สินามิน้ำจืด นั่นเลย ก็เหมาะสม ฉะนั้น จึงไม่น่าที่ใจมีใครเสียมารยาท มาตำหนิ ขับไล่รัฐบาลได้ อย่างไร เพราะภัยธรรมชาติครั้งนี้ ยิ่งใหญ่เหลือเกิน ต่อให้ 10 ทักษิณมาแก้ไข ก็ไม่ได้ดั่งใจตนเอง และไม่พอช่วยประชาชนได้อย่างเต็มที่หรอกครับ ในเรื่องเช่นนี้ ก็ต้องมองกันก่อนว่า ประชาชนผู้ประสบภัยนั้นแหละ ก็ต้องช่วยตนเองทุกคนอยู่แล้ว รัฐบาลย่อมมาทีหลัง เพราะอยู่ไกล แต่ที่สำคัญก็คือ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยนายกรัฐมนตรี ผู้แม้เข้ามาสู่ตำแหน่ง ก็เจอน้ำท่วมอยู่แล้วนั้น ก็ได้แสดงถึงความเอาใจใส่อย่างดี และแสดงถึงการทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพอย่างน่าชมเชยอย่างยิ่ง ผมเองมองว่า นี่แหละการบริหารงานแนวทางที่ถูกต้องที่สุด ถูกต้องตามหลักการบริหาร และถูกต้องตามวิถีทางประชาธิปไตย
แต่แล้วก็มีปรากฎการออกมา ทำนองว่า ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลพยายามโจมตี ผ่านทางสื่อฝ่ายเขา และทีวีบางช่อง เขาว่าเครือเนชั่นนี่ ทั้งหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์ ชอบโจมตีรัฐบาลนี้จัง ผมมองแต่เดิมแล้วว่าทีวีช่องนี้ เป็นทีวีอเกรสิฟ ดูออกท่าออกทางอเกรซิฟ น่าอาย ทั้งหญิง ทั้งชาย ผมเลยไม่ชอบดู และทั้งไม่อยากไปยุ่งกับเขา คิดว่าอะไรจะไร้ความคิดขนาดนั้น ขณะนี้ผมก็ลองแวบเข้ามาดู พบ รายการทนายหน้าใส เพิ่งดู ก็ไม่รู้อะไรมาก มีทนายความ 4 คน คนหนึ่งยังมองมา กระด้าง ๆ แบบว่า กูใหญ่ หลิ่ว ๆ ตาเลย ผมว่าเสียมารยาท ล้าหลังขนาดนี้มีในเมืองไทย คงจะมีคนมาวิเคราะห์ให้ฟังครับ ว่าสื่ออเกรสิฟนี่ ผิดหลักการ สื่อมวลชน อย่างไร ผิดหลักการประชาธิปไตย ยุคคนเจริญ อย่างไร ทำไมไม่แก้ไขตัวเอง ทนด้านทำตนต่ำอยู่ได้อย่างไร ไม่ละอายใจตัวเอง นับแต่นายอะไรนามสกุล หว่อง ๆ นั่นแหละครับเป็นต้นมา ไม่มีสื่อในประเทศไหนหรอกครับในโลก ที่ออกท่าออกทาง อเกรสิฟ อย่างเนชั่นนี่ ต่อผู้ชม แม้รายงการหนัก ๆ เช่น hard talk ของสื่อใหญ่ ๆ ในต่างประเทศเขาก็ทำอย่างมีศิลปและจริงใจ จนดูไม่อเกรสิฟ ผมไม่ทราบจะใช้คำอะไรจึงจะตรงพฤติกรรม ก็ใช้ คำนี้ครับ agressive
ในด้านพรรคฝ่ายค้าน ระยะแรก ก็คงจะแอบยิ้มอยู่เฉย ๆ ว่าน้ำมาช่วยเราแล้ว งานสบายขึ้นเยอะเลย ซ่อน ทำเป็นดี แล้วค่อยแบไต๋ออกมา จนบัดนี้ ใคร ๆ ก็พูดกันว่าฝ่ายค้านมีแผนจริง ๆ ที่จะล้มรัฐบาลให้ได้ใน 6 เดือน และเริ่มจะทำแบบเดิม คือใช้วาทะกรรม ท้ายสุดได้ข่าวว่า นางกัลยา โสภณพนิช ออกมาว่ารัฐบาล นส.ยิ่งลักษณ์เอง ว่าทำงานไม่เป็น อ่อนหัด ไร้ประสิทธิภาพ ลาออกไปเสีย
มีนักวิชาการพูดขึ้นก่อน ...ที่ว่าทำงานไม่เป็น อ่อนหัด ลาออกไปเสีย คงเป็นพวกเดียวกันกับนางอมรา พงศาพิศ ว่านรม.ทำงานไม่เป็น พูดแบบเดียวกันกับฝ่ายค้านแหละครับ น่าสังเกตเช่นเคยว่า เป็นถึงนักวิชาการในมหาวิทยาลัยดัง เก่าแก่ ยังไม่เข้าใจอะไร ๆ ในเชิงการบริหารเลย ในตอนหลังสุด รัฐบาลตั้ง คณะกรรมการขึ้นมา 2 คณะ ชื่อย่อว่า กยอ. กับ กยน. คณะแรกมี วีรพงษ์ รามางกูร เป็นประธาน คณะหลัง มีสุเมธ ตันติเวชกุล รายละเอียดยังไม่ทราบชัด แต่นี่ยังอยู่ในหลักการการบริหาร ที่ดูฉลาดมาก ๆ แต่นี่กระมัง ที่ทำให้มองว่านส.ยิ่งลักษณ์ ทำงานไม่เป็น ไปเอาคนนั้นคนนี้มาทำแทน ตลอดมาเลย นับแต่น้ำท่วมก็ตั้ง ศปภ. เอา รมว.ยุติธรรม พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก ที่ถูกโจมตีว่าเป็นตำรวจที่ไม่เข้าใจเรื่องน้ำเลย ฯลฯ มีกี่คนที่คิดอย่างนี้...?
ที่จริง อะไร ๆ ก็กำลังจะดีขึ้นไปตามลำดับอยู่แล้ว รัฐบาลทำงานหนัก จนสถานการณ์อยุธยาดีขึ้น ๆ ตามลำดับ ๆ เป็นรูปธรรมชัดเจน ๆ ที่อื่นก็ดีขึ้น ๆ แม้กรุงเทพก็ดีขึ้น ๆ มองไม่เห็นเหตุผลว่าทำไมไปโจมตีรัฐบาล ลงเรือลำเดียวกันมาแล้ว พอจะถึงฝั่งก็กลายเป็นแตกกันขึ้น คงเป็นเรื่องอิจฉาริษยา กลัวรัฐบาลจะได้ความดีความชอบ มากกว่า
ผมเปิดแนวคิดขึ้นก่อนนะครับ เพื่อให้วิพากษ์วิจารณ์กัน ผมเองไม่แปลกใจ ที่นายอภิสิทธิ์ พูดอย่างหนึ่ง แล้ว ลูกพรรคพูดไปอีกอย่างหนึ่ง นี่แหละของธรรมดาของพรรคนี้ ถึงไม่ไปไหนไงครับ คือใครในพรรคนี้จะพูดอะไร อย่างไร นายนิพิธ อินทสมบัติ (ที่พูดให้ร้ายและให้นรม.ยิ่งลักษณ์พิจารณาตนเอง) นายบุญยอด สุขถิ่นไทย(คนที่เสนอปปช.ให้ยุบพรรคเพื่อไทย) จะพูดอะไร อย่างไร หรือล่าสุดนายอภิสิทธิ์ พูดในสภา ก็ไปทางเดียวกันหมด คือ ทางอิจฉาริษยา อย่างไรครับ
วิพากษ์วิจารณ์กัน ไม่เห็นด้วยก็ได้ครับ อยากให้ฝ่ายไม่เห็นด้วยมากกว่า ผมจะสรรหาคนมาตอบโต้ให้กระจ่างชัดเจน......รู้ใครเป็นใคร ไผ เป็นไผเสียที
|