กกต.เดินทางไปต่างประเทศ ทีแรกก็เป็นข่าวเล็ก ๆ คล้ายข่าวลือ ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่แล้วบัดนี้นักข่าวติดตามไปสื่อมา ทราบว่าเป็นจริง กกต.มีถึง 5 คน ไปเสีย 4 คน อยู่ทำหน้าที่เพียง 1 คน แล้วไปตั้งแต่หลายวันแล้ว ทราบว่ากว่าจะกลับมาก็วันที่ 21 มิ.ย. 2554
พฤติกรรมคล้าย ๆ หลบเลี่ยงไป เพราะไม่มีการออกข่าว เพื่อแจ้งประชามหาชนให้ทราบ ตามหลักการประชาธิปไตย เพราะ กกต.อยู่ในระหว่างทำหน้าที่เพื่อรับสนองงานอันสำคัญยิ่งของพลเมืองไทย ซึ่งกกต.น่าจะมีสำนึกอันสูงส่งพอกับบทบาทหน้าที่ในขณะนี้ นั่นคือหน้าที่การจัดการอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ให้ประเทศไทยทั้งประเทศเกิดความเรียบร้อยเป็นธรรมและปราศจากการเสี่ยงใดใด เพื่อให้พลเมืองไทยหายห่วง หายสงสัย และซาบซึ้งในความยุติธรรม และซึ่งทุกคนมีความเป็นห่วงอยู่ว่า กกต.ยุคนี้น่าเห็นใจ เพราะจะมีกำลังและความสามารถ สติปัญญาไม่เพียงพอ น่าเป็นห่วงไปทั้งสิ้น แต่แล้ว กกต.เองกลับเอาเวลาตั้งหลายวันปลีกไปต่างประเทศได้ ทำไม กกต.จึงดูไร้เหตุผล ไม่สำนึกว่าตนทำหน้าที่สำคัญขนาดไหน และซึ่งเป็ฯหน้าที่ละเอียดอ่อนและมีความสำคัญยิ่งใหญ่มากขนาดไหน จึงน่าคิดว่า กกต.มีเชิงดูหมื่นดูแคลนประชาชนไทยเกินไปหรือไม่
เพราะขณะนี้ กกต.มีหน้าที่สำคัญที่รับผิดชอบต่อพลเมืองไทย ยิ่งกว่าบุคคล องค์กร สถาบันรัฐธรรมนูญใดทั้งสิ้น นั่นคือ บ้านเมืองจะเป็นอย่างไรในขณะนี้ ขึ้นอยู่กับกกต.
อ้างว่าเดินไปตามคำเชิญของต่างประเทศเพื่อไปดูงานอะไรนี่แหละ ซึ่งไม่น่าที่ กกต.จะไม่รู้ว่า ท่านจะเป็นตัวการก่อให้เกิดความสงสัยคลุมเครือขึ้นในสังคมไทย กกต.มีสติปัญญาพอที่จะคาดการณ์เหตุการณ์เช่นนี้ได้ แต่ก็ไม่ป้องกัน ไม่แก้ไข จงใจทำให้เกิดขึ้น จริง ๆ เพราะ กกต.ไม่บอกประชาชนว่าตนมีความจำเป็นต้องเดินทางไปไหน ทำไม ......แต่ในความเป้นจริง ตามหลักการบริหาร........กกต.ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปไหนทั้งสิ้น ในสถานการณ์การเลือกตั้งไทยขณะนี้ ซึ่ง กกต.ก็น่าจะรู้ดีว่า งวดเข้าเต็มที่แล้ว และกำลังอยู่ในกระแสอันเชี่ยวกรากของการต่อสู้ระหว่างพรรคการเมืองสองพรรคใหญ่ 2 ข้างใหญ่ ๆ กำลังประเคนใส่กันอย่างเต็มที่ โดยประชาชนมีความหวังว่า มี กกต.ดูแลอยู่อย่างเต็มพิกัดความสมบูรณ์ของภาระหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายจากประชาชน และ พลเมือง
อุปมานะครับ เหมือนเรือใหญ่กำลังเผชิญคลื่นลมในทะเล ที่น่าเป็นอันตรายและผู้บังคับการเรือต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง ต้องมองไปว่าสถานการณ์เช่นนี้แหละอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นได้ในนาทีหนึ่งนาทีใด จะทำแบบเลินเล่อ ประมาทไม่ได้ เป็นอันขาด มีสิ่งที่กกต.จะต้องจัดการไปถึงระดับที่เรียบร้อย เนียนที่สุด ของการจัดการประเทศไทยครั้งนี้ .......แล้วคุณคิดว่ามันง่าย มีเวลาพอหรืออย่างไร..... แต่แล้ว กกต.กลับไร้ความคิด.......ละทิ้งภาระหน้าที่อันสำคัญนี้ไป......... ไปต่างประเทศ หมายถึงไปนอกเรือ ปล่อยประชาชนและทุกสิ่งทุกอย่างในเรือให้เคว้งคว้าง เสี่ยงอย่างที่สุด และมีลักษณะบริหารงานไปอย่างประมาทเลินเล่ออย่างที่สุด ไม่น่าให้อภัยเลย
ไปประเทศไหนก็ไม่ทราบชัดเจน ไปด้วยกันหรือแยกกันไป ก็ไม่ชัดเจน นี่เป็นความไร้เหตุผลจริง ๆ และมีความผิดฐานไม่รายงานประชาชน พลเมืองให้ทราบชัด
แล้วคิดหรือว่าจะได้รับคำสรรเสริญจากต่างประเทศ หรือประเทศที่ไปเยือนนั้น ........... ถ้าประเทศนั้นเป็นประเทศประชาธิปไตย เขาก็ย่อมมีความฉลาดพอที่จะมองเห็นว่า เป็นไปไม่ได้ที่ กกต.ไทยจะมาตามคำเชิญ เนื่องเพราะกกต.ไทยอยู่ระหว่างภาระหน้าที่และความรับผิดชอบสำคัญขนาดนี้ .....เขาคงคิดว่า กกต.ไทยจะต้องปฏิเสธ ซึ่งประเทศนั้นก็จะพอใจในคำปฏิเสธ แต่แล้วก็กลับพบว่า กกต.ไทย โผล่มาจริง ๆ อุตส่าห์ละทิ้งหน้าที่สำคัญมา............(เขาคงแอบหัวเราะว่า ไอ้บ้านี้มาจริง ๆ ประเทศห่าอะไรวะ......มันจัดการเลือกตั้งแบบไหนวะ มันกำลังวุ่น ๆ ขนาดฆ่าประชาชนคนเรียกร้องประชาธิปไตยไปร่วม 100 ศพไม่ใช่หรือ มันมาได้อย่างไร ป่าเถื่อนนี่ว่าไม่รู้หนักรู้เบา รู้สถานที่กาลเวลา...แล้วเขาก็หรี่ตาข้างเดียวมองดู )
เขาไม่สรรเสริญคุณหรอกน่า ไม่รู้ตัวไม่รู้ตนขนาดนี้ ................
ผมว่ามีโทษฐานละทิ้งหน้าที่เลยนะ............ ผมจะขอเสนอให้โละทีหลัง โละทั้งคณะเลย
สิ่งที่ขอแนะนำก็คือ กลับมาเมื่อไร สิ่งแรกที่ต้องทำคือ รายงานประชาชนทันที ว่าคุณไปไหน ไปทำไม ........และนี่ต้องอธิบายให้ดี ว่า มีความจำเป็นขนาดไหน .......ขนาดที่ต้องหนีทัพในยามสงครามเชียวหรือ ? .
แล้วรอรับการพิพากษาของประชาชน พลเมืองภายหลัง ฐานละทิ้งหน้าที่ ในภาวะคับขัน
โทษก็เท่า ๆ ทหารหนีทัพโทษหนักถึงตัดหัวเลยละครับ
|