ReadyPlanet.com
dot dot
bulletBUDDHISM to the NEW WORLD ERA
bullet1.Thai-ไทย
bullet2.English-อังกฤษ
bullet3.China-จีน
bullet4.Hindi-อินเดีย
bullet5.Russia-รัสเซีย
bullet6.Arab-อาหรับ
bullet7.Indonesia-อินโดนีเซีย
bullet8.Japan-ญี่ปุ่น
bullet9.Italy-อิตาลี
bullet10.France-ฝรั่งเศส
bullet11.Germany-เยอรมัน
bullet12.Africa-อาฟริกา
bullet13.Azerbaijan-อาเซอร์ไบจัน
bullet14.Bosnian-บอสเนีย
bullet15.Cambodia-เขมร
bullet16.Finland-ฟินแลนด์
bullet17.Greek-กรีก
bullet18.Hebrew-ฮีบรู
bullet19.Hungary-ฮังการี
bullet20.Iceland-ไอซ์แลนด์
bullet21.Ireland-ไอร์แลนด์
bullet22.Java-ชวา
bullet23.Korea-เกาหลี
bullet24.Latin-ละติน
bullet25.Loa-ลาว
bullet26.Luxemberg-ลักเซมเบิร์ก
bullet27.Malaysia-มาเลย์
bullet28.Mongolia-มองโกเลีย
bullet29.Nepal-เนปาล
bullet30.Norway-นอรเวย์
bullet31.persian-เปอร์เซีย
bullet32.โปแลนด์-Poland
bullet33.Portugal- โปตุเกตุ
bullet34.Romania-โรมาเนีย
bullet35.Serbian-เซอร์เบีย
bullet36.Spain-สเปน
bullet37.Srilanga-สิงหล,ศรีลังกา
bullet38.Sweden-สวีเดน
bullet39.Tamil-ทมิฬ
bullet40.Turkey-ตุรกี
bullet41.Ukrain-ยูเครน
bullet42.Uzbekistan-อุสเบกิสถาน
bullet43.Vietnam-เวียดนาม
bullet44.Mynma-พม่า
bullet45.Galicia กาลิเซียน
bullet46.Kazakh คาซัค
bullet47.Kurdish เคิร์ด
bullet48. Croatian โครเอเซีย
bullet49.Czech เช็ก
bullet50.Samoa ซามัว
bullet51.Nederlands ดัตช์
bullet52 Turkmen เติร์กเมน
bullet53.PunJabi ปัญจาบ
bullet54.Hmong ม้ง
bullet55.Macedonian มาซิโดเนีย
bullet56.Malagasy มาลากาซี
bullet57.Latvian ลัตเวีย
bullet58.Lithuanian ลิทัวเนีย
bullet59.Wales เวลล์
bullet60.Sloveniana สโลวัค
bullet61.Sindhi สินธี
bullet62.Estonia เอสโทเนีย
bullet63. Hawaiian ฮาวาย
bullet64.Philippines ฟิลิปปินส์
bullet65.Gongni-กงกนี
bullet66.Guarani-กวารานี
bullet67.Kanada-กันนาดา
bullet68.Gaelic Scots-เกลิกสกอต
bullet69.Crio-คริโอ
bullet70.Corsica-คอร์สิกา
bullet71.คาตาลัน
bullet72.Kinya Rwanda-คินยารวันดา
bullet73.Kirkish-คีร์กิช
bullet74.Gujarat-คุชราด
bullet75.Quesua-เคซัว
bullet76.Kurdish Kurmansi)-เคิร์ด(กุรมันซี)
bullet77.Kosa-โคซา
bullet78.Georgia-จอร์เจีย
bullet79.Chinese(Simplified)-จีน(ตัวย่อ)
bullet80.Chicheva-ชิเชวา
bullet81.Sona-โซนา
bullet82.Tsonga-ซองกา
bullet83.Cebuano-ซีบัวโน
bullet84.Shunda-ชุนดา
bullet85.Zulu-ซูลู
bullet85.Zulu-ซูลู
bullet86.Sesotho-เซโซโท
bullet87.NorthernSaizotho-ไซโซโทเหนือ
bullet88.Somali-โซมาลี
bullet89.History-ประวัติศาสตร์
bullet90.Divehi-ดิเวฮิ
bullet91.Denmark-เดนมาร์ก
bullet92.Dogry-โดกรี
bullet93.Telugu-เตลูกู
bullet94.bis-ทวิ
bullet95.Tajik-ทาจิก
bullet96.Tatar-ทาทาร์
bullet97.Tigrinya-ทีกรินยา
bullet98.check-เชค
bullet99.Mambara-มัมบารา
bullet100.Bulgaria-บัลแกเรีย
bullet101.Basque-บาสก์
bullet102.Bengal-เบงกอล
bullet103.Belarus-เบลารุส
bullet104.Pashto-พาชตู
bullet105.Fritian-ฟริเชียน
bullet106.Bhojpuri-โภชปุรี
bullet107.Manipur(Manifuri)-มณีปุระ(มณิฟูรี)
bullet108.Maltese-มัลทีส
bullet109.Marathi-มาราฐี
bullet110.Malayalum-มาลายาลัม
bullet111.Micho-มิโช
bullet112.Maori-เมารี
bullet113.Maithili-ไมถิลี
bullet114.Yidsdish-ยิดดิช
bullet115.Euroba-ยูโรบา
bullet116.Lingala-ลิงกาลา
bullet117.Lukanda-ลูกันดา
bullet118.Slovenia-สโลวีเนีย
bullet119.Swahili-สวาฮิลี
bullet120.Sanskrit-สันสกฤต
bullet121.history107-history107
bullet122.Amharic-อัมฮาริก
bullet123.Assam-อัสสัม
bullet124.Armenia-อาร์เมเนีย
bullet125.Igbo-อิกโบ
bullet126.History115-ประวัติ 115
bullet127.history117-ประวัติ117
bullet128.Ilogano-อีโลกาโน
bullet129.Eve-อีเว
bullet130.Uighur-อุยกูร์
bullet131.Uradu-อูรดู
bullet132.Esperanto-เอสเปอแรนโต
bullet133.Albania-แอลเบเนีย
bullet134.Odia(Oriya)-โอเดีย(โอริยา)
bullet135.Oromo-โอโรโม
bullet136.Omara-โอมารา
bullet137.Huasha-ฮัวซา
bullet138.Haitian Creole-เฮติครีโอล
bulletบุคคลแห่งปีของหนังสือพิมพ์ดี
bulletMystery World Report รายงานการศึกษาโลกลี้ลับ
bulletสารบาญโหราศาสตร์
bulletหลักโหราศาสตร์ว่าด้วยดวงกำเนิดและดวงฤกษ์รวมคำตอบคลี่คลายปัญหาข้อข้องใจเกี่ยวกับการทำนายชะตาชีวิต
bulletทุกความคิดเห็นจากเวบนี้(เริ่ม ก.พ.55)
bulletประชาธิปไตยเท่านั้น1
bulletประชาธิปไตยเท่านั้น 11
bulletทุกความคิดเห็นจากหน้า1(ก่อน ก.พ.55)
bulletทุกความคิดเห็นจากเวบบอร์ด(ถึงก.พ.55)
bulletภาค 11
bulletภาค 12
bullet54.Hmong ม้ง
bullet133.แอลเบเนีย
bullet133.แอลเบเนีย
bulletหน้าที่เก็บไว้




สรุปประเทศไทย รัฐบาลคมช.พล.อ.สุรยุทธ จุฬานนท์

รายงานจากบันทึกในอดีต
รัฐบาลทหารปกครองประเทศ
 

   
สรุปประเทศไทย
สรุปประเทศไทย
 
รัฐบาล คมช.
พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์
 
1. ประเด็นการปฏิรูปการปกครองโดยมีการปฏิวัติยึดอำนาจเก่าของรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.)   นำโดย พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในวันที่ 19 ก.ย. 2549 แล้วมาเป็นรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ในเดือนตุลาคม 2549
 
บทสรุปเมื่อเวลาผ่านมาถึงบัดนี้เป็นเวลา 1 ปีกับ 1 เดือนเศษ ๆ  ที่กำลังจะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 หรือที่เรียกกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับคมช. ในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 นั้น น่ามีการวิเคราะห์ดูว่า คปค. นำโดยพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน กับพรรคพวก ได้ทำการปฏิรูปการเมือง ยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ ไปทำไม มีความชอบธรรมเพียงใดหรือไม่ แล้วเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาล มีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) รัฐบาลและคมช.ได้ทำอะไรมีผลงานอะไรบ้าง และที่สำคัญประเทศไทยได้อะไรจากการยึดอำนาจเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่  บัดนี้ก็พอสรุปได้ชัดเจนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมารัฐบาลและคมช.ไม่มีความสามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ประเทศชาติมิได้ประโยชน์อะไรเลยจากคณะปฏิรูป มิได้เห็นความก้าวหน้าไปกว่าเดิม แต่กลับทรุดลงไปอีก ตลอดเวลา 1 ปีกับ 1 เดือนที่มีคปค. มีรัฐบาล และมี คมช.อยู่ในอำนาจได้ทำการบริหารผลประโยชน์ของชาติถดถอยลงไปทีละน้อย ๆ จนขณะนี้บังเกิดผลทำให้การทางเศรษฐกิจฝืดเคืองลงไป ประชาชนประสบปัญหาและลำบากยากจนลงไปตามลำดับ ดังที่มีสิ่งบอกเหตุถึงความตกต่ำหายนะชัดเจนขึ้นมาทุกขณะ  ที่น่าสังเกตเป็นข้อสำคัญก็คือขณะทำการปฏิรูปในเดือนกันยายน 2549นั้น รัฐบาลทักษิณกำลังทำงานหนัก เพื่อบุกเบิกนโยบายใหม่ ที่ข้ามเขตข้ามแดน ข้ามทวีป ข้ามโลกไป เพื่อความร่ำรวยของประชาชนคนไทยและประเทศไทย ด้วยการบุกเบิกตลาดสินค้าต่างประเทศ แน่นอน การกล่าวหาว่าโกงนั้นก็เป็นเพียงข้อกล่าวหา บุคคลย่อมมีสิทธิตามกฎหมายที่จะกล่าวหาฟ้องร้องได้เสมอ แต่โดยหลักนิติธรรมแล้วควรคำนึงว่าผู้ถูกกล่าวหาตราบใดที่ยังไม่มีการตัดสินเป็นขั้นสุดท้ายแล้วก็ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ และบุคคลย่อมมีสิทธิในการเรียกร้องค่าเสียหายทางศาลได้เช่นเดียวกัน นั่นเป็นความยุติธรรมในระบอบประชาธิปไตย เช่นกรณีในสิงคโปร์ ที่ผู้นำประเทศนั้นทำการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากหนังสือพิมพ์ Far Eastern Economic Review และผู้นำฝ่ายค้านของสิงคโปร์ ในข้อหาร่วมกันใส่ร้ายหมิ่นประมาทผู้อื่น ซึ่งศาลได้ตัดสินให้ฝ่ายจำเลยแพ้คดีต้องชดใช้ค่าเสียหายตามที่โจทก์เรียกร้องจำนวนมหาศาล จนฝ่ายจำเลยผู้นำฝ่ายค้านถูกสั่งให้ล้มละลายเพราะไม่มีเงินชดใช้ค่าเสียหายตามคำสั่งศาล และทั้งยังต้องติดคุกชดใช้แทนค่าเสียหายอีกด้วย นี่น่าเป็นอุทาหรณ์ที่สำคัญ คมช.ก็กล่าวหารัฐบาลทักษิณในทำนองเดียวกันนี้ ซึ่งสะท้อนชัดเจนขึ้นมาตลอดเวลาที่ผ่าน ๆ มาว่ามีเจตนาเป็นปฏิปักษ์ส่วนตัว ถึงต้องพยายามตลอดมาในการใส่ร้ายป้ายสีเพื่อให้เกิดแนวร่วมขึ้นกวาดล้างอำนาจเก่า
   
2.         ในด้านการสร้างสรรค์ รัฐบาลคมช.ก็มิได้ปรากฏผลงานอะไร เสมือนว่าไม่ได้ทำอะไร แต่กลับทำลาย ดังจะเห็นว่า ในขณะนั้น สนามบินสุวรรณภูมิอันโอ่อ่า กำลังเป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศและเอเชีย และประชาชนทั้งชาติกำลังชื่นชมยินดี มีความสุข มองว่าสุวรรณภูมิ นามพระราชทาน คือขวัญใจแห่งชาติ กำลังพัฒนาไปทุกด้าน แม้ด้านที่เป็นสถานท่องเที่ยวที่พักผ่อนหย่อนใจ ที่สงบจิต ที่ภาคภูมิใจของประชาชนทั้งชาติ แห่มาท่องเที่ยว มาปิ๊กนิก พาครอบครัว ลูกหลานมาพักผ่อนนอนเล่น สบาย ๆ ไร้กังวล มีความสุขกับการดูนกยักษ์เหินขึ้นเหินลงสนามใหญ่แห่งนี้ จนจะเกิดเป็นประเพณีอันน่าชื่นชมยินดีขึ้นมาแล้ว แต่สิ่งที่น่ายินดีนี้กลับหยุดชงักลงพลันที่มีคมช.มาถึง และก็ไม่มีความสามารถที่จะบริหารสืบสานความดีงามนี้ต่อไปได้ กลับไปทำสิ่งที่ไม่สร้างสรรค์ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยทำลายแผนการเพื่อความชื่นชมของประชาชนต่อสนามบินสุวรรณภูมิและผลประโยชน์ของชาติจากสนามบินสุวรรณภูมิไปเสียอย่างน่าเสียดาย พอ ๆ กับทำลายความสุขวันปีใหม่ 2550 ของประชาน ที่ปล่อยให้เกิดระเบิดขึ้นถึง8 จุดในกรุงเทพมหานคร  อีกตัวอย่างหนึ่งทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนก็คือนโยบายสินค้าโอทอปที่กำลังดังและขึ้นชื่อไปในต่างประเทศและประชาชนทั่วประเทศกำลังกระตือรือร้นสร้างสรรค์งานตามวิถีนโยบายโอทอป แต่รัฐบาลรู้เท่าไม่ถึงการณ์ชั้นเชิงจิตวิทยาการตลาด ไปเปลี่ยนชื่อเสียใหม่ โดยเหตุผลว่าชื่อโอทอป ไม่มีความเป็นไทย อ้างว่าเพื่อความเป้นไทย เพื่อวัฒนธรรมไทย หารู้ไม่ว่าพอเปลี่ยนชื่อใหม่แล้วก็ไม่มีประเทศใดรู้จัก แล้วโอทอปก็ลดถอยพลังลงไปจนเงียบสนิทในขณะนี้ น่าเสียดายจริง ๆ  โอทอปก็เลยหดหายไป ขายไม่ออก ประชาชนก็เสียหาย   รายได้ของประเทศชาติของประชาชนระดับท้องถิ่นก็หดหายไป และซ้ำตลอดเวลารัฐบาล คมช. ก็ไม่เคยสนใจขยายตลาดสินค้าไทยออกไป ทำให้การค้าไทยสูญเสียประโยชน์ลงไปเรื่อย ๆ   นี่เป็นเพียงตัวอย่างว่า การปฏิรูปเพื่ออะไร?    และบทสรุปก็คือ ความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
 
3. คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คมช.) ได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2549 มีบทบัญญัติจำนวน 39 มาตรา เพื่อกำหนดลักษณะอำนาจสูงสุดในแผ่นดิน และแนวการบริหารสำหรับรัฐบาลใหม่ของ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ใช้เป็นแม่บทบริหารประเทศต่อไป ส่วน หน.คมช. ก็มาสู่ตำแหน่ง    ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) อยู่เบื้องหลังรัฐบาลปฏิรูป แล้วตลอดเวลาที่อยู่ในอำนาจก็วางแผนสืบทอดอำนาจ ครั้นเกษียณจาก ผบ.ทบ. ก็เคลื่อนตัวเองไปสู่ตำแหน่งการเมือง แม้ไม่ได้เป็นหมายเลขหนึ่งก็ขอเป็นหมายเลขสอง   เพื่อสืบทอดอำนาจ และเห็นได้ว่าจะควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปในทิศทางที่ประสงค์ ของคมช. นั่นคือขจัดปรปักษ์ทางการเมืองและส่วนตัว ดังที่ประชาชนได้เห็นท่าทีที่เปิดเผยของพล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน มาตั้งแต่ต้น จนถึงบัดนี้ คือความพยายามกำจัดอำนาจเก่าให้สิ้นไป โดยไม่ชอบธรรม และทั้งไม่ชอบด้วยหลักการประชาธิปไตยเลย แท้จริงหน.คมช.ได้มีท่าทีดูแคลนประชาชนมาตั้งแต่ต้น เพราะเหตุที่การปฏิรูปการปกครองคราวนั้น เป็นการล้มล้างอำนาจรัฐของประชาชน ที่มาจากประชาชน การปฏิรูปฯจึงเป็นการดูแคลนประชาชน เหยียดหยามบุคคลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถึงสองครั้งสองคราวที่ลงคะแนนเลือกพรรครัฐบาลชุดก่อนของทักษิณ ชินวัตร ที่ได้คะแนนท่วมท้นไม่ต่ำกว่า 16 และ 13 ล้านเสียง ทั้งสองครั้ง นั้นแสดงถึงการดูแคลนประชาชนในระบอบประชาธิปไตย และจะได้รับผลของการดูแคลนจากคนทั้ง 16-13 ล้านเสียงนั้น อันเป็นตัวอย่างสำหรับชนรุ่นหลังได้ย้อนกลับมาดูอย่างพิศวงต่อไป ในขณะนี้ก็ยังมีความเคลือบแคลงของวงการต่าง ๆ ต่อไปว่า พล.อ.สนธิ จะยอมรับผลการเลือกตั้งคราวหน้าอย่างไร    แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เสียงประชาชนย่อมเป็นใหญ่ เพราะเสียงประชาชนคือเสียงสวรรค์ นี่เป็นหลักการของประชาธิปไตย
 
ทำไมจึงมีการปฏิรูปการปกครองเกิดขึ้นในวันที่ 19 ก.ย. 2549 จึงได้คำตอบในเวลาบัดนี้ว่า ไร้สาระอะไร มีแต่เรื่องความแค้นส่วนตัวต่อรัฐบาลเก่า มิได้มีเรื่องผลประโยชน์ของประชาชน ของประเทศชาติในส่วนรวมเลยแม้แต่น้อย
 
 
4.   คำถามสำคัญในวันนี้ก็คือ   ประชาธิปไตยไทยได้พิศูจน์ตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าว่ายังไม่สามารถแก้ปัญหาประเทศไทยได้ด้วยตนเองด้วยวิถีทางประชาธิปไตย นี่เป็นความจริงเพียงใด?
 
เห็นได้ว่ามีคำตอบอยู่แล้ว คือ จริง ประชาธิปไตยไทยยังเอาตัวเองไปไม่รอด เพราะข้อสรุปก็คือ ประชาธิปไตยอย่างไทย ๆ ก็เป็นเช่นนี้ คือมีแต่ความจอมปลอมและคนไร้ทั้งความรู้และไร้ทั้งวัฒนธรรมทางการเมือง เห็นจากบทบาทของคนและสถาบันหลายกลุ่ม นับตั้งแต่สถาบันการศึกษาเอง นักวิชาการ ครูอาจารย์ในสถานศึกษา สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา สถาบันการเมืองเอง ตลอดไปถึงพรรคการเมืองเอง ถึงการสื่อสารมวลชนโทรทัศน์ ที่บ่งบอกประชาธิปไตยแบบด้อยพัฒนาในประเทศของเรา ที่เป็นเหตุปัจจัยปิดกั้นมิให้บ้านเมืองเราเจริญไปได้
 
ในขณะนี้ วงการเมืองของไทยเรา แสดงออกถึงความอ่อนด้อยในอุดมการณ์และด้อยความสามารถของนักการเมืองไทย พรรคการเมืองไทยไปทั้งสิ้น ในขณะนี้ เห็นนักการเมือง แม้กระทั่งระดับหัวหน้าและผู้นำพรรคการเมืองไทยย้ายสังกัดพรรค อย่างที่ไม่คำนึงว่าตอนตั้งพรรคของตนขึ้นมานั้นตนมีอุดมการณ์อย่างไรในการรับใช้สังคมและประเทศชาติ และไม่คำนึงถึงประชาชนเลย   และที่สำคัญก็คือ นักการเมืองไม่รู้นโยบาย สร้างสรรค์นโยบายขึ้นมาไม่ได้ ขณะนี้ แม้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งแล้วไม่ถึง 2 เดือน ก็ยังไม่มีนักการเมืองคนใด พรรคการเมืองไหนที่แสดงให้เห็นว่าเขารอบรู้นโยบายขึ้นมาเลย   หากจะอุปไมยอุปมาการเมืองไทยขณะนี้ก็คือ มีเกมกีฬาชนิดหนึ่งเปิดเวทีออกมาให้เล่นกัน นักการเมืองไทยก็พากันกรุ้ม ๆ กริ่ม ๆ เพียงนึกสนุกเท่านั้นเอง   สำนึกของพวกเขาก็คือ สำนึกแห่งความใหญ่ มีความรู้สึกว่าใหญ่ ตนเองมีความสำคัญขึ้นมา ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินแล้วละเวลานี้   เท่านั้นเอง ก็กร้มกริ่ม พิจารณาแล้ว นักการเมืองไทยเราขาดทั้งความสามารถและจริยธรรมทางการเมือง ไม่มองการเมืองในฐานะสำคัญโดยนโยบาย คือในความคิดของนักการเมืองและพรรคการเมืองเอง ที่จะสร้างชาติสร้างประชาชนนั้นจะต้องทำอะไร และทำอย่างไรบ้าง ซึ่งเมื่อคำนึงว่าในการนี้นักการเมืองจะต้องเริ่มด้วยการศึกษา คือทำงานการวิจัยกันอยู่ตลอดเวลา นักการเมืองจะไม่มีเวลาว่างเลย เพราะเวลาที่ว่างจะเอามาใช้ในการศึกษาวิจัยทดแทนไปทั้งหมด ซึ่งโดยแนวคิดทางงานการเมืองเช่นนี้เองจะเป็นการวางรากฐานที่สำคัญทางการเมืองให้แก่ตนเองและพรรคการเมืองของตนให้เอาใจใส่และมุ่งหมายการสร้างงานที่เป็นจริงขึ้นมาเป็นรูปธรรมได้ แต่บัดนี้มองดูวงการเมืองไทยแล้วมิได้มีร่องรอยเลยว่ามีนักการเมือง พรรคการเมืองใดได้ทำงานการศึกษางานวิจัยเพื่อสร้างสรรค์นโยบายที่ทันสมัยทันความต้องการของประชาชนและสังคมโลก แต่นักการเมืองแทบมองไม่เห็นความจำเป็นและความสำคัญของการศึกษาวิจัยด้านนโยบายนี้เลย สิ่งที่นักการเมืองไทยทำมาตลอดเวลายาวนานก็คือ ฝึกหัดเพียงวาทะ และศึกษาข้อกฎหมาย เพียงเพื่อการเอาชนะเชิงวาทะเท่านั้นเอง  โดยมองว่าวาทะเป็นสิ่งสำคัญยิ่งจนเป็นสาระสำคัญหลักของการเมืองไปเลยทีเดียว นักการเมืองไทยจึงมีแต่วาทะมาโดยตลอด และไม่เคยพัฒนาตนเองไปสู่จุดที่เป็นแก่นสารสาระของการเมืองที่แท้จริงเลย   และประการสำคัญต่อมาก็คือ นักการเมืองไทยนั้นก็ล้วนแต่เป็นคนยากจน แล้วไม่สำนึกว่านี่เป็นความด้อยที่ต้องปรับปรุงแก้ไขจึงมองการเมืองด้วยความประมาทจริง ๆ อุปมาเหมือนความคิดจับเสือด้วยมือเปล่า ไม่เคยมีการตระเตรียมทางการเงินการงบประมาณไว้เลย ในรูปธรรมก็คือนักการเมืองไม่เคยมีธุรกิจการงานอะไรมาก่อน ส่วนมากมาจากมนุษย์เงินเดือน เมื่อแก่เกษียณแล้วก็เข้ามาสู่วงการเมือง  และพาบุคคลิกภาพที่ถนัดในการเป็นผู้ตาม ขาดความริเริ่ม ขาดความกล้าที่จะเสี่ยง และการตัดสินใจในนโยบายใหม่ ๆ ไปทั้งสิ้น    การเข้ามาสู่วงการเมืองด้วย   การตระเตรียมทางการเงิน สร้างตัวนักการเมืองเองนั้น นั่นแหละบอกไปถึงความสามารถที่แท้จริงของนักการเมืองอย่างหนึ่ง หากนักการเมืองสามารถสร้างผลงานทางการงานการเงินมาก่อน นั้นน่าเป็นหลักประเมินความสามารถของบุคคลในระดับพื้นฐานชั้นหนึ่งก่อนที่จะมีสิทธิได้เข้าสู่วงการเมืองของประเทศ  แต่นักการเมืองไทยไม่เคยได้ตระเตรียมเงินไว้ใช้ในกิจการการเมืองเลย   ตามที่เห็นมีการย้ายพรรคกันอุตลุตขณะนี้ แท้จริงเป็นเพราะเรื่องเงินนี้เองเป็นตัวกำหนดการตัดสินใจย้ายพรรค ใช่ว่ามีอุดมการณ์อะไรเลยก็เปล่า นี่จึงเป็นจุดที่บกพร่องอย่างยิ่งใหญ่อีกจุดหนึ่งในวงการเมืองไทย  จึงจำเป็นที่นักการเมืองรุ่นใหม่ ๆ จะต้องมองเสียแต่แรกเริ่มว่า ชีวิตนักการเมืองระดับมาตรฐานสากลนั้น เรื่องความสามารถในการหาเงินทองมาใช้บริหารและการดำเนินนโยบายหรืออุดมการณ์ส่วนตัว หรือของพรรคการเมืองนั้นมีความจำเป็น และความสามารถในการสร้างตัวสร้างความร่ำรวยหรือความเพียงพอทางการเงินขึ้นมาได้ก่อนการเข้าสู่วงการเมืองนั้น จะเป็นสิ่งบอกเหตุถึงความสามารถและเป็นประกันชั้นหนึ่งในการจะนำประเทศชาติและประชาชนไปสู่ความสำเร็จ หากนักการเมืองไร้ความสามารถแม้การประกอบอาชีพการงานเลี้ยงตนเองและครอบครัวแล้ว จะสามารถในการทำมาหาเลี้ยงประเทศชาติที่ใหญ่โตได้อย่างไร หากเอาความยากจนมาสู่การเมืองแล้ว ไร้อุดมการณ์เสียอีก นั่นก็จะทำการเมืองโดยรวมเสียหายเพราะจะเกิดการปั่นป่วนไร้ระเบียบวินัยไปอย่างไม่รู้จบ ทั้งก่อนการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองและหลังการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองแล้ว      แต่เมื่อปรากฏในวงการเมืองไทยอยู่เช่นนี้ ก็ยังต้องด้อยพัฒนา(underdeveloped)ต่อไป จนกว่าจะรู้อะไรอะไรเกี่ยวกับสัจธรรมทางการเมืองและวัฒนธรรมการเมืองดีขึ้น และสังคมเราคงต้องได้รับการอบรมเรื่องการเมืองและวัฒนธรรมการเมืองไปเป็นระยะ ๆ โดยคณะปฏิวัติ หรือคณะปฏิรูป ซึ่งจำเป็นต้องมาเป็นระยะ ๆ เหมือนกัน จึงน่าจะเป็นการอบรมงานการเมืองแบบหนึ่งที่จำเป็นสำหรับสังคมแบบไทย จึงจะพอช่วยให้กระเตื้องขึ้นได้ 
 
5.   เราเห็นว่า การพัฒนาหลักทางการเมืองก็คือ ต้องมองว่าประชาชนต่างมีความแตกต่างทางผลประโยชน์ เราต้องยอมรับว่าจะต้องมีการต่อสู้กันในเชิงผลประโยชน์ของใครของมัน ก็โดยมีรูปธรรมที่ปรากฎชัดขึ้นในรูปกลุ่มผลประโยชน์กลุ่มต่าง ๆ จะต้องต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตน โดยการเลือกนโยบายอย่างไร
 
การเมืองของประชาชนจะต้องมีความเข้าใจตรงกันว่า นั่นก็คือสิทธิในการเลือกนโยบาย นี่คือการตัดสินใจทางการเมืองของระบอบประชาธิปไตยมีสิทธิอันสูงสุดที่การเลือกนโยบาย เพราะโดยวิธีนี้ ย่อมทำให้ความคิดเห็นที่แตกต่างทางการเมืองสามารถรอมชอมกันได้โดยการมีสิทธิเลือกนโยบาย ยอมรับโดยวัฒนธรรมประชาธิปไตยในการมีสิทธิเลือกนโยบาย และทุกฝ่ายในระบอบ จะต้องเคารพกฎกติข้อนี้ประเด็นนี้   โดยสิทธิของการเลือกนโยบายที่แตกต่าง หลายหลาก และยอมรับในสิทธิและความชอบธรรมของการเลือกนโยบายนั้น 
 
หมายความว่าเรื่องความคิดเห็นหรือความต้องการทางผลประโยชน์ที่แตกต่างจะจบลง เมื่อการเลือกนโยบายเสร็จสิ้นลงโดยชอบธรรมตามกติกาที่ตกลงกันแล้ว นั่นคือข้อยุติ และจริยธรรมทางการเมืองโดยความเคารพในกติกา ความยึดบรรทัดฐานแห่งกติกาการเมืองกันทุกฝ่าย เช่นนี้ประเทศชาติจึงจะเจริญไปได้ ถ้าการเมืองปราศจากกติกาไม่มีความเคารพในกติกา มีวาทะโต้แย้งถกเถียงกันไม่รู้จบอวดดีอวดฉลาดอย่างไร้หลักการ และไร้ความเคารพในกติกา ทั้งไม่รู้แน่ชัดในสัจธรรมการเมืองเอาแต่ดื้อดึงไม่ฟังเหตุฟังผลแล้ว บ้านเมืองก็พินาศ
 
ในด้านนโยบาย ในเมื่อแม้ขณะจะมีการเลือกตั้งแล้วขณะนี้ ก็ยังไม่มีนักการเมืองและพรรคการเมืองใดเอ่ยถึงนโยบายออกมาเลยแม้แต่พรรคเดียว คนเดียว นั่นเป็นสิ่งที่สะท้อนว่าการเมืองไทยยังอ่อนด้อยอย่างยิ่ง  เพราะข้อสรุปก็คือ   หากการเมืองไร้นโยบายเสียแล้ว ก็ย่อมหมายถึง นักการเมือง และพรรคการเมือง แม้ประกาศว่าพร้อมที่จะเข้ามาบริหารประเทศนั้น แท้จริงเขายังไม่รู้เลยว่าจะพาประเทศชาติและประชาชนเดินไปสู่ความรุ่งโรจน์ได้อย่างไร ทางข้างหน้าจึงย่อมมีแต่ความเลื่อนลอยและฝ้ามัว ไปจนถึงมืดมนลง เนื่องจากพากันเดินไปอย่างไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้งานที่จะทำ และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร  ก็จบ
 
เราจึงขอเสนอนโยบายเพื่อนักการเมืองและพรรคการเมืองที่ยังไร้อุดมการณ์และความคิดได้พิจารณาดูว่าท่านจะสามารถเอามาทำได้หรือไม่ ท่านจะสร้างนโยบายอย่างหลายหลากอย่างนี้ได้เพียงไร 
 
นโยบาย 30 บาททุกโรค,    หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์, ทุนการศึกษาคนจน- ผู้อยากเรียนได้เรียน, เรียนก่อนจ่ายทีหลัง, ทุนแพทย์ 1 อำเภอ, นโยบายบ้านเอื้ออาทร, นโยบายเศรษฐกิจพอเพียง, สหกรณ์การเกษตร, ระดับราคาที่มีเสถียรภาพ, การไฟฟ้าสาธารณูปโภค, การคมนาคมของท้องถิ่น, ระบบน้ำดื่มน้ำใช้, ระบบน้ำเพื่อการเกษตรกรรม, ขจัดความยากจนทั่วประเทศ, เมกกะโปรเจกต์เพื่อการมีงานทำ, กองทุนหมุนเวียน,   SML,   ฯลฯ
 
และขอเสนอประชาชนให้ลองนึกดูว่าเคยมีนโยบายที่หลายหลากเหล่านี้มาก่อนหรือไม่? เราอยากให้นักการเมืองพรรคการเมืองและประชาชนทั้งปวงรับฟังไว้เป็นอุทาหรณ์และเป็นแบบอย่างของงานการเมืองต่อไป.
 
  • หนังสือพิมพ์ดี(อินเทอเนท)
    เล่มที่ 39 3 พ.ย.2550

 
 




รวมทุกความคิดเห็นทุกบทความจากเวบไซต์นี้

นสพ.ดี เล่มที่ 49
นสพ.ดี เล่มที่ 48
บทกวีการเมืองจากวัดพระโต
หลักธรรมและหลักโหราศาสตร์ ว่าด้วย ดวงกำเนิด และ ดวงฤกษ์
โหราศาสตร์ : หลักธรรมและหลักโหราศาสตร์ ว่าด้วยอำนาจอิทธิพลดาวพระเคราะห์ต่อชีวิตมนุษย์
ไม่ซื่อตรงต่อสถาบัน FB:Phayap Panyatharo
รัฐประหาร22พ.ค.2557 16.30น.
นามธรรมและประชาชนจะลงโทษองค์กรอิสระ
บันทึกมติปชป.ให้สส.ลาออก ถึง ยิ่งลักษณ์ยุบสภา
พล.อ.เปรม มีข้อสงสัยไม่จงรักต่อสถาบันกษัตริย์ FB Phayap Panyatharo
องค์กรอิสระตัดสินนายกปู 7-8 พ.ค.2557จาก FB Phayap Panyatharo
กรณีคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ
นิติศาสตร์เป็นศาสตร์ที่รับใช้(บทแทรกที่ 3 บทสรุป)
นิติศาสตร์เป็นศาสตร์ที่รับใช้(บทแทรกที่ 1-2)
นิติศาสตร์เป็นศาสตร์ที่รับใช้
วันแจ้งความแห่งชาติ 1 เม.ย. พุทธศักราช 2557
สรุปประเทศไทยวันนี้
คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ 20 พ.ย. 2556 ท่านจะต้องเรียนรู้ไปมากกว่านี้อีกเยอะเลย
ประเทศไทยวันนี้มีคำถาม ????
ข้อคิดจากการตัดสินของ ตุลาการรัฐธรรมนูญล้ม พรบ.กู้เงิน 2ล้านล. ของรัฐบาล
เวบไซต์ของเราถูกบลีอก
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไปกราบสมีสุวิทย์ ๆปิดรีดวอยซ์ทีวีแสนบาทก่อนกลับ
ศาล เมื่อไม่สถิตยุติธรรม ก็เป็นปาราชิก
วันมาฆะบูชา ยุทธศาสตร์ในศาสนา
สมชัย ศรีสุทธิยากร คนเถื่อนแห่งองค์กรเถื่อนโดยรัฐธรรมนูญเถื่อน
รัฐบาลโดย ศอ.รส.เตรียมจับสุเทพ
ม็อบสุเทพ-ประชาธิปัตย์ เป็นกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัวสุด ๆ เอารัดเอาเปรียบสังคมไทยอย่างไร้ความละอายใจ โดยถูกครอบด้วยอวิชชาความโง่เขลาอย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น
อย่าลืมพรรคปชป.ไม่มีฐานะที่แท้จริงในระบอบประชาธิปไตย
สุเทพ-อภิสิทธิ์ทำปชป.พังเรียบ ใครจะกอบกู้?
สถานการณ์เมืองไทยเป็นอย่างไร
บทวิเคราะห์สื่อไทย
บันทึกประเทศไทยวาระ ที่ 2 ในหลวงกับม.7
สดุดี 5 ธันวามหาราช พุทธศักราช 2556
บันทึกประเทศไทย 1-3 พ.ย.2556 กบฏสุเทพ เทือกสุบรรณ
คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ 20 พ.ย.2556
อะไรเป็นอะไร วันที่ 12 พ.ย.2556? ปัญหาโพธิรักษ์และ กองทัพธรรม
ระวังคิดล้มล้างรัฐบาลประชาธิปไตยมีโทษถึงกบฎ เด็กศรีสะเกษหยาบคายไร้การสร้างสรรค์ตามแบบพรรคประชาธิปัตย์ การกลับมาของแดงทั้งแผ่นดิน
ร่าง พรบ.นิรโทษกรรม ฉ.วรชัย เหมะ ถูกแปรเป็นนิรโทษกรรมสุดซอย
ม็อบสามเสนแปรเป็นม็อบราชดำเนิน ต้องการอะไร?
ล้อมกรอบประชาธิปัตย์วันนี้...อ่านไทยป.4 บทบาทที่น่าเหมาะสมขององค์กรเถื่อน ม.30 กรรมต่างกันสุดขั้วเอามารวมได้อย่างไร นิรโทษฯ
อาลัยสายัณห์ สัญญา
ล้อมกรอบประชาธิปัตย์วันนี้นายธนาอภิปราย ดร.ฆิกเมฆ เฉลย (3)
ล้อมกรอบประชาธิปัตย์วันนี้ดูดี ๆ นายเชน เทือกสุบรรณ นักเลงโตในสภา (2)
ล้อมกรอบประชาธิปัตย์วันนี้ดูดี ๆ มาธาดอร์ปชป.- สิงห์ปชป.ตายไหมครับ?
[ทบทวน]ป่าเถื่อนตีโซ่ตรวนผู้ต้องหาได้อย่างไร ระบบศาลไทยล้าหลัง ป่าเถื่อน ยังไม่รู้แก้ไขเสียที
ล้อมกรอบประชาธิปัตย์วันนี้ ดูดีๆ ไม่เข้าใจฐานะตนเองต้องสั่งสอน- มาธาดอร์ปชป.-สิงห์ปชป.สิ้นชื่อ
สภาของประชาชนกับสมาชิกสภาฝ่ายค้านที่ไม่เข้าใจฐานะตนเองในระบอบประชาธิปไตย สุดถ่อยในรัฐสภาไทย
พรรคประชาธิปัตย์ต่อต้านนิรโทษกรรมประชาชนผู้ถูกกลั่นแกล้งจากรัฐบาลตนเอง
ประเด็นรัฐธรรมนูญโจร เพียงอ่านภาษาไทยให้ชัดเจนเท่านั้นเอง
ม.68 กับภาษาไทยระดับประถมศึกษา ตลก.รธน.ไร้วุฒิภาวะ
ผู้พิพากษาจิตป่วยมีด้วยหรือ? ม.68กับภาษาไทยระดับประถมศึกษา
พรรคที่ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิงแก่ประชาชนไทยคือพรรคประชาธิปัตย์
หมอนี่ มาจากไหน ประชาชนรู้จักหรือเปล่า?
หน้ากากขาวในเฟสบุ๊ค นี่ชื่อจริง Narisa Jittapong
นโยบายชาวนาย่อมปรับเปลี่ยนได้ครับ อย่าไปสอนเขาผิด ๆ
หน้ากากขาวไชยวัฒน์ถึงอัญชัญบุตรถึงอรหันต์เก๊หลวงปู่เก๊วีรพลฉัตติโกรวมมาจากหน้า1
หน้ากากขาวไชยวัฒน์ สินสุวงษ์ ศิษย์โพธิรักษ์เจ้าลัทธิวิเศษเหนือมนุษย์
เอกยุทธ อัญชัญบุตรคนโกงแปดเหลี่ยมตายแน่แล้ว
สภารัฐธรรมนูญโลกเยือนไทยขอให้คืนสิทธิ์สส.แด่จตุพร พรหมพันธ์
ภาพที่อัปยศแด่วงการตุลาการไทย
ใครทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และควรจะรับผิดชอบอย่างไร?
การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร 3 มี.ค.2556
ปัญหามุสลิมโลก โรฮินยาถึงฉก.32 นราธิวาส ไสยบาบาถึงปัญหามุสลิมสามจว.ใต้
Muslim Rohingyas FB Phayap Panyatharo มุสลิมโรฮิงยา จากเฟสบุคพยับ ปัญญาธโร
แดงทั้งแผ่นดิน นปช.เคลื่อนไหววันรัฐธรรมนูญ 10 ธ.ค.2555
DSI แจ้งข้อหาอภิสิทธิ์-สุเทพออกคำสั่งฆ่าพัน คำกองแท๊กซี่เสื้อแดง
บันทึก24พ.ย.2555สิ่งที่เรียกว่าองค์การพิทักษ์สยามเริ่มต้นการแสดง ขณะที่กาซายุติการยิง
จากบันทึกในอดีตถึงพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์
คอป.และคณิต ณ นคร ที่รัฐบาลไปฝากความหวังไว้ แต่ผมว่าก็อย่าเพิ่งวางใจ
บันทึกแดงชุมนุม 15 ก.ย.2555 ทบทวนรัฐประหาร 6 ปีฆาตกรยังลอยนวล
รายงานรัฐบาลทหารปราบปรามเข่นฆ่าประชาชน เริ่ม 13 พ.ค.2553
มาทบทวนรายงานรัฐบาลทหารสลายการชุมนุมนองเลือดเรียกร้องประชาธิปไตย ราชประสงค์19พ.ค.2553
รวมบทศึกษาการเมืองไทยช่วง16พ.ย.- 10 ธ.ค.2551 หลายบทความจากหลายนามปากกา
ตลกรัฐธรรมนูญตัดสินแล้ว ไม่ยุบพรรคเพื่อไทย
ศาสนากับประชาธิปไตย กรรมจะลงโทษเอกยุทธ อัญชัญบุตรให้คุณหรือ ?
แดงเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมแสดงพลัง 24มิ.ย.2555
ปัญหามุสลิมไทย (รีไวด์)
เรื่องที่น่าเบื่อหน่ายในรัฐสภาไทย
นโยบายทักษิณ เพื่อไทย บทวิเคราะห์ 48 บทนโยบายทักษิณ กับประชาธิปไตย (รีไวด์)
ทักษิณแถลงแนวนโยบายพรรคเพื่อไทย บทวิเคราะห์(รีไวด์)
Japan Tsunami 2011
เทศกาลวันมาฆบูชา Magha Puja
รายงานจากรัฐสภา พิจารณาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ศาสนากับประชาธิปไตย กรรมจะลงโทษเอกยุทธ อัญชัญบุตรให้คุณหรือ ?
นโบยทักษิณ นโยบายพรรคเพื่อไทย ญี่ปุ่นฟื้นตัวแล้ว หลังดุลการค้าเป็นบวก 71 ล้านเย
นโยบายทักษิณ เพื่อไทย ในที่สุดพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ก็มาร่วมกับคนเสื้อแดง
ศาสนาและประชาธิปไตย ปรัชญาชีวิต วัฒนธรรม เก่า ใหม่
ศาสนาและประชาธิปไตย ว่าโลกจะแตก 23 พ.ค.2554
ดูรัฐบาลอภิสิทธิ์ เนวิน ชิดชอบ บรรหาร ศิลปะอาชา อันธพาลในประชาธิปไตย
ดูรัฐบาลอภิสิทธิ์ รัฐบาลเด็ก กรณีเรือบรรทุกน้ำตาลจมที่อยุธยา เรื่องเล็ก ๆ แค่นี้ปล่อยให้ประชาชนลำบากมาถึง 2 สัปดาห์แล้
วารสารต้านนิติราษฎร์ (หน้า 1)



แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
----- ***** ----- โปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate นี่คือเวบไซต์คู่ www.newworldbelieve.com กับ www.newworldbelieve.net เราให้เป็นเวบไซต์ที่เสนอธรรมะหรือ ความจริง หรือ ความคิดเห็นในเรื่องราวของชีวิต ตั้งใจให้ธัมมะเป็นทาน ให้สิ่งที่เป็นประโยชน์แด่คนทั้งหลาย ทั้งโลก ให้ได้รู้ความจริงของศาสนาต่าง ๆในโลกวันนี้ และได้รู้ศาสนาที่ประเสริฐเพียงศาสนาเดียวสำหรับโลกยุคใหม่ จักรวาลใหม่ เราได้อุทิศเนื้อที่ทั้งหมดเป็นเนื้อที่สำหรับธรรมะทั้งหมด ไม่มีการโฆษณาสินค้า มาแต่ต้น นับถึงวันนี้ร่วม 14 ปีแล้ว มาวันนี้ เราได้สร้างได้ทำเวบไซต์คู่นี้จนได้กลายเป็นแดนโลกแห่งความสว่างไสว เบิกบานใจ ไร้พิษภัย เป็นแดนประตูวิเศษ เปิดเข้าไปแล้ว เจริญดวงตาปัญญาละเอียดอ่อน เห็นแต่สิ่งที่น่าสบายใจ ที่ผสานความคิดจิตใจคนทั้งหลายด้วยไมตรีจิตมิตรภาพล้วน ๆ ไปสู่ความเป็นมิตรกันและกันล้วน ๆ วันนี้เวบไซต์ สื่อของเราทั้งหมดนี้ ได้กลายเป็นแดนสนุกน่าท่องเที่ยวอีกโลกหนึ่ง ที่กว้างใหญ่ไพศาล เข้าไปแล้วได้พบแต่สิ่งที่สบายใจมีความสุข ให้ความคิดสติปัญญา และได้พบเรื่องราวหลายหลากมากมาย ที่อาจจะท่องเที่ยวไปได้ตลอดชีวิต หรือท่านอาจจะอยากอยู่ณโลกนี้ไปชั่วนิรันดร และซึ่งเป็นโลกหรือบ้านของท่านทั้งหลายได้เลยทีเดียว ซึ่งสำหรับคนต่างชาติ ต่างภาษาต่างศาสนา ได้โปรดใช้การแปลของ กูเกิล หรือ Google Translate แปลเป็นภาษาของท่านก่อน ที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จการแปลให้ได้แทบทุกภาษาในโลกมนุษย์นี้แล้ว ตั้งแต่ต้นปีนี้เอง นั้นแหละเท่ากับท่านจะเป็นที่ไหนของโลกก็ตาม ทั้งหมดโลกกว่า 8 พันล้านคนวันนี้ สามารถเข้ามาท่องเที่ยวในโลกของเราได้เลย เราไม่ได้นำท่านไปเที่ยวแบบธรรมดาๆ แต่การนำไปสู่ความจริง ความรู้เรื่องชีวิตใหม่ การอุบัติใหม่สู่ภาวะอริยบุคคล ไปสู่การเปลี่ยนแปลงไปพ้นจากทุกข์ ทั้งหลายไปสู่โลกแห่งความสุขแท้นิรันดร คือโลกนิพพานขององค์บรมศาสดาพุทธศาสนา พระบรมครูพุทธะ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงแต่ท่านโปรดใช้บริการการแปลของ Google Translate ท่านก็จะเข้าสู่โลกนี้ได้ทันทีพร้อมกับคน 8 พันล้านคนทั้งโลกนี้. ----- ***** ----- • หมายเหตุ เอาขึ้นเวบไซต์ แทนของเดิม ทั้ง 2 เวบ .net .com วันที่ 21 เม.ย. 2565 เวลา 07.00 น.