www.newworldbelieve.net
กระทู้ 1 :
เพื่อ ประชาธิปไตย เท่านั้น ภาค 1
เพื่อ ประชาธิปไตย เท่านั้น ภาค 2
เพื่อ ประชาธิปไตย เท่านั้น ภาค 3
เพื่อ ประชาธิปไตย เท่านั้น ภาค 4
เพื่อ ประชาธิปไตย เท่านั้น ภาค 5
ความเห็นที่ 62
ขึ้นภาค 5 ไปเลยนะครับ
.png)
JUPITER จูปีเตอร์ ดาวพฤหัสบดี
แม้ดวงดาวทั้งหลายในท้องฟ้าก็มีสัณฐานกลมทั้งนั้น
.jpg)
กองทัพช้างไทยในลาว ก่อนที่จะเสียลาวให้ฝรั่งเศสนักล่า เรือรบฝรั่งเศส2ลำเข้ามาถึงปากน้ำไทยในภาพกำลังยิงปืนใหญ่ใส่ไทย
เมืองขึ้นภาพจากสารคดีฝรั่งที่เล่าเรื่องประเทศลาว ภาพนี้ มีคำใต้ภาพ 2 เรื่อง ๆ แรก ดังกล่าวแล้ว เรื่องที่ 2 บอกว่าไฟ
ดูว่าเกี่ยวกับอารยธรรมอย่างไรครับ กำลังไหม้เรือรบฝรั่งเศสที่ปากน้ำ
เรื่องราวของอารยธรรมโลก นั้น มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ หรือเรียกว่ายิ่งใหญ่เลย ก็เนื่องมาจากมนุษย์ เลิกความเชื่อ ซึ่งไม่ใช่วิชาการเลย เป็นเพียงความเชื่อ ในเรื่องศาสนา นั่นเองครับ
สมัยนั้น มันเป็นช่วงเวลาของยุคหินอยู่ครับ คนไม่มีความรู้ในเรื่องธรรมชาติเลย ใครบอกอะไรก็เชื่ออย่างนั้น
ที่สำคัญที่สุดที่กดดันมนุษย์ ครอบมนุษย์ ก็คือ เรื่องราวที่เกี่ยวกับโลกเรานี่เอง คนยุคหิน ที่ย้อนหลังไปถึง 500,000 ปีมาแล้ว มาจนถึง 5,000 ปีนี่ครับ เขาไม่ได้เรียนหนังสือเหมือนพวกเรา ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า วิชาการ หรือวิทยาศาสตร์ ไม่มีงานสำรวจ ไม่มีงานวิจัย หรือแนวคิดอิสระเชิงวิชาการ อย่างทุกวันนี้ พวกเขาจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลก หรือดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ พอมีวีรบุรุษ คนเก่งของเขาบอก เล่าให้ฟังเรื่องโลก ว่าอย่างไรก็เชื่อตามไปอย่างนั้น
เริ่มแต่ในอินเดียชมภูทวีปยุคเถื่อนเลยนะครับ พวกเขาก็อย่ากรู้กันว่าที่พวกเขาเกิดมา อยู่ กิน หลับนอนและตายลงไปนั้น มันคืออะไร และก็มีคนฉลาดคิด แล้วเล่าบอกกัน พวกเขาก็พากันเชื่อว่าโลกเรานี้เป็นโลกแบน ตั้งอยู่บนหลังช้างใหญ่ 4 เชือก ที่หันหัวมาชนกัน ให้โลกตั้งลงบนหัวช้างทั้ง 4 เชือกนั้น และช้างใหญ่ 4 เชือกนั้นก็ได้ยืนอยู่บนหลังเต่าใหญ่มหึมามากอีกตัวหนึ่งรอบ ๆ เต็มไปด้วยน้ำ แล้วเต่าก็พาว่ายไปตามน้ำนั้น(แต่ไม่ทราบว่าว่ายไปไหน) ใครเดินทางไปไกลในทะเล ระวังจะตกออกไปนอกโลก ก็กลัวกันใหญ่ มีนักประวัติศาสตร์ฝรั่งเขาสรุปเรื่องความเชื่อของอินเดียเดิม ดังที่ปรากฎในหนังสือเรียนภาษาอังกฤษชั้นมัธยม 6 ในประเทศไทยว่าดังนี้ครับ
<<< In the past the earth was a mystery. Many people thought it was full of gods, spirits and monsters. Most people thought it was flat, like a plate, with water all around it. In India they use to believe the land was carried on the back of an elephant. It was difficult to take a long trip, and people were afraid of travelling very far. They thought they could fall off the edge of the earth. >>>
<<< ในอดีตกาล โลกเป็นสิ่งประหลาดชนิดหนึ่ง คนจำนวนมากเชื่อว่าโลกมีเทวดามากมาย ,มีวิญญาณและสัตว์ประหลาดต่าง ๆ เต็มไปหมด คนส่วนมากคิดว่าโลกมีสัณฐานแบนเหมือนจานใบหนึ่ง มีห้วงน้ำขนาดมหิมาล้อมอยู่โดยรอบ ในอินเดีย คนมักคิดว่าโลกตั้งอยู่บนหลังช้างใหญ่ตัวหนึ่ง ทำให้ยากแก่การที่จะท่องไปไกล และคนทั้งหลายก็ก็กลัวการเดินทางไปไกล ๆ เพระเขาเชื่อว่าคนเดินทางอาจจะตกออกไปนอกขอบโลกได้ >>> [ จาก Odessy Book 6 อ.615 - อ.616 ไทยวัฒนาพานิช จำกัด พิมพ์ครั้งที่ 5 พ.ศ.2532 หน้า 2 ]
แล้วต่อมาก็มีศาสนาคริสต์
แล้ว 600 ปีต่อจากศาสนาคริสต์ก็มีศาสนาอิสลาม ที่ช่วยกันสอนไปอย่างละเอียดว่า โลกเรานี้เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสต์ศาสนา โดยพระเจ้าเป็นคนสร้าง ทรงสร้างเสร็จภายใน 7 วันเท่านั้นเอง แต่ทรงสร้างโลกแบน และทรงสร้างมนุษย์คนแรกชื่ออาดัม แล้วทรงถอดเอาซึ่โครงอาดัมออกมาซี่หนึ่ง เป็นซี่ด้านขวา มาสร้างเป็นผู้หญิง ชื่อเอวา
และพระองค์อัลเลาะห์ทรงสร้างหลังคามุงโลกโดยไม่ต้องมีเสาด้วย
และด้วยเหตุที่โลกและมนุษย์ และทั้งอาหารการกิน สรรพสิ่งที่มนุษย์ได้ใช้ประโยชน์ ถูกเนรมิตรสร้างขึ้นโดยพระเจ้านี้ จึงกลายเป็นประเด็นที่ยิ่งใหญ่มากต่อมนุษย์มาตั้งแต่มีศาสนาคริสต์ อิสลาม เกิดขึ้นมา
เพราะศาสนาทั้ง 2 ศาสนานี้ จะบังคับให้มนุษย์จงรักภักดีต่อพระเจ้า มีกตัญญูต่อพระเจ้า
และต้องเชื่อฟังพระเจ้า โดยต้องอุทิศชีวิตรับใช้พระองค์ ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของพระเจ้า(หรือแท้จริงคณะตัวแทนของพระเจ้า ซึ่งทางศาสนาคริสต์ได้แก่คณะบาทหลวงคาธอลิก และอิสลาม ได้แก่กษัตริย์) อย่างไม่ยอมขัดขืนเลย
มนุษย์จึงเป็นทาสของพระเจ้า และปฏิบัติตามคำสั่งคณะผู้ปกครองตัวแทนของพระเจ้าอย่างเคร่งครัดมาตั้งแต่นั้น
จึงเกิดสงครามศาสนาขึ้น และเกิดวัฒนธรรมทาสขึ้นมา เกิดระบบการปกครองเผด็จการศาสนา และเกิดการเมืองเผด็จการขึ้นมา
นั่นคือ อารยธรรมโลกยุคเก่า
โลกมาสู่อารยธรรมใหม่ก็โดยที่มี ความคิดวิชาการวิทยาศาสตร์เกิดขึ้น ในยุคเริ่มต้นของ กาลิเลโอ นั่นเอง
ซึ่งการประกาศสัจธรรมว่าด้วยโลกและดวงดาวของกาลิเลโอ เป็นเหตุให้เขาได้รับโทษและถูกคุมขังและรอการประหารชีวิต โดยคณะบาทหลวงคาทอลิกที่เป็นเผด็จการครองโลกขณะนั้น
แล้วนักเดินเรืออย่าง เฟอร์ดินานด์ แมกเจลแลน และ วาสโค ดากามา ที่ได้ค้นพบว่าโลกเรานี้ ไม่ได้แบน ดั่งพระเจ้าสร้าง ดั่งพระคัมภีร์ไบเบิล และ อัลกุรอานเขียนเอาไว้ แต่ โดยพิสูจน์ด้วยการสามารถเดินเรือได้รอบโลกของเฟอร์ดินานด์ แมกเจลแลน นั่นเอง
นี่คืออารยธรรมใหม่ครับ และนี่คืออารยธรรมการเมืองระบอบประชาธิปไตย
มันเริ่มขึ้นได้ ด้วยการได้รู้สัจธรรมโดยวิชาวิทยาศาสตร์ ที่พิศูจน์เรื่องโลกได้ และเป็นการปลดปล่อยมนุษย์ทั้งโลกไปเสียจากกตัญญูต่อพระเจ้า ไปเสียจากการสอนเรื่องราวที่ไร้สาระและเอามาบังคับให้มนุษย์ต้องทดแทนด้วยชีวิต เสียที
- ผู้แสดงความคิดเห็น ดร.ฆิกเมฆ สุวรรณเมฆินทร์
วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 10.10 น.
ความเห็นที่ 63
ต่อเรื่องใน คห. 62 ไปอีกสักหน่อยนะครับ
ดูแผนที่กันสักหน่อยนะครับ ล้วนเป็นแผนที่ฝรั่งทำไว้ครับ ได้มาจากสารคดีฝรั่งเขียน
อันนี้เป็นแผนที่ กรุงกลิงคะสีชมพูนะครับ เมื่อ 265 ปีก่อนคริสต์ศักราช (พ.ศ. 278)

KALINGA 265 BCE กลิงคะ แคว้นสุดท้ายที่อโศกมหาราชปราบปรามอย่างเฉียบขาด สีชมพูครับ
จากนั้น อโศก ก็เคลื่อนทัพมคธ เข้ากลิงคะ 265 ปีก่อนคริสต์ศักราช (พ.ศ.278) ฝรั่งว่าตายไปกว่า 100,000 คน ทำให้ อโศก ได้สำนึกในชีวิตที่ไร้เมตตาจิตของตน เห็นสัจธรรมในพุทธศาสนา ทรงเผยแผ่พุทธธรรมออกไปทั่วโลก
แต่ในทางการเมืองเป็นอย่างนี้ครับ ดูแผนที่ต่อไปครับ

MAURYA DYNASTY 265 BCE.
นั่นเป็น เวลาก่อนคริสต์ศาสนา 265 ปี พ.ศ. 278
นั่นแหละครับ ทำให้อินเดียรวมกันเป็นแผ่นดินใต้กษัตริย์ผู้ปกครองคนเดียวกัน กลายเป็นประเทศที่กว้างใหญ่ไพศาลที่สุดของโลกขึ้นมา ก็เริ่มจาก อโศกมหาราชนี้เอง และเมื่อมาเป็น REPUBLIC OF INDIA ภายหลังได้รับเอกราช-มาถึงปัจจุบัน ก็เป็นอย่างนี้ครับ

A clickable map of the 29 states and 7 union teritories of India.
เป็นประเทศใหญ่ ที่ประกอบด้วยมลรัฐ 29 มลรัฐ และมี อีก 7 ยูเนียน
ดังนี้ครับ
States
1. Andhra Pradesh
2. Arunachal Pradesh
3. Assam
4. Bihar
5. Chhattisgarh
6. Goa
7. Gujarat
8. Haryanna
9. Himachal Pradhesh
10. Jummu and Kashmir
11. Jharkhand
12. Karnakata
13. Kerala
14. Madhya Pradesh
15. Maharashatra
16. Manipur
17. Meghalaya
18. Mizoram
19. Nagaland
20. Odisha
21. Punjab
22. Rajastan
23. Sikkim
24. Tamil Nadu
25. Telangana
26. Tripura
27. Utta Pradesh
28. Uttarakhand
29. West Bengal
Union territories
A. Andaman and Nicoba Island
B. Chandigarh
C. Daddra and Nargar Haveli
D. Daman and Diu
E. Lakshadweep
F. National Capital Territory of Delhi
G. Puduchery
ครับ ใหญ่มาก ชื่อมลรัฐหรือเมืองต่าง ๆ น่าคิดว่า ที่คณะสงฆ์ไทย ศาสนาพุทธ เรียนกันมานั้น ตรงกันแล้วหรือยัง กับที่เป็นจริง อย่างที่ฝรั่งเขาศึกษามา
แต่มาดูเรื่องราวภายหลัง อโศกมหาราชมานะครับหลายร้อยปีทีเดียว จนข้ามมายุคใหม่ อารยธรรมใหม่ กระทั่ง วาส โคดา กามา ค้นพบอินเดีย ดังปรากฎเส้นทางเดินเรือของวาส โคดา กามา ดังแผนที่นี้ครับ
วาส โคดา กามา เดินเรืออ้อมแหลมกูดโฮป ไปถึงอินเดีย ในปี พ.ศ. ที่ไล่เลี่ยกับที่
เฟอร์ดินานด์ แมกเจลแลน เดินทางไปฟิลปปินส์ อินโดนีเซีย นั่นแหละครับ
แล้วยังไงครับ
ก็ต่อมา อิตาลี โปรตุเกตุ สเปญ ก็แพ้สงครามแก่อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส พวกที่ชนะสงครามก็กลายเป็นเจ้ามหาสมุทร
อังกฤษ ทำได้อย่างไรครับ ถึงได้เป็นเจ้าโลก ดินแดนที่อาทิตย์ไม่ตกดิน ? ดูจากแผนที่นี้ครับ ดูพื้นที่สีชมพูนะครับ แดนอาณานิคมของอังกฤษ
BRITISH EMPIRE
สีชมพูแสดงอาณานิคมของอังกฤษ ดูอินเดียและพม่าทางบ้านเรา และดูคานาดา ออสเตรเลีย ครับ
ข้อความต่อไปนี้ครับ ที่ดูเป็นเหตุผลที่ดีที่สุด ว่าทำไม อังกฤษจึงได้ครอบอินเดียไว้ได้อย่างง่ายดายที่สุด และได้แผ่นดินทั้งโลกเป็นอาณานิคมของตน ตามแผนที่ข้างต้น ดังนี้ครับ
<<< The tremendous success of the British is not only because of their great stratergies and weapons but because of their skillful diplomatic relations with the Indian rulers through the "alliance system" which was introduced in the nineteenth century. >>>
<<< ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของพวกอังกฤษไม่ใช่เพียงเกิดจากพวกเขามียุทธศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และมีอาวุธที่ยิ่งใหญ่มากเท่านั้น แต่เกิดจากความเชี่ยวชาญในด้านสัมพันธ์ทางการทูตกับพวกนักปกครองอินเดีย โดยผ่าน"ระบบร่วมมือกัน" ซึ่งถูกนำมาใช้ในศตวรรษที่ 19 นี้ >>>
นั่นแหละครับ อารยธรรมที่เหนือกว่าย่อมชนะ
และอินเดียนั้นคร่ำครึด้วยวัฒนธรรมเทพเจ้า ที่ล้าหลัง ไร้เหตุผลและไร้สติอย่างยิ่ง มาจนถึงทุกวันนี้ยิ่งมีเทพเจ้าหลายล้านคนมากกว่าเก่าอีก(รายงานล่าสุดมี 330 ล้านองค์) ดังปรากฎในภาพยนต์ฝรั่งเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับการเดินทางไปสู่อินเดียเพื่อการแสวงโชค และแสวงหาสมบัติเพื่อนำกลับไปประเทศของเขา ปรากฎว่ามีการท้าทายกันเรื่องพระเจ้า พวกฝรั่งก็บอกว่าพวกเขาก็นับถือ และมีพระเจ้าของเขา แต่พระเจ้าของเขาเก่งกว่าพระเจ้าของอินเดีย แล้วให้ไปดูแสงวิเศษที่พระเจ้าจะส่งลงมาในเวลาเที่ยงคืน ปรากฎว่า เขาใช้ไฟฉายฉายขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำแสงสั้น ๆ ยาว ๆ ทำให้วูบ ๆ วาบ ๆ ไปต่าง ๆ พวกอินเดียเมืองนั้นไม่เคยเห็นแสงจากไฟฉายก็เชื่อว่าเป็นแสงจากพระเจ้าเบื้องบน ก็ยอมรับพระเจ้าของฝรั่ง แล้วก็ยอมรับพวกฝรั่งอังกฤษเป็นนายของพวกเขา แล้วทั้งหมดแผ่นดินอินเดีย ก็กลายเป็นขี้ข้าอังกฤษอยู่ร่วม 300 กว่าปี จึงได้เป็นเอกราช (แล้วอินเดียนี่ก็ภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ตนเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ สรรเสริญออกไปว่าอังกฤษเป็นนายที่ดีวิเศษต่าง ๆ ที่น่ากราบน่าไหว้น่านับถือ)
มาดูแผนที่อีกแผนที่หนึ่งครับ
ดูได้ครับ
โปรดดูเส้นที่แบ่งเขตแดนให้ดีครับ
.jpg)
แผนที่ของฝรั่งเศส ช่องละ 2 ตารางกิโลเม้ตร ใช้ในศาลโลก ปี 2505.
โปรดดู Line 1, Line by French-Siamese Commision 1907[พ.ศ.2440]
ซึ่งเขาอ้างด้วยว่าเส้นแดนนั้นทำโดยคณะกรรมการฝรั่งเศส-ไทยในปี 1907[พ.ศ.2440]
ทำไมศาลโลกเขาจึงเชื่อแผนที่ฝรั่งเศษ ไม่เชื่อแผนที่ของประเทศไทยคนไทยเขียน ก็เลยถูกตัดสินว่า เขาพระวิหารอยู่ในเขตประเทศเขมร ตามเส้นแบ่งเขตไทย-เขมร ที่ฝรั่งเศษเขียนเอาไว้ ไทยก็แพ้ความคดีเขาพระวิหาร ปี 2505
ก็เขาเชื่อประเทศที่เจริญด้วยอารยธรรมที่เหนือกว่าไงครับ และเส้นที่ฝรั่งเศสเขียนก็ดูมีเหตุผลกว่า คือเป็นเส้นเขตแดนที่ทำร่วมกันของคณะกรรมการร่วมฝรั่งเศส-ไทย ไม่ใช่ฝรั่งเศสทำฝ่ายเดียว (และยังมีเหตุผลด้านการคมนาคมคือเปิดทางให้เขมรขึ้นเขาพระวิหารได้จากแผ่นดินราบ ไม่ต้องปีนหน้าผาเป้ยตาดีขึ้นไปซึ่งมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว)
แล้วที่น่าแปลกมาก ๆ ก็คือว่า ทำไมทนายความไทย(มี มรว.เสนีย์ ปราโมช หน.พรรคประชาธิปัตย์) จึงไม่เคยรู้เลยว่าฝรั่งเศสก็เขียนแผนที่ชายแดน ด้านปราสาทเขาพระวิหารไว้ ทำไมไม่เอามาตรวจสอบดูก่อนจะเดินทางไปว่าความกับเขา และน่าจะเห็นว่า เราน่าจะเป็นรองเขาแน่ ๆ ในเรื่องแผนที่ แล้วทำไมไม่เอามาตรวจดู ไม่หาทางสู้เขาในเรื่องแผนที่นี้
จะไปเถียงศาลโลกเขาว่า แผนที่ฝรั่งเศศ เชื่อถือไม่ได้ อย่างนั้นหรือ โอ๊ะ ..... คิดอย่างนี้ได้อย่างไร ?
- ผู้แสดงความคิดเห็น นายวิจัยประชาธิปไตย
วันที่ 25 สิงหาคม 2558 21.41 น.
ความเห็นที่ 64
แถมข้อมูล อินเดีย-จีน-สหรัฐ สักหน่อยนะครับ เอามาจากแผนที่ของรีดเดอร์ส ไดเจสท์ สมุดภาพแผนที่โลก (มกราคม 2546)
อินเดีย สาธารณรัฐอินเดีย จีน สาธารณรัฐประชาชนจีน สหรัฐ USA สหรัฐอเมริกา
พื้นที่ 3,287,263 ตร.กม. จีน 9,572,149 ตร.กม. สหรัฐ 9,809,155 ตร.กม.
ประชากร 1,027,015,000 คน(อันดับ 2 ของโลก รองจากจีน) จีน 1,273,050,000 คน สหรัฐ 270,560,000 คน
จำนวนผู้ใหญ่ที่รู้หนังสือ อินเดีย 55.8 % จีน 85 % สหรัฐ มากกว่า 95 %
- ผุ้แสดงความคิดเห็น นายวิจัยประชาธิปไตย
วันที่ 6 สิงหาคม 2558 21.50 น.
ความเห็นที่ 65
ดูแผนที่ต่อไปอีกหนึ่งแผนที่นะครับ
(5).gif)
Territorial losses of Siam 1862-1909
การสูญเสียเขตชายแดนของสยามระหว่างปี 1862-1909 (พ.ศ.2405-2452)
เสียอะไรบ้าง โปรดดูดี ๆ นะครับ ดูตามแผนที่ฝรั่งข้างต้นนั้นแหละครับ ฃ่วง 47 ปีของสถานการณ์นักล่าเมืองขึ้น อังกฤษ - ฝรั่งเศส สยามเสียอะไรบ้าง ? ก็เริ่มแต่เสีย Cochinchina แผ่นดินตอนใต้ของเวียดนามใต้ปัจจุบัน ในปี 1862 (พ.ศ.2405)ก่อนเพื่อน ให้แก่ฝรั่งเศส ปี 1867 (พ.ศ.2410) ก็เสีย Cambodia เขมร ให้แก่ฝรั่งเศส ปี 1869(พ.ศ.2412)เสียแผ่นดินฝั่งทะเลอันดามานให้แก่อังกฤษ จากนั้นก็เสียแผ่นดินที่เป็นลาว เขมร ทั้งหมด ในปี 1888 1893 1904 1907 รวมทั้งเสีย Shanstates แก่อังกฤษ ในปี 1893(พ.ศ. 2436) พร้อมกับรัฐกลันตัน และรัฐตรังกานู ให้อังกฤษ ในปี 1909 (พ.ศ.2452) เป็นอันหมดสิ้น
ทำไมฝรั่งไม่ยึดประเทศไทย ? มันอาจจะกลัวกองทัพช้างไทย ที่เห็นในลาวก็ได้นะครับ(ตามภาพ คห.ที่ 62 ครับ) และอีกประการหนึ่ง การจะไปตอแยกับมหาอาณาจักรสยาม ที่มีเมืองขึ้นรอบทิศ เช่นที่ปรากฎจากแผนที่ฝรั่งรับรองนั้น ก็ใช่ว่าจะทำกันได้สบาย ๆ ได้เขตชายแดนสยามไป ทั้งเหนือ อิสาณ ใต้และตะวันออกไปจนหมด ก็นับว่าน่าพอเพียง ...ฝรั่งมันก็คงคิดเช่นนี้แหละครับ ไทยจึงเป็นประเทศหนึ่งในโลก ที่ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของนักล่าอาณานิคมตะวันตกยุคนั้นเลย ในขณะที่ประเทศทั้งหมดในเอเซีย และทั่วโลกต่างตกเป็นอาณานิคมของตะวันตก - อเมริกาไปตาม ๆ กัน จนแทบว่าทั้งโลกก็ว่าได้(ดูแผนที่อังกฤษ ตามคห.63 ซีครับ นั่นเป็นเพียงอังกฤษประเทศเดียว ถ้านับฝรั่งเศส อเมริกา และประเทศตะวันตกอื่น ๆ อีก โลกยุคนั้นก็ล้วนแต่เป็นประเทศเมืองขึ้นเขา)
แล้ว ประเทศสยาม หรือ ไทย นี้ จะไม่เป็นประชาธิปไตย ได้อย่างไร ?
ความเป็นชาติเอกราช และมีประชาชนที่เป็นอิสรภาพ ไม่เคยเป็นขี้ข้าของใคร แต่เป็นไทยร้อยเปอร์เซ็นต์มาร่วมร้อย ศตวรรษ จะอยู่ใต้ระบอบเผด็จการ เป็นขี้ข้านักปกครองเผด็จการทหารโง่ ๆ ไปได้อย่างไร กัน ?
คือ คำว่า Liberty Equality และ Fraternity หรือ อิสรภาพ เสมอภาค และ ภราดรภาพ นี้เป็นภาษาประชาธิปไตย และบอกถึงประชาชนไทยอย่างสมบูรณ์ นั่นเองครับ
- ผู้แสดงความคิดเห็น นายวิจัยประชาธิปไตย
วันที่ 18 สิงหาคม 2558 23.35 น.
กรุณาต่อไป ภาค 6 ครับ
(3).jpg)
โปรดคลิกติดตามต่อไป
กระทู้ 1:เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น
กระทู้ 1 เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ภาค 1
กระทู้ 1 เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ภาค 2
กระทู้ 1 เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ภาค 3
กระทู้ 1 เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ภาค 4
กระทู้ 1 เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ภาค 5
กระทู้ 1 เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ภาค 6
กระทู้ 1 เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ภาค 7
กระทู้ 1 เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ภาค 8
กระทู้ 1 เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ภาค 9
กระทู้ 1 เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ภาค 10
กระทู้ 1 เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ภาค 11
กระทู้ 1 เพื่อประชาธิปไตยเท่านั้น ภาค 12
กระทู้ 2: ประชาธิปไตยคือลมหายใจแห่งชีวิต
ประชาธิปไตยคือลมหายใจแห่งชีวิต ภาค 1
ประชาธิปไตยคือลมหายใจแห่งชีวิต ภาค 2
ประชาธิปไตยคือลมหายใจแห่งชีวิต ภาค 3
ประชาธิปไตยคือลมหายใจแห่งชีวิต ภาค 4
ประชาธิปไตยคือลมหายใจแห่งชีวิต ภาค 5
ประชาธิปไตยคือลมหายใจแห่งชีวิต ภาค 6
ประชาธิปไตยคือลมหายใจแห่งชีวิต ภาค 7
(2).jpg)